เคยไหม ? รู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่เก็บแต้มครบแล้วได้ของรางวัล หรือมีแรงฮึดขึ้นมาแค่เพราะอยากติดอันดับบนกระดานคะแนน ถ้าเคย นั่นแสดงว่าคุณกำลังเจอกับสิ่งที่เรียกว่า "Gamification" โดยไม่รู้ตัว
Gamification คืออะไร ?
Gamification คือ กระบวนการที่นำหลักการและเทคนิคการออกแบบเกมมาประยุกต์ใช้ในธุรกิจ เพื่อสร้างแรงจูงใจและกระตุ้นพฤติกรรมของผู้ใช้บริการ องค์ประกอบเหล่านี้ เช่น การให้รางวัล การแข่งขัน หรือการเก็บแต้ม ช่วยสร้างประสบการณ์ที่น่าสนใจและกระตุ้นให้แบรนด์สินค้าหรือบริการเป็นที่รู้จักมากขึ้น
องค์ประกอบสำคัญของ Gamification
1. เป้าหมาย (Goals) - การมีเป้าหมายและภารกิจที่ชัดเจน พร้อมความท้าทาย จะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้ามีความกระตือรือร้นในการเข้าร่วมกิจกรรม
2. กฎหรือกติกา (Rules) - กฎที่ชัดเจนช่วยให้ผู้เล่นเข้าใจวิธีการเล่นและสร้างความสนุกสนาน
3. การแข่งขันและความร่วมมือ - การแข่งขันช่วยให้ผู้เล่นพัฒนาตนเองเพื่อเอาชนะคู่แข่ง ขณะที่ความร่วมมือสร้างการทำงานเป็นทีมเพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกัน
4. เวลา (Time) - การจำกัดเวลาสร้างความกดดันและท้าทาย ทำให้ผู้เล่นต้องเรียนรู้การบริหารเวลาซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จ
5. รางวัล (Reward) - สิ่งที่ผู้เล่นจะได้รับเมื่อบรรลุเป้าหมาย รวมถึงการมีกระดานจัดอันดับคะแนน (Leaderboard) เพื่อจูงใจให้ผู้เล่นแข่งขันกัน
6. ผลป้อนกลับ (Feedback) - การให้ข้อมูลย้อนกลับเพื่อชี้แนะการกระทำที่ถูกต้องหรือผิดพลาด
7. ระดับ (Levels) - ความท้าทายที่เพิ่มขึ้นตามระดับช่วยให้ผู้เล่นพัฒนาทักษะและประสบการณ์อย่างต่อเนื่อง
ประเภทของ Gamification ในการตลาด
1. Transmedia - เน้นการนำเสนอประสบการณ์ผ่านการเล่าเรื่องราวทางการตลาด โดยมุ่งเน้นไปที่ผู้ใช้ที่มีความสัมพันธ์กับแบรนด์
2. Brandification - ใช้เกมหรือกิจกรรมเพื่อสร้างและเพิ่มความรู้สึกต่อแบรนด์ เสริมสร้างความสนใจและความประทับใจให้กับลูกค้า
3. Advergame - เกมที่สร้างขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการโฆษณาและการตลาด ผสมผสานความสนุกกับการสื่อสารแบรนด์
4. Alternate Reality Games - ประสบการณ์ที่ผสมผสานระหว่างโลกจริงและโลกเสมือน ผู้เล่นต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และการทำงานร่วมกันเพื่อแก้ปัญหา
5. Experiential Marketing - มุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำผ่านกิจกรรมที่เน้นการเข้าสังคม การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ หรือการทดลองสินค้า
ขั้นตอนการทำ Gamification Marketing ให้ประสบความสำเร็จ
1. การวางกลุ่มเป้าหมาย - ศึกษาและวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายให้เข้าใจพฤติกรรม ความต้องการและความสนใจเพื่อออกแบบกิจกรรมที่เหมาะสม
2. การวัดความสำเร็จ - กำหนดเป้าหมายทางการตลาดที่ชัดเจน เช่น เพิ่มยอดขาย สร้างผู้ติดตาม หรือเพิ่มการใช้บริการอย่างต่อเนื่อง
3. การวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค - สำรวจพฤติกรรมและความสนใจของกลุ่มเป้าหมายเพื่อเลือกเครื่องมือ Gamification ที่เหมาะสม
4. การวางแผนโครงสร้างเกม - กำหนดกฎ เป้าหมาย และระบบรางวัลที่จะสร้างความน่าสนใจและความสนุกสนาน
5. การสร้างวงจรปฏิสัมพันธ์ - พัฒนาและนำเสนอระบบ Gamification ติดตามผลลัพธ์ รับข้อเสนอแนะ และปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
ประโยชน์ของ Gamification
1. สร้าง Brand Loyalty - กิจกรรม Gamification สร้างประสบการณ์ที่ดีและความสนุกสนาน ช่วยส่งเสริมความผูกพันและความเชื่อมั่นในแบรนด์
2. กระตุ้น Brand Awareness - ผู้ใช้มีโอกาสแบ่งปันประสบการณ์และข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์ ช่วยกระจายข้อมูลไปยังกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ
3. เพิ่มโอกาสการขาย - ระบบรางวัลและการแข่งขันช่วยสร้างการติดตามและการเข้าถึงสินค้าหรือบริการ ส่งผลให้ยอดขายเติบโต
ตัวอย่างความสำเร็จ: Starbucks Rewards
Starbucks ใช้แอป Starbucks Rewards สร้างความภักดีผ่านองค์ประกอบเกม โดยให้ลูกค้าสะสมดาวจากการซื้อสินค้าเพื่อปลดล็อกระดับใหม่และแลกรับรางวัล เช่น เครื่องดื่มฟรีหรือรายการอาหาร ยิ่งใช้จ่ายมาก ผลประโยชน์ยิ่งเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ Starbucks ยังส่งข้อเสนอส่วนบุคคลตามข้อมูลสมาชิกเพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วมและการซื้อซ้ำ
Gamification ไม่ใช่แค่เทรนด์ชั่วคราว แต่เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพในการสร้างความผูกพันและกระตุ้นพฤติกรรมที่พึงประสงค์ของลูกค้า การนำองค์ประกอบของเกมมาใช้อย่างชาญฉลาดจะช่วยให้ธุรกิจสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจและมีความหมายสำหรับผู้บริโภค ส่งผลให้เกิดความภักดีต่อแบรนด์และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในระยะยาว
พบกับ "โคชหนุ่ม" และ "กาย สวิตต์" ได้ใน "เงินทองของจริง" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-8.40 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และช่องทางออนไลน์ TERO Digital