ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา "การลงทุนอย่างยั่งยืน" หรือ ESG (Environmental, Social, and Governance) ได้รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุนทั้งรายย่อยและสถาบัน เนื่องจากเป็นแนวทางการลงทุนที่คำนึงถึงปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ล่าสุดทาง ก.ล.ต. ได้เปิดตัวกองทุนใหม่ในชื่อ Thai ESGX เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุนโดยเฉพาะผู้ที่เคยลงทุนใน LTF มาก่อน
Thai ESGX คืออะไร ?
Thai ESG Extra หรือ Thai ESGX คือกองทุนรวมกลุ่มใหม่ในหมวด Thai ESG ที่เน้นลงทุนในหลักทรัพย์หรือธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมและการกำกับดูแลกิจการที่ดี เหมือนกับ Thai ESG เดิม แต่เพิ่มเงื่อนไขพิเศษด้านสิทธิประโยชน์ทางภาษี
ก.ล.ต. วางแผนเร่งเดินหน้าออกประกาศรองรับการจัดตั้งและจัดการ Thai ESGX ให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) สามารถยื่นขอจัดตั้งกองทุนรวมได้ภายในเดือนเมษายน 2568 เพื่อรองรับการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF และเงินลงทุนใหม่สำหรับการลงทุนในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน 2568
เหตุผลสำคัญที่ต้องออก Thai ESGX
1. ช่วยประคองตลาดหุ้นไทยในช่วง LTF ครบกำหนด
เนื่องจากการลงทุนในรูปแบบ LTF (Long-Term Equity Fund) เก่า ได้ครบกำหนดการถือครองตามเงื่อนไขทั้งหมดในปีนี้ ทำให้เกิดแรงกดดันจากการเทขายหน่วยลงทุนในตลาดหุ้น ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องโดยรวม
2. ต่อยอดแนวทางการลงทุนอย่างยั่งยืน
การลงทุนที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นเทรนด์การลงทุนระดับโลกและอาจสร้างความยั่งยืนในระยะยาวทั้งต่อบริษัทและตลาดทุนไทย
3. เพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านภาษีเพื่อดึงดูดนักลงทุน
การให้สิทธิประโยชน์ภาษีเพิ่มเติมจะช่วยกระตุ้นให้นักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบันหันมาให้ความสนใจมากขึ้น
สิทธิประโยชน์ทางภาษีของ Thai ESGX
สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับผู้ลงทุนใน Thai ESGX แบ่งออกเป็น 2 ส่วน
1. เงินลงทุนใหม่ (เฉพาะลงทุนในปี 2568)
- ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน สูงสุด 300,000 บาท
- คาดว่าจะเปิดให้ลงทุนในช่วง 1 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2568
- ต้องถือหน่วยลงทุนอย่างน้อย 5 ปี (นับตั้งแต่วันที่ซื้อ)
2. เงินลงทุน LTF ที่มีอยู่ (กรณีถือครบเงื่อนไขแล้ว) และต้องการประหยัดภาษีต่อ
- ต้องโอนหน่วย LTF เดิมทั้งหมดไปกองทุน Thai ESGX โดยไม่สามารถโอนบางส่วนได้
- ต้องสับเปลี่ยนให้ครบทุกกอง ทุกบลจ. จึงจะได้รับสิทธิลดหย่อนภาษี
- สิทธิลดหย่อนสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท แบ่งเป็น:
- ปีแรก (2568): ลดหย่อนได้สูงสุด 300,000 บาท
- ปีที่ 2-5 (2569-2572): ทยอยใช้สิทธิส่วนที่เหลือ 200,000 บาท ได้ปีละไม่เกิน 50,000 บาท
- ยังคงเงื่อนไขไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน
- ต้องถือหน่วยลงทุนอย่างน้อย 5 ปี
- ผู้ถือหน่วยลงทุนต้องแจ้งย้ายกองทุนภายใน 2 เดือนหลังจากจัดตั้งกองทุน แต่ไม่เกินเดือนมิถุนายน 2568
- เงินลงทุนส่วนที่เกินกว่า 500,000 บาทที่ถูกโอนไปพร้อมกัน ต้องถือครองอย่างน้อย 5 ปีเช่นกัน
- กรณีมียอด LTF เดิมไม่ถึง 500,000 บาท สามารถใช้สิทธิได้เท่ากับจำนวนที่มีอยู่เท่านั้น
ทางเลือกในการลงทุน
ปัจจุบัน Thai ESG มีกองทุนให้เลือกกว่า 50 กองทุน นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนได้ตามรูปแบบที่ต้องการ ทั้งแบบจ่ายเงินปันผลและไม่จ่ายเงินปันผล ขึ้นอยู่กับนโยบายและข้อกำหนดของแต่ละ บลจ.
หนึ่งวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงจากราคาของกองทุนคือการลงทุนแบบ DCA (Dollar Cost Averaging) ซึ่งเป็นการทยอยลงทุนในจำนวนเงินที่เท่ากันทุกงวด ทำให้ราคาที่ได้เป็นราคาถัวเฉลี่ยจากทั้งช่วงที่ราคาเพิ่มและลด เป็นการกระจายต้นทุนการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ
สำหรับผู้ที่สนใจกองทุน Thai ESGX ขณะนี้สามารถศึกษาข้อมูล เงื่อนไขต่างๆ และสิทธิประโยชน์ทางภาษีได้ล่วงหน้า เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนถึงช่วงเวลาที่กำหนดให้ลงทุนในช่วงพฤษภาคมถึงมิถุนายน 2568
พบกับ "โคชหนุ่ม" และ "กาย สวิตต์" ได้ใน "เงินทองของจริง" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-8.40 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และช่องทางออนไลน์ TERO Digital