“ทาเครุ เซกาวา” ซูเปอร์สตาร์คิกบ็อกซิ่งแดนซามูไร แสดงสปิริตนักสู้เลือดบูชิโด ออกมาให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตา หลังถูก “รถถัง จิตรเมืองนนท์” อัดน็อกตั้งแต่ยกแรกถึงในบ้านต่อหน้าแฟนมวยชาวญี่ปุ่นนับหมื่น ในศึก ONE 172 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา
ไฟต์หยุดโลกระหว่าง “ทาเครุ vs รถถัง” ที่แฟนกีฬาทั่วโลกตั้งตารอชมมาเป็นปี กลับจบลงแบบรวดเร็วเกินคาด เมื่อ “รถถัง” ฟาดหมัดฮุกซ้ายเต็มกกหู “ทาเครุ” ล้มลงไปนั่งมึนลุกไม่ขึ้นในเวลาเพียง 80 วินาทีของยกแรกเท่านั้น สร้างความตะลึงงันให้แก่ผู้ชมทั้งในสนามและที่ดูการถ่ายทอดสดผ่านหน้าจอ
ที่ผ่านมา “ทาเครุ” ได้ประกาศเจตจำนงชัดเจนมาโดยตลอดว่า การได้ประจันหน้ากับ “รถถัง” เป็นเป้าหมายสำคัญในการก้าวเท้าเข้าสู่ชายคา ONE และยังเผยด้วยว่าซูเปอร์สตาร์ชาวไทยเป็นแรงผลักดันหลักที่ทำให้เขาฮึดสู้กับอาการบาดเจ็บอย่างหนัก หลังจากพ่าย “ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9” ในศึกชิงแชมป์โลก ONE
คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต (125 – 135 ป.) ในศึก ONE 165 ที่จัดที่ญี่ปุ่น เมื่อเดือน ม.ค.67
แม้ครั้งนี้ “ทาเครุ” จะได้ขึ้นสู้กับคู่ชกที่หมายตาสมใจ แต่เขาก็ต้องเผชิญกับความผิดหวังครั้งใหญ่เมื่อต้องพ่ายในบ้านของตัวเองอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม หลังการแข่งขันจบลง เขายังคงแสดงความเข้มแข็งและสปิริตนักกีฬามืออาชีพออกให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงช่วงเวลาปวดใจที่เกิดขึ้นบนเวที
“ตอนนั้น ผมกำลังรอให้ตัวเองฟื้นตัว ผมพยายามอย่างเต็มที่ที่จะลุกขึ้นมา แต่ผมบอกไม่ได้จริง ๆ ว่าตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น มันอธิบายได้ยาก ผมรู้สึกอ่อนแรงไปเลย แต่สิ่งที่ผมพูดได้ตอนนี้คือ ผมทำดีที่สุดแล้ว ณ เวลานั้น ผมเสียใจและรู้สึกผิดต่อทุกคนที่เชียร์ผม เพราะผมไม่สามารถโชว์การชกได้ตามที่ทุกคนคาดหวัง”
“อย่างที่ผมเคยบอกไว้ การชกครั้งนี้คือทุกอย่างในชีวิตผม ผมพร้อมสู้กับ รถถัง สุดชีวิต แต่ผลที่ออกมาทำให้ผมรู้สึกผิดหวัง เพราะผมยังไม่ได้โชว์ทุกอย่างที่เตรียมตัวมา ผมยังไม่มีแผนอะไรต่อจากนี้ เพราะตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาเหมาะสมที่จะตัดสินใจว่าจะเอายังไงต่อ”
ในโอกาสนี้ “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” ประธานและซีอีโอของ ONE ได้กล่าวถึงไฟต์หยุดโลกครั้งนี้และความเป็นไปได้ของการกลับมาเจอกันของทั้งสองซูเปอร์สตาร์ในอนาคตด้วย
“เมื่อต้องต่อสู้ในระดับสูงสุดของโลก ถ้าผิดพลาดเพียงเสี้ยววินาที ใครก็มีสิทธิ์โดนน็อกทันที โดยเฉพาะเมื่อต้องชกกับนักสู้อย่าง รถถัง เหมือนกับที่ผมทายไว้ก่อนหน้านี้ว่า จะต้องมีคนโดนน็อกในไฟต์นี้ ผมได้คุยกับ ทาเครุ หลังเวที เขาบอกว่ายังอยากชกอีกครั้ง เพราะอยากชิงแชมป์โลกใน ONE ให้ได้สักวัน ซึ่งเป็นความฝันของเขา เขาพูดว่าอยากตามรอย มาซาอากิ ดังนั้น เราต้องมาดูกันว่าจะเป็นยังไงต่อไป”
+ อ่านเพิ่มเติม