มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเผย10 ธุรกิจ ดาวรุ่ง-ร่วง ปี 59 โดยธุรกิจการแพทย์ และความงามครองแชมป์ธุรกิจดาวรุ่ง 5 ปีซ้อน ขณะที่งานหัตถกรรม ติดโผลำดับที่ 1 ของธุรกิจดาวร่วงในปี 2559
นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และนายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ร่วมกันเปิดเผยผลการจัดอันดับ 10 ธุรกิจเด่นในปี 2559 โดยประเมินจากยอดขาย , ต้นทุน , การรับมือกับความเสี่ยง , กำไร และกระแสความต้องการของตลาด พบว่าธุรกิจทางการแพทย์และความงาม ยังครองอันดับ 1 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 นับตั้งแต่ปี 2554 ด้วยคะแนนรวม 93.1 เนื่องจากกระแสการให้ความสำคัญกับการรักษาสุขภาพ และการดูแลความงามมากขึ้น ซึ่งประเทศไทยได้รับการยอมรับจากทั้งในและต่างประเทศ ในด้านคุณภาพและราคาไม่แพง
รองลงมาเป็นธุรกิจเทคโนโลยีสื่อสาร ได้คะแนน 91.3 เนื่องจากการเข้าสู่ยุค Digital Economy และ 4G ทำให้มีการพัฒนาระบบสื่อสารที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ความต้องการใช้ระบบสื่อสารมีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนธุรกิจเด่นอันดับ 3 ได้คะแนน 90.6 ได้แก่ ธุรกิจเครื่องสำอางและครีมบำรุงผิว อันดับ 4 เป็น ธุรกิจการท่องเที่ยว สำหรับอันดับ 5 ได้แก่ธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต
ส่วนอันดับที่ 6 คือธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะเพื่อสุขภาพ และอันดับ 7 ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ ขณะที่อันดับ 8 ได้คะแนนเท่ากัน 2 ประเภทธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจจัดการตลาด เช่น ตลาดนัดและตลาดสด หรือตลาดนัดกลางคืน และธุรกิจขายวัสดุก่อสร้าง - ธุรกิจก่อสร้าง ส่วนอันดับ 9 ได้คะแนนเท่ากัน 2 ประเภทธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจจำหน่ายและผลิตภัณฑ์สำหรับผู้สูงอายุ และธุรกิจยาเวชภัณฑ์ และสมุนไพรธรรมชาติ และอับดับที่ 10 ก็ได้คะแนนเท่ากัน 2 ประเภทธุรกิจเช่นกัน ได้แก่ธุรกิจพลังงานทดแทนและพลังงานหมุนเวียน
ทั้งนี้ปัจจัยสนับสนุนการดำเนินธุรกิจในปี 2558 ประกอบไปด้วย มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก สถานการณ์การเมืองที่มีเสถียรภาพ และการพัฒนาโครงข่าย 4G สำหรับ 10 อันดับ ธุรกิจดาวร่วงปี 2559 ประกอบไปด้วย 1) ธุรกิจหัตถกรรม 2) ธุรกิจฟอกย้อม 3) สิ่งทอผ้าผืน 4) ธุรกิจจำหน่าย ผักและผลไม่อบเเห้ง และ ธุรกิจร้านค้าดั้งเดิมที่ไม่ปรับตัว 5) กิจรับซื้อยาง 6) โรงสีขนาดเล็ก 7) ธุรกิจสิ่งพิมพ์หนังสือ 8) ธุรกิจรับซื้อคอมพิวเตอร์มือสอง และร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือสอง 9) ธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องจักรทางการเกษตร 10) ธุรกิจพ่อค้าคนกลางให้ผลทางการเกษตร
สำหรับปัจจัยที่บั่นทอนการดำเนินธุรกิจในปี 2559 ประกอบไปด้วย ราคาน้ำมันที่ลดลง มาตรฐานและความปลอดภัยในการผลิตพลังงาน มูลค่าการลงทุนยังอยู่ในระดับสูง การขาดแคลนวัตถุดิบในการผลิตพลังงานบางชนิด และความแปรปรวนของสภาพอากาศ รวมทั้งภัยธรรมชาติ ส่วนภาวะเศรษฐกิจในปีหน้า คาดว่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 4.0 โดยมีปัจจัยมาจากการส่งออกที่คาดว่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 4.0 การบริโภคภายในประเทศขยายตัวร้อยละ 3.7 การลงทุนขยายตัวร้อยละ 6.2 อุตสาหกรรมขยายตัวร้อยละ 3.6 ภาคเกษตรขยายตัวได้ร้อยละ 0.7 และอัตราเงินเฟ้อที่ร้อยละ 1.4
+ อ่านเพิ่มเติม