“รีเกียน เออร์เซล” แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง และมวยไทย รุ่นไลต์เวต (155-170 ป.) วัย 32 ปี จากซูรินาม หวังย้ำชัยสวยเหนือ “อเล็กซิส นิโคลัส” ผู้ท้าชิงวัย 26 ปี จากฝรั่งเศส เพื่อรักษาเข็มขัดคิกบ็อกซิ่งไม่ให้หลุดมือ ในศึก ONE Fight Night 30 ซึ่งจะถ่ายทอดสดสู่ผู้ชมใน 195 ประเทศทั่วโลก จากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในช่วงไพรม์ไทม์อเมริกา ตรงกับช่วงเช้าเวลา 07:00 น. ในวันเสาร์ที่ 5 เม.ย.นี้
ทั้งคู่เคยปะทะฝีมือกันครั้งแรกในศึก ONE Fight Night 21 เมื่อเดือน เม.ย.67 ซึ่งตอนนั้น “อเล็กซิส” ในฐานะผู้ท้าชิงโชว์ผลงานช็อกโลก ด้วยการเอาชนะคะแนนเอกฉันท์ “รีเกียน” พร้อมชิงเข็มขัด ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นไลต์เวต มาครองได้แบบสะใจ ซึ่งทาง “รีเกียน” เองก็ได้ยอมรับสภาพความพ่ายแพ้แต่โดยดี
“ก่อนหน้านั้น ผมไม่แพ้ใครมา 8 ปี พูดตามตรงคือไฟในตัวผมมันมอดไปแล้ว เพราะทุกอย่างดูปกติไปหมด ผมสู้แล้วชนะ จากนั้นก็สู้ไฟต์ต่อไปอีก มันจึงกลายเป็นเหมือนเรื่องธรรมดาสำหรับผม”
“การแพ้ให้กับ อเล็กซิส ทำให้ผมกลับมามีไฟอีกครั้ง แน่นอนว่าความพ่ายแพ้เป็นส่วนหนึ่งของอาชีพนักกีฬาอยู่แล้ว แต่สำหรับผมที่ไม่เคยแพ้ใครเลยนานหลายปี การแพ้ครั้งนั้นกลับกลายเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำ”
ขณะที่ภาคสองระหว่าง “รีเกียน vs อเล็กซิส” เกิดขึ้นในศึก ONE Fight Night 25 เมื่อเดือน ต.ค.67 โดยวันนั้น “รีเกียน” คืนฟอร์มเก่งไล่ต้อน “อเล็กซิส” ตลอดทั้ง 5 ยก ชนะคะแนนเอกฉันท์ ล้างตาได้สำเร็จ พร้อมกลับคืนสู่ตำแหน่งเจ้าบัลลังก์คิกบ็อกซิ่งของรุ่นนี้อีกครั้ง
“ผมมีความสุขมากที่ได้เข็มขัดของตัวเองกลับคืนมา รวมถึงได้ล้างแค้นคู่ปรับเก่าสำเร็จ ผมได้พิสูจน์ตัวเองให้ทีมงานของผม และแฟน ๆ ทุกคนได้เห็นแล้วว่า ผมยังคงคู่ควรเป็นแชมป์โลกอยู่”
ตอนนี้ “รีเกียน” กลับคืนสู่ความมั่นใจเต็มร้อยอีกครั้ง พร้อมแล้วที่จะเปิดศึกภาค 3 กับ “อเล็กซิส” เพื่อพิสูจน์ให้ชัดเจนว่า ใครกันแน่ที่ควรถูกยกย่องให้เป็นนักชกคิกบ็อกซิ่ง รุ่นไลต์เวต ที่ดีที่สุดในโลก ณ ชั่วโมงนี้
“สำหรับผม ชัยชนะในศึกไตรภาคนี้หมายถึงการปิดฉากทุกสิ่งลงอย่างสมบูรณ์แบบ ผมหวังว่าจะสามารถก้าวต่อไปสู่สิ่งใหม่ ๆ ในเส้นทางอาชีพ และมูฟออนไปจากจุดนี้ได้เสียที”
“ผมเตรียมตัวมาพร้อมสำหรับการสู้ 5 ยก แต่ถ้าผมมีโอกาสปิดเกมเขาได้เมื่อไหร่ คุณจะได้เห็น อเล็กซิส หลับสนิทแน่นอน”
+ อ่านเพิ่มเติม