logo เงินทองของจริง

เงินทองของฟรีแลนซ์ จัดการอย่างไรให้มั่นคงแม้รายได้ไม่แน่นอน | เงินทองของจริง

เงินทองของจริง : ชีวิตของฟรีแลนซ์อาจดูเหมือนมีอิสระ ตื่นสายได้ ทำงานที่ไหนก็ได้ แต่เบื้องหลังความอิสระนั้นกลับเต็มไปด้วยความท้าทาย โดยเฉพาะเรื่อง ch7hd news,tero digital,ch7hdnews,terodigital,เงินทองของจริง,moneycoach,money coach,โคชหนุ่ม จักรพงษ์,โค้ชหนุ่ม จักรพงษ์ เมษพันธุ์,โค้ชหนุ่ม,กาย สวิตต์,เศรษฐกิจ,การเงิน,การลงทุน,การออม,ออมเงิน,เก็บเงิน,สอนลงทุน,สอนออมเงิน,สอนเก็บเงิน

402 ครั้ง
|
23 เม.ย. 2568
ชีวิตของฟรีแลนซ์อาจดูเหมือนมีอิสระ ตื่นสายได้ ทำงานที่ไหนก็ได้ แต่เบื้องหลังความอิสระนั้นกลับเต็มไปด้วยความท้าทาย โดยเฉพาะเรื่องการเงิน เนื่องจากรายได้ไม่แน่นอน ภาระภาษี และค่าใช้จ่ายประจำ บทความนี้จะแนะนำวิธีการบริหารการเงินสำหรับฟรีแลนซ์เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว
 
การจัดการการเงินสำหรับฟรีแลนซ์
 
 
 
1. เข้าใจธรรมชาติของรายได้
ฟรีแลนซ์ต้องยอมรับความผันผวนของรายได้ที่แลกกับความเป็นอิสระ ควรฝึกคาดการณ์รายได้ด้วยการวิเคราะห์ประวัติรายได้ในอดีต เพื่อให้เห็นแนวโน้มรายได้ในแต่ละเดือน
 
 
 
2. ทำงบประมาณรายจ่ายประจำ
รวบรวมรายจ่ายประจำที่จำเป็นสำหรับการใช้ชีวิต เช่น ค่าที่อยู่อาศัย ค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่างวดผ่อนรถ ค่าอินเทอร์เน็ต และค่าเบี้ยประกัน การเห็นตัวเลครายจ่ายประจำอย่างชัดเจนจะช่วยเพิ่มความรัดกุมในการวางแผนการเงิน แม้ในเดือนที่มีรายได้น้อยหรือไม่มีรายได้เลย
 
3. ทำงบประมาณรายจ่ายเพื่อการทำงาน
ฟรีแลนซ์มีรายจ่ายที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการทำงาน เช่น ค่าลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ การอัพเกรดคอมพิวเตอร์ ค่าสมาชิกเว็บไซต์ และค่าใช้จ่ายทางการตลาด ควรรวบรวมรายจ่ายเหล่านี้ให้ครอบคลุม เพื่อให้เห็นภาพรวมของเงินที่ต้องจ่ายทั้งหมด
 
4. กำหนดเป้าหมายการแบ่งออมเงินไว้ล่วงหน้า
ชาวฟรีแลนซ์ควรแบ่งบัญชีเงินพร้อมกำหนดสัดส่วนการใช้จ่ายไว้ล่วงหน้า โดยให้ความสำคัญกับเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินเป็นอันดับแรก เป้าหมายของเงินสำรองควรครอบคลุมรายจ่ายประจำและรายจ่ายเพื่อการทำงานประมาณ 12 เท่า และอย่าลืมกันเงินไว้เพื่อจ่ายภาษีด้วย
 
5. จัดการและยืดหยุ่นเมื่อเจอความเปลี่ยนแปลง
วินัยเป็นสิ่งสำคัญของการจัดการเงิน แต่ความยืดหยุ่นก็สำคัญเช่นกัน เพราะอาจมีค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดหรือความล่าช้าในการจ่ายเงินของผู้ว่าจ้าง จึงต้องมีวินัยในการจับตาดูรายจ่ายที่เกิดขึ้นจริง และปรับงบประมาณเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอน
 
เทคนิคการออมสำหรับฟรีแลนซ์
 
1. วิธีบัญชีในใจ (Mental Accounting)
แนวคิดนี้เกิดจากการที่คนให้มูลค่ากับการจ่ายสินค้าและบริการแต่ละประเภทไม่เท่ากัน แรงจูงใจในการเก็บเงินเพื่อใช้จ่ายในอนาคตจึงแตกต่างกันด้วย วิธีที่แนะนำคือการแบ่งเงินออมออกเป็นหลายส่วน เช่น เงินออมเพื่อการท่องเที่ยว 60% เงินออมเพื่อการศึกษา 35% และเงินออมเพื่อบริจาค 5%
 
2. วิธีพรุ่งนี้จะออมให้มากขึ้น
ทฤษฎีนี้อธิบายว่าวัฏจักรชีวิตสัมพันธ์กับรายได้และค่าใช้จ่ายในแต่ละช่วงเวลา ในวัยเรียนอาจมีเงินออมไม่มาก แต่เมื่อทำงานและมีรายได้เพิ่มขึ้น ควรนำเงินไปออมมากขึ้น โดยยังคงรักษาสภาพคล่องให้ดีด้วย
 
การลงทุนสำหรับฟรีแลนซ์
 
กองทุนรวม
การลงทุนผ่านกองทุนรวมเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะมีผู้เชี่ยวชาญคอยบริหารจัดการเงิน มีสินทรัพย์ให้เลือกลงทุนหลากหลายประเภท ทั้งตราสารหนี้ ตราสารทุน หรือสินทรัพย์ทางเลือกอื่นๆ สามารถเลือกสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสมกับความเสี่ยงของตัวเอง และทยอยซื้อแบบ Dollar Cost Averaging (DCA) เพื่อถัวเฉลี่ยต้นทุนได้
 
บัญชีออมทรัพย์และเงินฝากประจำ
สำหรับฟรีแลนซ์ที่ยังไม่พร้อมรับความเสี่ยง การฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูงหรือบัญชีเงินฝากประจำแบบปลอดภาษี (ระยะเวลา 24-36 เดือน) เป็นทางเลือกในการสร้าง Passive Income จากดอกเบี้ย
 
ETF และการลงทุนอื่น ๆ
ผู้ที่มีความเข้าใจในการลงทุน สามารถเลือกซื้อสินทรัพย์อื่นๆ เช่น ETF เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างกำไรจากส่วนต่างราคาซื้อขาย และรับ Passive Income ในรูปแบบเงินปันผล ETF มีความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายต่ำกว่าการซื้อหุ้นรายตัว
 
ภาษีสำหรับฟรีแลนซ์
 
ประเภทภาษีที่ฟรีแลนซ์ต้องเสีย
 
1. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
   - เงินได้ของฟรีแลนซ์จัดอยู่ในมาตรา 40(2)
   - เสียภาษี 2 รอบ:
     - รอบแรก หักภาษี ณ ที่จ่าย 3% โดยผู้ว่าจ้าง (สามารถนำมาเป็นเครดิตภาษีได้)
     - รอบสอง ยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 ภายในวันที่ 31 มีนาคมของทุกปี
   - กรณีมีรายได้จากงานฟรีแลนซ์เกิน 60,000 บาทต่อปี ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 เพิ่มเติมแบบ ภ.ง.ด.1
   - สามารถหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องได้สูงสุด 50% ของเงินได้
 
2. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
   - กรณีมีรายได้จากการขายสินค้าหรือบริการเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี หรือจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
   - อัตราภาษีอยู่ที่ 7%
 
3. ภาษีธุรกิจเฉพาะ
   - กรณีที่ต้องเสียและอัตราภาษีขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจ
 
ขั้นตอนการยื่นภาษี
 
1. รวบรวมเงินได้พึงประเมิน
   - ฟรีแลนซ์ไม่มีเอกสาร 50 ทวิ จึงต้องรวบรวมเงินได้พึงประเมินด้วยตนเอง
   - ใช้ "ใบหักภาษี ณ ที่จ่าย" จากผู้ว่าจ้าง และหลักฐานการโอนเงิน (กรณีค่าจ้างไม่เกิน 1,000 บาท)
   - คำนวณหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนต่างๆ เพื่อหาเงินได้สุทธิ
 
2. ยื่นภาษี ภ.ง.ด. 90 สามารถทำได้ 3 วิธี:
   - ยื่นแบบฟอร์มด้วยตัวเองที่สำนักงานกรมสรรพากรในพื้นที่
   - ยื่นแบบฟอร์มทางไปรษณีย์ (เฉพาะผู้ที่มีภูมิลำเนาในกรุงเทพฯ)
   - ยื่นแบบฟอร์มทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากร
 
ข้อควรระวัง กรณีไม่ชำระภาษีตามกำหนดเวลา ต้องเสียเบี้ยปรับ 1-2 เท่าของภาษีที่ต้องจ่าย ขึ้นอยู่กับกรณีความผิด
 
การเป็นฟรีแลนซ์มอบอิสระในการทำงานและใช้ชีวิต แต่เพื่อให้อิสระนั้นยั่งยืน จำเป็นต้องมีการวางแผนการเงินที่ดี ทั้งการจัดการรายรับรายจ่าย การออม การลงทุน และการจัดการภาษี การมีวินัยทางการเงินและความเข้าใจในกฎระเบียบต่างๆ จะช่วยให้ชีวิตฟรีแลนซ์ไม่เพียงแต่มีอิสระ แต่ยังมีความมั่นคงทางการเงินในระยะยาวอีกด้วย
 
พบกับ "โคชหนุ่ม" และ "กาย สวิตต์" ได้ใน "เงินทองของจริง" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-8.40 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และช่องทางออนไลน์ TERO Digital
 
รับชมผ่าน YouTube ได้ที่  https://youtu.be/wuNw5lXARAw