ช็อก พ่อแม่จีนขังลูกสาวในบ้านร้างนาน6ปี หลังบังคับให้เลิกกับแฟนหนุ่ม
logo ข่าวอัพเดท

ช็อก พ่อแม่จีนขังลูกสาวในบ้านร้างนาน6ปี หลังบังคับให้เลิกกับแฟนหนุ่ม

ข่าวอัพเดท : สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเหตุการณ์อันน่าสลดใจที่เกิดขึ้นในมณฑลเหอเป่ย์ ประเทศจีน หลังพ่อแม่ขังลูกสาวไว้ในบ้านร้างนานถึง 6 ปี ท่ามกลา จีน,ขัง,ลูกสาว,บ้านร้าง,ต่างประเทศ,เรื่องเล่าเช้านี้

181,935 ครั้ง
|
27 ก.พ. 2558

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเหตุการณ์อันน่าสลดใจที่เกิดขึ้นในมณฑลเหอเป่ย์ ประเทศจีน หลังพ่อแม่ขังลูกสาวไว้ในบ้านร้างนานถึง 6 ปี ท่ามกลางสภาพความเป็นอยู่ที่ไม่เหมาะสม

 

ข่าวอัพเดท : ช็อก พ่อแม่จีนขังลูกสาวในบ้านร้างนา

 

รายงานข่าวระบุว่า หญิงสาวเคราะห์ร้ายมีชื่อว่า "จาง ฉี" วัย 24 ปี เธอใช้ชีวิตสุดรันทดในโรงเก็บของรกร้างอันแสนสกปรกมานานถึง 6 ปี โดยมีความเป็นอยู่ไม่แตกต่างจากสัตว์ หลังพ่อแม่สั่งให้เลิกกับแฟนหนุ่ม เพียงเพราะไม่ชอบเขา เธอพยายามจะหนีออกจากบ้านหลายต่อหลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ ก่อนที่พ่อแม่ของเธอจะป่าวประกาศกับทุกคนว่าเธอมีอาการป่วยทางจิตและจับตัวไปกักขัง โดยอ้างว่าเป็นการปกป้องลูกสาว

 

ข่าวอัพเดท : ช็อก พ่อแม่จีนขังลูกสาวในบ้านร้างนา

 

ด้าน นายโช เจิน พลเมืองดี วัย 50 ปี ระบุว่า พ่อแม่ของเธอเป็นผู้มีอิทธิพลมากในหมู่บ้าน ทำให้ทุกคนไม่กล้าเข้าไปก้าวก่าย ทั้งที่ก็รู้ดีว่าพวกเขาขังลูกสาวไว้ในบ้านหลังนั้น แต่เขาไม่แคร์หากจะถูกคุกคาม เพราะย้ายบ้านไปอยู่ที่อื่นแล้ว นานๆ ครั้งถึงจะกลับมาเยี่ยม ทำให้เขาตัดสินใจนำรูปถ่ายโพสต์ในโลกออนไลน์ ประกาศให้โลกรู้ถึงสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้น  หลังจากหน่วยงานท้องถิ่นปฏิเสธการช่วยเหลือ

 

ข่าวอัพเดท : ช็อก พ่อแม่จีนขังลูกสาวในบ้านร้างนา

 

นายโช เจิน  ยังระบุอีกว่า เขาจะแอบมาเยี่ยมเธอทุกครั้งที่กลับมาเยี่ยมญาติช่วงตรุษจีน โดยครั้งสุดท้ายที่เจอกัน เขาพบหญิงสาวนอนอิดโรยอยู่บนกองฟาง ใกล้ๆ มีถังน้ำและถุงอาหารวางอยู่รอบๆ ตัว เป็นภาพที่น่าสังเวชใจอย่างมาก เพราะไม่ว่าเธอจะป่วยตามที่พ่อแม่บอกจริงหรือไม่ แต่การที่เธอถูกเลี้ยงดูเหมือนสัตว์ ทำให้เขารู้สึกแย่มาก จนตัดสินใจแจ้งตำรวจและยื่นมือช่วยเหลือเธอ

 

 

 

รายงานข่าวยังระบุอีกว่า จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีหน่วยงานของทางการออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวแต่อย่างใด แต่มีรายงานแจ้งว่ามีหลายภาพที่ถูกกองเซ็นเซอร์ของจีนลบทิ้งจากอินเทอเน็ตแบบไร้เหตุผล

 

 

ภาพจาก www.metro.co.uk ,www.mirror.co.uk

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง