นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่าน Facebook เกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองว่า
ทางออกประเทศไทย
หลายคนบอกว่า "ชูวิทย์เอาแต่วิจารณ์ เอาแต่ด่า ไม่มีจุดยืน จะเข้าข้างไหนเอาให้ชัดๆ"
วันนี้อภิปรายไม่ไว้วางใจ ผมไม่ได้อภิปราย เพราะผมไม่เห็นประโยชน์ในการอภิปราย เนื่องจากนอกสภาฯบ้านเมืองกำลังจะ "ลุกเป็นไฟ" คุณสุเทพบอกว่า "จะล้มระบอบทักษิณ จะปฏิรูปการเมือง" ผมขอเรียนให้ทราบว่า ระบอบทักษิณฝังรากลึกอยู่ในสังคมและการเมืองไทย เป็นเวลามากกว่าสิบปีแล้ว ทั้งกลุ่มทุน ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และการเมือง
คุณทักษิณเป็นเสมือน "ผี" มีทั้งคนกลัว คนเกลียด คุณทักษิณไม่ได้อยู่แม้กระทั่งเมืองไทย แต่ตามหลอกหลอนไม่จบไม่สิ้น เดี๋ยวผลุบเดี๋ยวโผล่ แม้กระทั่งเคย "จับลงหม้อลอยน้ำ" ก็ยังกลับมาได้อีก
คุณสุเทพประกาศจะล้มระบอบทักษิณภายใน "สามวันเจ็ดวัน" หรือให้เสร็จสิ้นภายใน "สิ้นเดือนนี้"
อย่าหาว่าผมดูถูก หากทำได้จริง คุณสุเทพเป็นนักการเมืองมากว่า 20 ปี ทำไมคุณสุเทพไม่ทำ? หรือทำไม่ได้? ตอนคุณสุเทพเป็น "รองนายกฯ" คุณอภิสิทธิ์เป็น "นายกฯ" พรรคประชาธิปัตย์เป็น "รัฐบาล" ยังทำอะไรคุณทักษิณไม่ได้ ระบอบทักษิณยังคงอยู่ ถ้าทำได้จริง ระบอบทักษิณคงหมดไปจากประเทศไทยตั้งนานแล้ว
นับประสาอะไรกับตอนนี้ที่คุณสุเทพอยู่ข้างถนน มีหมายจับติดตัว จะไปล้มระบอบทักษิณได้?
การอภิปรายไม่ไว้วางใจวันนี้ หากพรรคประชาธิปัตย์ยังคงดำเนินการอภิปรายตามกระบวนการของสภาฯ เป็นการทำให้ "พิธีกรรมเดินหน้า" ดูน่าเชื่อถือ รัฐบาลมาตอบ ฝ่ายค้านกล่าวหา พูดเท็จในสภาฯบ้าง ประท้วงกันบ้าง เสร็จแล้วลงมติก็รู้อยู่ว่า "ไม่มีทางชนะ"
เท่ากับเวลาที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์เองมีส่วนทำให้ระบอบทักษิณเติบโต แข็งแรง จนถึงทุกวันนี้
วันนี้ ทางออกไม่ได้อยู่ในสภาฯเสียแล้ว แม้ว่าผมเป็น ส.ส. แต่เห็นแล้วว่า การเมืองนอกสภาฯมันรุนแรงเกินกว่าที่ ส.ส. จะทำหน้าที่ในสภาฯได้
การปล่อยให้คุณสุเทพอยู่นอกสภาฯ พร้อมกับอดีต ส.ส. อีก 8 ท่าน มันดู "โดดเดี่ยว" และ "ไม่มีน้ำใจ" คุณสุเทพบุกไปตามสถานที่ราชการต่างๆ มันดูก้ำกึ่ง มีทั้งคนเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย แม้กระทั่งคุณกรณ์ ที่พูดในสภาฯว่า "ไม่เห็นด้วยกับคุณสุเทพ" ทั้งๆที่อยู่พรรคเดียวกันแท้ๆ สามารถเอาไปพูดกันภายในพรรคได้ ดูแล้วเหมือนพรรคประชาธิปัตย์กับคุณสุเทพเล่นกันคนละหน้า พรรคประชาธิปัตย์เล่นในสภาฯ ส่วนคุณสุเทพลาออกไปเล่นนอกสภาฯ ความแข็งแกร่งมันไม่มี
จำได้ไหม? สมัยหนึ่งพรรคประชาธิปัตย์ไม่ยอมลงเลือกตั้งเมื่อปี 2548 ทำให้พรรคไทยรักไทยในขณะนั้น ที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นหัวหน้าพรรค ต้องไปจ้างพรรคเล็กมาแกล้งลงแข่ง เพื่อให้การเลือกตั้งดำเนินต่อไป แล้วท้ายสุด ผลการเลือกตั้งครั้งนั้นถูกล้มไป และต่อมาพรรคไทยรักไทยก็ถูกยุบ
หากรัฐบาลไม่ลาออก ไม่ยุบสภา คุณสุเทพจะต้องตามปิดล้อมอีกกี่กระทรวง ทบวง กรม ศาลากลาง ถึงจะชนะ?
ผมขอบอกวิธีการคือ ให้พรรคประชาธิปัตย์ "ลาออกจาก ส.ส. ทั้งพรรค" ไปร่วมกับคุณสุเทพ แสดงถึงความจริงใจ สร้างแนวทางการต่อสู้ที่ชัดเจน ให้ความมั่นใจกับประชาชนที่อยู่ "ตรงกลาง"
พรรคประชาธิปัตย์มีแฟนประจำอยู่ 10 ล้าน พรรคเพื่อไทยมีแฟนประจำอยู่ 10 ล้าน คนตรงกลางมี 20 ล้าน ไม่ใช่ "เล่นการเมืองสองหน้า จับปลาสองมือ" ขาข้างหนึ่งบอกว่ารัฐบาลไม่มีความชอบธรรม ไม่เชื่อฟังศาล แต่ขาอีกข้างหนึ่งยังสังคายะกรรมพิธีกรรมในสภาฯคู่ขนานไป
จะไปพึ่ง "ศาลรัฐธรรมนูญ" ให้ตัดสิน 312 ส.ส. ส.ว. ถึงชนะได้จริง แต่มัน "ไม่สง่างาม"
หาก ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ลาออกทั้งพรรคไปสู้กับคุณสุเทพ ในสภาฯจะไม่เหลือฝ่ายค้าน พรรคฝ่ายค้านอันดับสองคือ "พรรคภูมิใจไทย" รู้กันอยู่ว่ามีใจอยากไปร่วมรัฐบาลอยู่แล้ว
ส่วนผมขอยืนยัน หากพรรคประชาธิปัตย์ลาออกทั้งพรรค ผมยินดี "ลาออกร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์" ด้วย
ผมฟันธง หากคุณสุเทพต้องโดดเดี่ยวอยู่นอกสภาฯ แล้วพรรคประชาธิปัตย์ยังอยู่ในสภาฯแบบนี้ จะล้มระบอบทักษิณ ต้องรอหิมะตกที่เมืองไทยหน้าหนาวนี้ซะก่อน ถึงจะชนะ