คุณเคยฝันไหมว่าสักวันหนึ่งจะมีอิสรภาพทางการเงิน ใช้ชีวิตตามใจตัวเองได้โดยไม่ต้องรอถึงวัยเกษียณ ? วันนี้เราจะมารู้จักกับแนวคิดที่กำลังมาแรงทั่วโลก "FIRE Movement" หรือ Financial Independence, Retire Early - แนวทางการสร้างอิสรภาพทางการเงินและเกษียณก่อนวัย ด้วยการออมและการลงทุนอย่างมีวินัย
FIRE Movement คืออะไร ?
FIRE Movement ย่อมาจาก Financial Independence Retire Early movement ใช้นิยามถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่หวังมีอิสรภาพทางการเงินเร็ว มีการวางแผนอย่างเข้มข้น และดุเดือดกว่าคนทั่วไปมาก โดยคนกลุ่มนี้จะใช้ชีวิตและทำงานเพื่อทุ่มเทให้กับการออมและการลงทุนขั้นสูง เพื่อเป้าหมายเกษียณอายุได้ในช่วงอายุ 30 หรือ 40 ปี
หลักการสำคัญของ FIRE Movement
1. ประหยัดค่าใช้จ่ายอย่างเข้มงวด
- ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น
- ใช้ชีวิตอย่างสมถะ
2. เพิ่มรายได้และลงทุนอย่างต่อเนื่อง
- ลงทุนในสินทรัพย์ที่สร้างผลตอบแทน เช่น หุ้น กองทุนรวม หรืออสังหาริมทรัพย์
3. สร้างพอร์ตการลงทุนที่มั่นคง
- สะสมเงินจนถึงเป้าหมายที่สามารถถอนมาใช้จ่ายรายเดือนโดยไม่กระทบเงินต้น
ประเภทของ FIRE Movement
1. Lean FIRE - สายประหยัด
- มีการเก็บเงินแบบจริงจัง
- มีข้อกำหนดในการใช้ชีวิตเพิ่มเติม
- สามารถทำตามเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วที่สุด
2. Fat FIRE - สายไลฟ์สไตล์แน่น
- ยังคงใช้จ่ายตามไลฟ์สไตล์แบบมีการวางแผน
- เน้นการนำเงินมาลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนเชิงรุก
- สร้าง passive income ให้เงินงอกเงยไปในเวลาเดียวกัน
3. Barista FIRE - สายค่อยเป็นค่อยไป
- ครอบคลุมค่าใช้จ่ายส่วนตัวแบบพอดี
- แบ่งเงินออมและเงินลงทุนสร้างผลตอบแทนเชิงรุก
- ทำงานพาร์ทไทม์เพื่อเป็นรายได้เสริม
4. Coast FIRE - สายวางแผนระยะยาว
- วางแผนเก็บเงินและลงทุนในช่วงอายุ 30-40 ปี
- สร้างเงินทุนที่มากพอเพื่อลงทุนต่อให้ถึงเป้าหมายเมื่อเกษียณในอายุจริง
4 ขั้นตอนสู่ FIRE แบบเข้าใจง่าย
1. คำนวณเป้าหมายการเกษียณ
- ใช้สูตร: ค่าใช้จ่ายรายปี × 25
- ตัวอย่าง: หากต้องการใช้เงินเดือนละ 30,000 บาท (360,000 บาทต่อปี) คุณต้องมีเงินออมประมาณ 9 ล้านบาท (360,000 × 25) เพื่อให้อยู่ได้ด้วยผลตอบแทนจากการลงทุน
2. ลดรายจ่าย เพิ่มเงินออม
- เลิกนิสัยการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เช่น ซื้อของที่ไม่จำเป็น หรือทานอาหารนอกบ้านบ่อย ๆ
- ตั้งเป้าหมายการออมที่สูง เช่น ออม 50-70% ของรายได้
3. ลงทุนเพื่อให้เงินทำงาน
- เลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่สร้างรายได้ระยะยาว เช่น:
- หุ้น: เลือกหุ้นพื้นฐานดีที่มีโอกาสเติบโต
- กองทุนดัชนี (Index Fund): กระจายความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายต่ำ
- อสังหาริมทรัพย์: ปล่อยเช่าเพื่อรายได้ต่อเนื่อง
- ใช้หลัก 4% Rule: ถอนเงินออกมาใช้เพียง 4% ของพอร์ตต่อปี เพื่อให้เงินต้นไม่หมดไป
4. ปรับแผนให้ยืดหยุ่น
- เผื่อเงินสำรองไว้สำหรับค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด เช่น ค่ารักษาพยาบาล
- หากตลาดการเงินผันผวน ควรปรับเป้าหมายการถอนเงินให้เหมาะสม
ข้อดีของ FIRE Movement
1. มีความยืดหยุ่นในการใช้เวลามากขึ้น
- เมื่อไม่ต้องทำงานประจำ สามารถใช้เวลากับสิ่งที่ต้องการได้มากขึ้น
- เริ่มในวัย 35 หรือ 40 แทนที่จะเป็น 60 หรือ 65 แบบทั่วไป
2. สามารถทำตามสิ่งที่ชอบได้
- เมื่อการเงินไม่ใช่ปัญหา ก็สามารถทำอะไรที่มีความหมายต่อชีวิต
- ทำตามเป้าหมายที่มีความเสี่ยงแต่ชอบได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องปากท้อง
3. เรียนรู้ค่าใช้จ่ายที่จำเป็น
- เข้าใจว่าอะไรคือสิ่งจำเป็นในชีวิต
- เรียนรู้การอยู่อย่างประหยัดเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเกษียณ
4. เครียดน้อยลง
- ไม่ต้องคอยกังวลว่าจะมีเงินใช้ในยามเกษียณหรือไม่
- เมื่อมีเงินเพียงพอทำให้ใช้ชีวิตได้อย่างสนุกสนาน และอาจส่งผลให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น
ข้อเสียของ FIRE Movement
1. การเกษียณอาจจะน่าเบื่อ
- บางคนอาจรู้สึกเบื่อเมื่อไม่มีกิจกรรมหรืองานประจำให้ทำ
- ควรมีการวางแผนการใช้เวลาก่อนที่จะเริ่มเกษียณ
2. ไม่สามารถกลับมาทำงานใหม่ได้ง่าย
- หลังจากออกจากงานประจำ บางอาชีพอาจยากที่จะกลับไปทำงานได้อีกครั้งในตำแหน่งเดิม
- อาจเกิดช่องว่างในประวัติการทำงานที่ยากจะอธิบาย
3. ต้องมีวินัยและความเสียสละสูง
- เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของ FIRE อาจต้องเสียสละความสะดวกสบายบางอย่าง
- ต้องมีวินัยสูงมากในการลดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
- ต้องทุ่มเทเพื่อเพิ่มรายได้และลงทุนให้ได้เงินจำนวนมาก
FIRE Movement เป็นแนวคิดที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการมีอิสรภาพทางการเงินและเกษียณก่อนวัย แต่ไม่ใช่เส้นทางที่เหมาะกับทุกคน การเริ่มต้นทำตามแนวทาง FIRE ควรพิจารณาทั้งข้อดีและข้อเสีย พร้อมทั้งปรับให้เหมาะกับเป้าหมายชีวิตและสถานการณ์ทางการเงินของตัวเอง สิ่งสำคัญคือความมีวินัยในการออมและการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเกษียณที่ต้องการ
พบกับ "โคชหนุ่ม" และ "กาย สวิตต์" ได้ใน "เงินทองของจริง" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-8.40 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และช่องทางออนไลน์ TERO Digital
VIDEO