คู่กรณีตำรวจ ในคลิปยกรถจักรยานยนต์ไปตรวจสอบย่านประตูน้ำ ที่มีการโพสต์แชร์กันทางโซเชียลมีเดีย ร้องขอความเป็นธรรมให้สอบวินัย นายตำรวจที่ปรากฎในคลิป เนื่องจากมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับการเป็นเจ้าพนักงานขณะปฎิบัติหน้าที่
นายชัชพงศ์ สราญจิตร์ และบุตรชาย นายกานต์พงศ์ สราญจิตร์ เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ กองบัญชาการตำรวจนครบาลเพื่อร้องเรียนเรื่องพฤติกรรมการทำงานของพันตำรวจโทพัทธนนท์ เกียรติไพบูลย์ สารวัตรงานสายตรวจ กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจจราจร ซึ่งเป็นบุคคลที่ปรากฎในคลิปยกรถจักรยานยนต์ ที่มีการเผยแพร่ผ่านทางโซเชียลมีเดีย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อให้ดำเนินคดีทางวินัยเนื่องจากมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าวและไม่เหมาะสมขณะปฎิบัติหน้าที่ รวมถึงให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนไม่ตรงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหลายประเด็นจนทำให้สังคมมองว่าตนและบุตรชายตกเป็นจำเลยของสังคม
นายชัชพงศ์ เปิดเผยว่าได้เดินทางมาร้องเรียนให้เจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจตรวจสอบพฤติกรรมและลงโทษทางวินัยกับพันตำรวจพัทธนนท์ ซึ่งเบื้องต้นยอมรับว่าบุคคลที่เป็นคู่กรณีและโต้เถียงกับตำรวจในคลิปดังกล่าวคือนาย กานต์พงศ์ สราญจิตร์ บุตรชาย
โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บุตรชายได้กระทำผิดกฎหมายจริงและพร้อมจะทำตามกฏหมายทุกอย่าง แต่วันที่เกิดเหตุทั้ง 2 ฝ่ายต่างใช้อารมณ์รุนแรงจนถึงขั้นมีปากเสียงกัน และมีการใช้คำพูดหยาบคายใส่กัน จนถึงขั้นท้าต่อย ซึ่งตนมองว่าการกระทำของพันตำรวจโทพัทธนนท์ ในฐานะเจ้าพนักงานมีลักษณะพฤติกรรมที่ก้าวร้าว ไม่สุภาพขณะปฎิบัติหน้าที่ รวมถึงไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ อีกทั้งที่ผ่านมา พันตำรวจโทพัทธนนท์ก็ได้ให้ข้อมูลและนำเสนอข่าวในลักษณะบิดเบือนมาโดยตลอด โดยที่ไม่มีการรับฟังข้อมูลจากฝ่ายตนทำให้ ตนและบุตรชายต้องตกเป็นจำเลยสังคมในฐานะอันธพาลสังคม ซึ่งการร้องเรียนในวันนี้ก็เพื่อที่จะมาชี้แจ้งความจริงให้กับสังคมได้รับรู้เท่านั้น
ขณะที่พันตำรวจโทพัทธนนท์ คู่กรณี ก็ได้ชี้แจงต่อสื่อมวลชนว่า การปฎิบัติหน้าที่ในวันเกิดเหตุเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งในวันเกิดเหตุก็ได้ชี้แจงข้อกฎหมายให้กับคู่กรณีทราบแล้ว แต่คู่กรณีไม่ยินยอม และพยายามจะขอรถจักรยานยนต์คืน ส่วนกรณีที่ตนมีพฤติกรรมรุนแรงตามที่ปรากฎในคลิป เป็นเพราะอีกฝ่ายได้พูดจาท้าทายการทำงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งหลังจากนี้จะมีการเรียกสอบวินัย ตนก็พร้อมที่จะชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น