ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ค่าจ้างขั้นต่ำของประเทศไทยมีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เคยสงสัยไหมว่าการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำไม่เพียงแค่ช่วยให้แรงงานมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แต่ยังมีผลต่อเศรษฐกิจและธุรกิจอย่างไรบ้าง ?
ย้อนรอยค่าจ้างขั้นต่ำไทยเทียบกับเงินเฟ้อ (2559-2567)
การตัดสินใจปรับค่าจ้างขั้นต่ำเป็นกระบวนการที่ต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเติบโตของธุรกิจ และอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น มาดูการเปลี่ยนแปลงของค่าจ้างขั้นต่ำในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา:
- ปี 2559: ค่าจ้างขั้นต่ำอยู่ที่ 300 บาท/วัน เป็นปีแรกที่มีการกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำแบบคงที่ในระดับประเทศ
- ปี 2560-2561: มีการปรับขึ้นเล็กน้อย โดยเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1.82-2.59% ซึ่งสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ราวๆ 1%
- ปี 2562-2563: แม้ค่าจ้างขั้นต่ำปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่การเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ ราวๆ 0.84-1.62% เนื่องจากรองรับเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
- ปี 2564: ค่าจ้างขั้นต่ำไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้นเลย เนื่องจากผลกระทบของการแพร่ระบาดโควิด-19
- ปี 2565: ค่าจ้างขั้นต่ำเริ่มฟื้นตัวเป็น 325.1 บาท/วัน เพิ่มขึ้น 1.26% แต่อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 6.08% ซึ่งทำให้ค่าครองชีพของแรงงานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
- ปี 2566: ค่าจ้างขั้นต่ำปรับเพิ่มขึ้นเป็น 337.2 บาท/วัน เพิ่มขึ้น 3.72% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นที่สูงสุดในรอบ 10 ปี
- ปี 2567: ค่าจ้างขั้นต่ำปรับเพิ่มขึ้นอีกเป็น 345.4 บาท/วัน เพิ่มขึ้น 2.42%
ทิศทางค่าจ้างขั้นต่ำปี 2568: โอกาสใหม่ของแรงงานไทย
ปี 2568 ถูกมองว่าเป็นโอกาสใหม่ของแรงงานไทย โดยมีการคาดการณ์ว่าค่าจ้างขั้นต่ำจะอยู่ในช่วง 337-400 บาท/วัน นอกจากนี้ บางจังหวัด เช่น สุราษฎร์ธานี, เชียงใหม่ และสงขลา จะมีอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 2 ระดับ ซึ่งสะท้อนถึงการบริหารจัดการที่เน้นความยืดหยุ่นและเหมาะสมกับต้นทุนค่าครองชีพในแต่ละพื้นที่
การปรับค่าจ้างขั้นต่ำในปี 2568 มีเป้าหมายหลักเพื่อ:
1. เพิ่มกำลังซื้อให้แก่แรงงาน
2. สนับสนุนการบริโภคในประเทศ
3. สร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
ข้อดีและข้อเสียของการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ
ข้อดี
- แรงงานมีกำลังซื้อสูงขึ้น ส่งผลให้เกิดการกระตุ้นการใช้จ่ายและช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัว
- รัฐบาลได้รับประโยชน์จากรายได้ภาษีที่เพิ่มขึ้น
- ช่วยสร้างแรงจูงใจให้แรงงานทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อธุรกิจโดยรวม
ข้อเสีย
1. ต้นทุนคงที่เพิ่มสูงขึ้น ธุรกิจที่ต้องใช้แรงงานจำนวนมาก ต้องจ่ายค่าจ้างแรงงานเพิ่มขึ้น แต่ถ้ากำลังการผลิตยังคงเท่าเดิม รายได้ก็ยังคงเท่าเดิม ส่งผลให้กำไรลดลง ธุรกิจอาจต้องขึ้นราคาสินค้า ซึ่งในความเป็นจริงที่ผ่านมา ราคาสินค้ามักปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าค่าแรงที่เพิ่มขึ้น
2. การปรับลดคนงาน จากต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น บางธุรกิจอาจปรับลดคนงานลง โดยหันไปใช้นวัตกรรมและเครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพดีกว่าและต้นทุนถูกกว่าแทน ส่งผลให้อัตราการว่างงานในประเทศเพิ่มสูงขึ้น
ความสัมพันธ์ระหว่างค่าจ้างขั้นต่ำกับเงินเฟ้อ
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เป็นตัวแทนของอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อค่าครองชีพของแรงงาน การเปรียบเทียบในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า ในบางปี ค่าจ้างขั้นต่ำเพิ่มขึ้นไม่ทันอัตราเงินเฟ้อ เช่น ปี 2565 ที่เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 6.08% ในขณะที่ค่าจ้างขั้นต่ำเพิ่มขึ้นเพียง 1.26%
อย่างไรก็ตาม การปรับเพิ่มค่าจ้างในปี 2568 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2.90% ซึ่งหากเพิ่มขึ้นชนะเงินเฟ้อได้ก็อาจจะช่วยลดผลกระทบได้ในระยะยาว
ผลกระทบของการปรับค่าจ้างขั้นต่ำต่อเศรษฐกิจ
ผลกระทบของการปรับค่าจ้างขั้นต่ำต่อเศรษฐกิจ อาจแบ่งได้เป็น 3 ภาคส่วน:
1. ผลกระทบต่อแรงงาน: การเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำอาจช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของแรงงาน ลดความเหลื่อมล้ำทางรายได้ และเพิ่มกำลังซื้อในครัวเรือน
2. ผลกระทบต่อภาคธุรกิจ: ธุรกิจที่พึ่งพาแรงงานจำนวนมาก เช่น ภาคการผลิตและบริการ จะเผชิญกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การปรับราคาสินค้าและบริการ
3. ผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม: การเพิ่มกำลังซื้อของแรงงานส่งผลให้การบริโภคภายในประเทศเพิ่มขึ้น ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและสนับสนุนการฟื้นตัวหลังสถานการณ์โควิด-19
ทิศทางการพัฒนานโยบายค่าจ้างขั้นต่ำในอนาคต
1. การจัดการค่าจ้างขั้นต่ำในแต่ละพื้นที่: การกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำที่แตกต่างกันในแต่ละจังหวัด อาจเป็นแนวทางที่ช่วยตอบโจทย์ความแตกต่างด้านค่าครองชีพของคนในแต่ละพื้นที่
2. การเชื่อมโยงกับอัตราเงินเฟ้อ: รัฐบาลควรติดตามอัตราเงินเฟ้อและปรับค่าจ้างขั้นต่ำให้สอดคล้องกัน เพื่อรักษากำลังซื้อและลดผลกระทบต่อแรงงาน
การปรับค่าจ้างขั้นต่ำที่เหมาะสมต้องคำนึงถึงความสมดุลระหว่างการยกระดับคุณภาพชีวิตของแรงงาน การรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคธุรกิจ และการสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจโดยรวม
พบกับ "โคชหนุ่ม" และ "กาย สวิตต์" ได้ใน "เงินทองของจริง" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.05-9.15 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และช่องทางออนไลน์ TERO Digital