ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี ห่วงราคายางพาราอาจต่ำกว่า 35 บาทต่อกิโลกรัม เหตุนักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจจีน เตือนหากรัฐบาลพยุงราคายางพารา จะเป็นปัญหาสะสมในระยะยาวให้เกษตรกร
นายเบญจรงค์ สุวรรณคีรี ผู้อำนวยการอาวุโส ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี กล่าวว่า ราคายางพาราในประเทศมีโอกาสปรับลดลงมากกว่าปัจจุบัน ซึ่งอยู่ที่ 35 บาทต่อกิโลกรัม เนื่องจากเศรษฐกิจจีน ซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้าสินค้าโภคภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นตลาดส่งออกของไทยในสัดส่วนร้อยละ 80-90 ของการส่งออกยางพาราของไทย ยังชะลอตัว ประกอบกับราคาน้ำมันยังลดลงต่อเนื่อง และ ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีเศรษฐกิจจีน ยังไม่ฟื้นตัว ดังนั้นมีโอกาสที่ราคายางพาราอาจจะตกมาอยู่ที่ 30 บาทต่อกิโลกรัมได้
โดยต้องยอมรับปัจจัยที่กระทบราคายางพารา ไม่ได้มาจากปัจจัยพื้นฐาน แต่มาจากความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจจีนที่ลดลงเป็นหลัก นอกจากนี้การใช้ยางพาราในประเทศยังไม่ได้เพิ่มขึ้น ขณะที่การผลิตยางพารายังออกสู่ระบบอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นหากราคายางพารายังร่วงต่อ อาจจะต้องมีการทบทวนตัวเลขการส่งออกของไทยในปีนี้ใหม่ จากเดิมคาดว่าจะโตร้อยละ 1.8
นายเบญจรงค์ กล่าวว่า หากรัฐบาลจะเข้ามาพยุงราคายางพาราให้สูงขึ้น ด้วยการอุดหนุน เป็นการแก้ไขปัญหาระยะสั้นเท่านั้น เนื่องจากเป็นการบิดเบือนกลไกลตลาด จะเกิดปัญหาสต็อกยางพาราล้นตลาด และจะสร้างปัญหาให้เกษตรกรในระยะยาว รัฐบาลควรเน้นการแก้ปัญหาด้วยการเพิ่มกำลังซื้อให้เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบโดยตรง และให้ตรงจุด ส่วนปัจจัยที่จะหนุนให้ราคายางพาราสูงขึ้นได้ คือความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจต้องดีขึ้น ซึ่งขึ้นอยู่กับการแก้ปัญหาของรัฐบาลจีนเอง
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่จะช่วยเศรษฐกิจไทย คือรัฐบาลต้องเร่งลงทุนโครงการภาครัฐ เพื่ออัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ และ รัฐบาลไม่สามารถชะลอการลงทุนได้ รวมทั้งรัฐต้องเชื่อมการลงทุนกับทุกภาคส่วนโดยเฉพาะการลงทุนกับภาคเอกชน เพื่อให้มีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ