ทั่วโลกจับตา "ซูเปอร์มูน" ปรากฏการณ์หาดูยาก  ในรอบ 33 ปี
logo ข่าวอัพเดท

ทั่วโลกจับตา "ซูเปอร์มูน" ปรากฏการณ์หาดูยาก ในรอบ 33 ปี

ข่าวอัพเดท : ผู้คนทั่วทุกมุมโลกต่างเฝ้ารอชมปรากฏการณ์ซูเปอร์มูน ซึ่งจะเกิดขึ้นพร้อมกับจันทรคราสเต็มดวง ครั้งแรกในรอบ 33 ปี ในช่วงคืนวันอาทิตย์จนถ จันทรคราส,ซูเปอร์มูน,ปรากฎการณ์ธรรมชาติ,ดวงจันทร์,วิทยาศาสตร์

95,264 ครั้ง
|
25 ก.ย. 2558
ผู้คนทั่วทุกมุมโลกต่างเฝ้ารอชมปรากฏการณ์ซูเปอร์มูน ซึ่งจะเกิดขึ้นพร้อมกับจันทรคราสเต็มดวง ครั้งแรกในรอบ 33 ปี ในช่วงคืนวันอาทิตย์จนถึงเช้าวันจันทร์ที่จะถึงนี้ (27-28 ก.ย. 2558) และคาดว่าจะเกิดขึ้นอีกครั้งในปี 2576 เลยทีเดียว
 
 
 
 
ในทางดาราศาสตร์แล้ว ปรากฏการณ์ซูเปอร์มูนคือจันทร์เพ็ญหรือจันทร์ดับ ซึ่งเกิดขึ้นในเวลาเดียวกับการที่ดวงจันทร์โคจรเข้าใกล้โลกมากกว่าปกติ ส่งผลให้ผู้คนบนโลกสามารถมองเห็นดวงจันทร์ขนาดใหญ่และสว่างกว่าปกตินั่นเอง
 
แผนที่นี้แสดงให้เห็นว่าพื้นที่ของโลกที่ผู้คนสามารถมองเห็นจันทรุปราคารวม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทวีปอเมริกา และในส่วนที่ภาคตะวันออกจะมีมุมมองเห็นที่ดี
 
 
 
ถ้าโลกไม่มีชั้นบรรยากาศดวงจันทร์จะปรากฏสีดำมืดในช่วงจันทรุปราคา แต่อย่างไรก็ตามบางส่วนของแสงสีแดงจากดวงอาทิตย์ได้หักเหผ่านชั้นบรรยากาศและเข้าไปในเงาของโลก ทำให้มองเห็นแสงจากดวงจันทร์ในช่วงเวลานั้น
 
 
ภาพแสดงพื้นที่ของโลกในส่วนที่ประชาชนจะได้เห็นปรากฏการณ์ซูเปอร์มูน ซึ่งส่วนมากเป็นพื้นที่ของทวีปอเมริกาเหนือ, อเมริกาใต้, แอฟริกาและยุโรป
 
ซูเปอร์มูนจะมองเห็นได้ในทวีปอเมริกา, ยุโรป, แอฟริกา, เอเชียตะวันตกและภาคตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิกในคืนวันที่อาทิตย์กันยายน 27
 
 
 
 
 
 
โดยนักดาราศาสตร์เผยว่า ปรากฏการณ์ซูเปอร์มูนนี้จะคงอยู่นานกว่า 1 ชั่วโมง และสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า บนท้องฟ้าฝั่งตะวันออกของอเมริกาเหนือ, อเมริกาใต้, ยุโรป, แอฟริกา และเอเชียตะวันตก ซึ่งการมองเห็นจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละพื้นที่
 
 
 
รูปภาพนี้ถูกนำมาจากวิดีโอที่แสดงให้เห็นว่า ดวงจันทร์จะผ่านเงาของโลกในช่วงจันทรุปราคา 28  กันยายน 2015
 
รูปภาพจากวิดีโอนี้แสดงให้เห็นว่าซูเปอร์มูน ในวันที่ 27-28 กันยายน 2015 จะเกิดขึ้นเมื่อดวงจันทร์อยู่ที่จุดที่ใกล้เคียงที่สุดในวงโคจรของมันกับโลก วงกลมสีฟ้าด้านในแสดงระยะทางจุดที่ดวงดาวอยู่ใกล้โลกที่สุด ที่วงกลมสีน้ำเงินด้านนอกแสดงระยะทางจุดสุดยอด และวงกลมสีเทาอ่อนตรงจุดกึ่งกลางแสดงให้เห็นวงโคจรของดวงจันทร์
 
 
 
 
 
 
 
ขอบคุณรูปภาพจาก NASA's Scientific Visualization Studio