เปิดไดอารี่  'ยายริปเปอร์'  ผู้ถูกกล่าวถึงว่าเป็นมนุษย์กินคน
logo ข่าวอัพเดท

เปิดไดอารี่ 'ยายริปเปอร์' ผู้ถูกกล่าวถึงว่าเป็นมนุษย์กินคน

ข่าวอัพเดท : Tamara Samsonova วัย 68ปี ยอมรับว่าเธอได้ฆ่าคนทั้งสิ้น 11 ราย โดยเรื่องราวทั้งหมดได้บันทึกไว้ในไดอารี่ที่เธอเก็บไว้ เป็นบันทึกที่น่า Tamara Samsonova,อาชญากรรม,ฆ่าตกรรม,มนุษย์กินคน

15,880 ครั้ง
|
11 ส.ค. 2558
Tamara Samsonova วัย 68 ปี ยอมรับว่าเธอได้ฆ่าคนทั้งสิ้น 11 ราย โดยเรื่องราวทั้งหมดได้บันทึกไว้ในไดอารี่ที่เธอเก็บไว้ เป็นบันทึกที่น่าสยดสยองของการก่ออาชญากรรม
 
ฆาตกรต่อเนื่องที่ต้องสงสัยว่าเป็นมนุษย์กินคน เธอถูกขนานนามว่า 'ยายริปเปอร์' ซึ่งอาจจะเคยฆ่าและกินเนื้อของมนุษย์ที่ตกเป็นเหยื่ออย่างน้อย 10 คนหรือมากกว่านั้น
 
เมื่อเธอต้องขึ้นศาล ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ยาย Samsonova บอกกับผู้พิพากษาว่า "ฉันมีความผิดและสมควรที่จะได้รับการลงโทษ" ก่อนที่จะส่งจูบประกอบคำสารภาพ และเมื่อผู้พิพากษาประกาศว่าเธอจะต้องถูกคุมขัง เธอกลับตบมือของเธอและยิ้มออกมา
 
 
Tamara Samsonova
 
 
Tamara Samsonova
 
 
ข้อความบางส่วนในไดอารี่ของเธอยังมีคำสารภาพว่าได้ลงมือฆ่าหนึ่งในอดีตผู้เช่าบ้านของเธอด้วย โดยเขียนว่า "ฉันฆ่าผู้เช่าบ้านของฉัน ตัดเขาออกเป็นชิ้น ๆ ด้วยมีดในห้องน้ำ นำร่างใส่ถุงพลาสติกและโยนศพไว้ที่เขต Frunzensky"

ในไดอารี่พบว่ายาย Samsonova  อธิบายการลงมือฆาตกรรมของเธอที่เกิดขึ้นมานานกว่าสิบปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้ Samsonova ยังเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นคนฆ่าสามีของเธอเอง ซึ่งมีรายงานว่าหายตัวไปในปี 2005 และไม่มีใครเคยพบเขาหรือศพของเขาอีกเลย
 
 
Tamara Samsonova
 
 
คนงานในโรงแรมที่เธอเคยทำงาน เล่าว่า ไดอารี่ของยาย Samsonova ที่เก็บไว้ในรัสเซีย เป็นเรื่องราวความลับเกี่ยวกับความตายทั้งสิ้น และยังพบหนังสือที่เกี่ยวกับมนต์ดำและโหราศาสตร์อีกด้วย
 
ในบ้านพักของเธอตำรวจพบเลื่อย, มีด, และจุดเลือดในห้องน้ำ แต่ตำรวจนักสืบไม่สามารถบังคับให้เธอบอกว่าชิ้นส่วนของหัวผู้ตายที่หายไปถูกซ่อนไว้ที่ใด
 
ขณะนี้ เจ้าหน้าที่รัสเซียอยู่ในขั้นตอนเปรียบเทียบ ระหว่างไดอารี่ที่ซับซ้อนของเธอกับกรณีที่รู้จักกันดีอย่างคดีฆาตกรรมปริศนาที่ชิ้นส่วนของร่างกายเหยื่อถูกบรรจุในถุงทิ้งเกลื่อนไปทั่วเมือง
 
ยาย Samsonova พูดกับผู้สื่อข่าวหลังจากที่ถูกคุมขังในห้องขังว่า "ฉันรู้ว่านักข่าวจะมา มันเป็นความอับอายสำหรับฉันที่ทุกเมืองจะได้รู้เรื่องนี้ "
 
 
 
 
 
ขอบคุณข้อมูลจาก www.mirror.co.uk
ขอบคุณรูปภาพจาก East2West News