เมื่อก้าวเข้าสู่โลกของการทำงาน นักศึกษาจบใหม่หลายคนเริ่มมีรายได้เป็นของตัวเอง แต่การบริหารจัดการเงินอย่างมีประสิทธิภาพเป็นทักษะสำคัญที่ไม่ได้สอนกันในห้องเรียน บทความนี้จะแนะนำหลักการพื้นฐานในการจัดการการเงินสำหรับผู้เริ่มต้นทำงาน เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินตั้งแต่ปีแรกของการทำงาน
ทำไมต้องวางแผนการเงินตั้งแต่เริ่มทำงาน ?
จากข้อมูลทางสถิติพบว่า อายุเฉลี่ยของคนไทยที่ยืนยาวขึ้นนั้นกลับสวนทางกับรายได้ที่ลดลงเมื่อถึงวัยเกษียณ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่คนรุ่นใหม่ต้องตระหนักว่า การวางแผนการเงินเพื่อเกษียณไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป การเริ่มต้นวางแผนการเงินตั้งแต่วันแรกของการทำงานจะช่วยให้มีความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว
4 ขั้นตอนการวางแผนการเงินสำหรับผู้เริ่มต้นทำงาน
1. ตั้งเป้าหมายการเก็บเงินที่ชัดเจน
การมีเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจนเปรียบเสมือนการเล่นเกม โดยชัยชนะคือความมั่งคั่งทางการเงิน ยิ่งเริ่มเร็วเท่าไร การบรรลุเป้าหมายก็จะเร็วขึ้นเท่านั้น เป้าหมายที่ชัดเจนยังเป็นแรงผลักดันที่ดีในการสร้างวินัยทางการเงิน ตัวอย่างเป้าหมายการเก็บเงิน เช่น
- เงินเกษียณ
- เงินเพื่อการศึกษาต่อ
- เงินสำหรับเดินทางท่องเที่ยว
- เงินดาวน์บ้านหรือรถยนต์
2. ทำบันทึกรายรับ-รายจ่าย
สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน การบริหารรายรับรายจ่ายเองอย่างเต็มตัวอาจเป็นเรื่องใหม่ การบันทึกรายรับ-รายจ่ายจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะทำให้รู้สถานะทางการเงินปัจจุบันแล้ว ยังช่วยให้ทราบว่าควรวางแผนเพิ่มรายได้หรือลดค่าใช้จ่ายส่วนใดเพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการและเป้าหมาย
3. แบ่งเงินเดือนเป็นสัดส่วนชัดเจน
การแบ่งเงินเป็นสัดส่วนช่วยให้จัดการการเงินได้ง่ายขึ้น โดยในวัยเริ่มต้นทำงาน ควรใช้หลักการ "ออมก่อน เหลือเท่าไรค่อยใช้" คือแบ่งเงินเดือนเป็น
- เงินออม 10%
- เงินใช้จ่าย 90%
ตัวอย่าง หากมีเงินเดือน 15,000 บาท ควรแบ่งเงินออม 10% คือ 1,500 บาท และที่เหลือ 13,500 บาท เก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายจำเป็นและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ
เมื่อฝึกสร้างวินัยในการออมไประยะหนึ่ง คุณจะเริ่มคุ้นเคย และเมื่อมีการปรับเงินเดือนขึ้น คุณสามารถปรับสัดส่วนเงินออมให้มากขึ้นตามเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นได้
4. เลือกตัวช่วยการลงทุนที่เหมาะสม
นอกจากการออมแล้ว การเลือกช่องทางการลงทุนที่เหมาะสมก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะเครื่องมือในการออมและการลงทุนแต่ละประเภทมีข้อดีที่แตกต่างกัน ควรศึกษาข้อมูลและเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมกับเป้าหมายของตนเอง
ตัวช่วยการออมและการลงทุนสำหรับคนวัยเริ่มต้นทำงาน
1. บัญชีเงินฝากปลอดภาษี
เป็นบัญชีเงินฝากประจำรูปแบบหนึ่งที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยมีความน่าสนใจตรงที่มีดอกเบี้ยสูงกว่าบัญชีทั่วไป และได้รับการยกเว้นภาษีเงินฝาก ซึ่งโดยปกติถ้าเรามีดอกเบี้ยเกิน 20,000 บาท จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% โดยสามารถเปิดได้เพียงคนละ 1 บัญชีเท่านั้น
2. สลากออมทรัพย์
เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ มีการรับประกันเงินต้น และมีโอกาสลุ้นรางวัลตลอดระยะเวลาที่ถือสลาก เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นลงทุน อย่างไรก็ตามจะถอนคืนได้เมื่อครบกำหนดอายุตามที่ธนาคารกำหนด เช่น 3 ปี หรือ 5 ปี จึงควรวางแผนให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน
3. กองทุนรวม
กองทุนรวมมีความหลากหลายในการลงทุน ตั้งแต่นโยบายเสี่ยงต่ำมาก อย่างกองทุนรวมตลาดเงิน ไปจนถึงนโยบายเสี่ยงสูงมาก อย่างกองทุนรวมสินทรัพย์ทางเลือก การลงทุนในกองทุนรวมมีโอกาสได้ผลตอบแทนที่สูงกว่า แต่ก็มีความเสี่ยงที่อาจขาดทุนได้ และไม่มีการรับประกันเงินต้น
4. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund)
เป็นสวัสดิการที่บางบริษัทมอบให้กับพนักงาน โดยเป็นกองทุนที่นายจ้างและลูกจ้างร่วมกันจัดตั้งขึ้น เพื่อให้ลูกจ้างมีเงินออมยามเกษียณหรือเมื่อหยุดทำงาน และสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ โดยทั่วไปทั้งลูกจ้างและนายจ้างสามารถเลือกสะสมและสมทบเงินได้ตั้งแต่ 2%-15% ของเงินเดือน ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและนโยบายของแต่ละบริษัท
การวางแผนการเงินอย่างชาญฉลาดตั้งแต่เริ่มต้นทำงานเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน การทำบันทึกรายรับ-รายจ่าย การแบ่งเงินเป็นสัดส่วน และการเลือกช่องทางการลงทุนที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณเริ่มต้นเส้นทางสู่อิสรภาพทางการเงินได้อย่างมั่นคง
ธนาคารออมสิน เปิดแคมเปญใหญ่ “ออมร้อย ชิงร้อยล้าน” กับสลากออมสินพิเศษ 1 ปี มูลค่ารวม 100 ล้านบาท
ลุ้นแรกมูลค่า 30 ล้านบาท รางวัลละ 1 ล้านบาท รวม 30 รางวัล ออกรางวัลในวันที่ 16 พฤษภาค น 1 รางวัล ออกรางวัลในวันที่ 16 กรกฎาคม 2568
และลุ้นรางวัลที่ 1 มูลค่า 10 ล้านบาท นาน 12 เดือน
ฝากครบกำหนดรับดอกเบี้ย 0.20 บาทต่อหน่วย
ฝากได้ทั้งแบบใบสลากและสลากดิจิทัล
และต้องเป็นผู้ฝากสลาก 1 ปี ระหว่างวันที่ 1 เมษายน - 15 กรกฎาคม 2568
เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
ฝากได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขา และแอปฯ Mymo
ธนาคารออมสินเป็นลูกค้าเราเท่ากับช่วยสังคม
พบกับ "โคชหนุ่ม" และ "กาย สวิตต์" ได้ใน "เงินทองของจริง" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-8.40 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และช่องทางออนไลน์ TERO Digital