logo เงินทองของจริง

อัปเดต 2568 ขอคืนเงินประกันสังคม ก่อนอายุ 55 ได้ไหม? | เงินทองของจริง

เงินทองของจริง : การทำงานเป็นพนักงานบริษัทหรือมนุษย์เงินเดือนในประเทศไทย เราทุกคนต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสังคมทุกเดือน แต่หลายคนอาจสงสัยว่าเง ch7hd news,tero digital,ch7hdnews,terodigital,เงินทองของจริง,moneycoach,money coach,โคชหนุ่ม จักรพงษ์,โค้ชหนุ่ม จักรพงษ์ เมษพันธุ์,โค้ชหนุ่ม,กาย สวิตต์,เศรษฐกิจ,การเงิน,การลงทุน,การออม,ออมเงิน,เก็บเงิน,สอนลงทุน,สอนออมเงิน,สอนเก็บเงิน

471 ครั้ง
|
20 มี.ค. 2568
การทำงานเป็นพนักงานบริษัทหรือมนุษย์เงินเดือนในประเทศไทย เราทุกคนต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสังคมทุกเดือน แต่หลายคนอาจสงสัยว่าเงินที่ถูกหักไปนั้น เราสามารถขอคืนได้หรือไม่ และจะได้รับเงินคืนเมื่อใด บทความนี้จะช่วยอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับประกันสังคมและการขอรับเงินคืน
 
ประกันสังคมคืออะไร และใครบ้างที่เข้าข่าย ?
 
ผู้ประกันตนมาตรา 33
- คือ พนักงานบริษัท หรือลูกจ้างในสถานประกอบการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป
- อายุต้องไม่ต่ำกว่า 15 ปีและไม่เกิน 60 ปี
- การคิดเงินสมทบประกันสังคม จะคิดจากค่าจ้างขั้นต่ำ 1,650 บาทต่อเดือน และสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาทต่อเดือน
 
สัดส่วนการจ่ายเงินสมทบ:
- ลูกจ้าง: 5% ของค่าจ้าง (ตั้งแต่ 83 บาทต่อเดือน ถึงสูงสุด 750 บาทต่อเดือน)
- นายจ้าง: 5% ของค่าจ้าง (ตั้งแต่ 83 บาทต่อเดือน ถึงสูงสุด 750 บาทต่อเดือน)
- รัฐบาล: 2.75% ของฐานเงินเดือนค่าจ้าง
 
สิทธิประโยชน์ที่ได้รับ:
ผู้ประกันตนมาตรา 33 จะได้รับความคุ้มครอง 7 กรณี:
1. เจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ
2. ทุพพลภาพ
3. ว่างงาน
4. คลอดบุตร
5. สงเคราะห์บุตร
6. ชราภาพ
7. เสียชีวิต
 
ผู้ประกันตนมาตรา 39
- คือ ผู้ที่เคยทำงานและเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 มาก่อน
- จ่ายเงินสมทบแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี และออกจากงานมาแล้วไม่เกิน 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ออกจากงาน
- ต้องไม่เป็นผู้รับประโยชน์ทดแทนกรณีทุพพลภาพจากกองทุนประกันสังคม
 
การคิดเงินสมทบ:
- ผู้ประกันตนส่งเงินเข้ากองทุน 432 บาทต่อเดือน
- รัฐบาลสมทบอีก 120 บาทต่อเดือน
 
เงื่อนไขการส่งเงินสมทบ:
- ต้องส่งเงินสมทบครบทุกเดือนต่อเนื่องกัน
- หากไม่ส่งเงินสมทบ 3 เดือนติดต่อกัน หรือภายในระยะเวลา 12 เดือน ส่งเงินสมทบไม่ครบ 9 เดือน จะสิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 ทันที
 
สิทธิประโยชน์ที่ได้รับ:
ผู้ประกันตนมาตรา 39 จะได้รับความคุ้มครอง 6 กรณี:
1. เจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ
2. ทุพพลภาพ
3. คลอดบุตร
4. สงเคราะห์บุตร
5. ชราภาพ
6. เสียชีวิต
 
เงินสมทบที่จ่ายไปถูกนำไปใช้อย่างไร ?
 
สำหรับมาตรา 33 จากเงินสมทบ 5% ของเงินเดือน จะถูกแบ่งเป็น 3 ส่วน:
1. ส่วนที่ 1: เจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ, ทุพพลภาพ, คลอดบุตร และเสียชีวิต (1.5%)
2. ส่วนที่ 2: สงเคราะห์บุตร, ชราภาพ (3%)
3. ส่วนที่ 3: ว่างงาน (0.5%)
 
การขอรับเงินคืนจากประกันสังคม
 
เงินที่เราได้คืนจากประกันสังคม เรียกว่า "เงินชราภาพ" ซึ่งไม่ใช่จำนวนเงินทั้งหมดที่เราส่งไป การคำนวณเงินชราภาพจะแตกต่างกันไปตามมาตรา และขึ้นอยู่กับระยะเวลาการส่งเงินสมทบและฐานเงินเดือน
 
เงื่อนไขการขอรับเงินชราภาพ
1. ผู้ประกันตนมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์
2. ความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง (ลาออกจากงานและสิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 หรือมาตรา 39)
3. ต้องดำเนินการขอคืนเงินชราภาพประกันสังคมภายใน 1 ปีหลังสิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตน
 
กำหนดการจ่ายเงินบำนาญชราภาพ
- จะโอนเงินของเดือนที่ได้รับสิทธิในวันที่ 25 ของทุกเดือน
- หากวันที่ 25 ตรงกับวันหยุดราชการ สำนักงานประกันสังคมจะโอนเงินให้ในวันทำการก่อนวันหยุดราชการ
 
การขอคืนเงินประกันสังคมก่อนอายุ 55 ปี
 
โดยปกติ เราไม่สามารถขอคืนเงินประกันสังคมก่อนอายุ 55 ปีบริบูรณ์ได้ ยกเว้นในกรณีพิเศษ 2 กรณี:
 
1. กรณีทุพพลภาพ: ผู้ประกันตนกลายเป็นผู้ทุพพลภาพก่อนอายุ 55 ปี จะขอรับเงินได้เป็น "เงินบำเหน็จชราภาพ"
 
2. กรณีเสียชีวิต: หากผู้ประกันตนเสียชีวิตก่อนอายุ 55 ปี ทายาทผู้มีสิทธิจะได้รับเป็น "เงินบำเหน็จชราภาพ" ตามกฎหมายประกันสังคมกำหนด (แม้จะส่งเงินสมทบครบ 15 ปีแล้วก็ตาม)
 
การตรวจสอบเงินชราภาพสะสม
 
ผู้ประกันตนสามารถตรวจสอบเงินชราภาพสะสมได้ผ่าน 3 ช่องทาง:
1. SSO Mobile App
2. Line Official Account: @SSOTHAI
3. Website: www.sso.go.th
 
นโยบายใหม่ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ
 
คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหลักการเพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพ 3 ประเด็น หรือที่เรียกว่า "3 ขอ" ได้แก่:
 
1. ขอเลือก: ให้ผู้ประกันตนที่อายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ สามารถเลือกรับระหว่างบำเหน็จชราภาพหรือบำนาญชราภาพได้
 
2. ขอคืน: ในกรณีที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ หรือเหตุการณ์อื่นใดที่ส่งผลกระทบต่อผู้ประกันตน สามารถนำเงินสะสมกรณีชราภาพบางส่วนออกมาใช้ได้ก่อนอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์
 
3. ขอกู้: สามารถนำเงินสะสมกรณีชราภาพบางส่วนไปเป็นหลักประกันกับสถาบันการเงินได้
 
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคณะรัฐมนตรีจะอนุมัติในหลักการแล้ว แต่ปัจจุบันยังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการทางกฎหมาย ต้องติดตามการประชาสัมพันธ์จากสำนักงานประกันสังคมต่อไป
 
พบกับ "โคชหนุ่ม" และ "กาย สวิตต์" ได้ใน "เงินทองของจริง" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-8.40 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และช่องทางออนไลน์ TERO Digital
 
 
รับชมผ่าน YouTube ได้ที่ 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง