ยื่นญัตติซักฟอก นายกฯ “อิ๊งค์” ลั่นมีหลักฐาน หวังถึงยุบสภา | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

127 ครั้ง

27 ก.พ. 2568

แชร์ข่าวไปที่

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯ แพทองธาร เพียงคนเดียว เพราะไม่มีคุณสมบัติความเป็นผู้นำ ปล่อยให้ นายทักษิณ ผู้เป็นบิดา ครอบงำ ชักใย เหมือนเป็นนายกฯ หุ่นเชิด

ฝ่ายค้านยื่นญัตติซักฟอก นายกฯ อิ๊งค์

ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้ยื่นญัตติอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ต่อ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียว

โดยเห็นว่า นางสาวแพทองธารเป็นผู้มีพฤติการณ์อันไม่อาจไว้วางใจให้บริหารราชการแผ่นดินในฐานะนายกรัฐมนตรีได้อีกต่อไป เนื่องจากไม่มีคุณสมบัติและไม่มีความเหมาะสม, ขาดภาวะผู้นำ ขาดวุฒิภาวะ ขาดความรู้ความสามารถ, จงใจลอยตัวอยู่เหนือปัญหาและไม่มีความรับผิดชอบต่อตำแหน่งหน้าที่, เพียงเพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ของตนเอง บิดา ครอบครัว และพวกพ้องเป็นตัวตั้ง

ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ดำเนินการตามนโยบายที่ให้สัญญาไว้กับประชาชน, บริหารบ้านเมืองผิดพลาด ล้มเหลวอย่างร้ายแรง, ปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชัน ทั้งยังทุจริตเชิงนโยบาย บริหารบ้านเมืองเพื่อเอื้อผลประโยชน์แก่พวกพ้องและกลุ่มทุน แต่งตั้งบุคคลที่ขาดความรู้ความสามารถไปเป็นรัฐมนตรีหรือตำแหน่งสำคัญอื่น

นอกจากนี้ ยังสมัครใจยินยอมให้ นายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดา ชี้นำ ชักใย ให้กระทำการหรืองดเว้นกระทำการอันเป็นเรื่องสำคัญของชาติบ้านเมือง ประพฤติตนเป็นเสมือนนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิด โดยมีบิดาเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริง

เท้ง ลั่นมีหลักฐานเอาผิดนายกฯ หวังถึงยุบสภา

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ลงรายชื่อ 166 คน โดยยืนยันว่า ตั้งใจอภิปรายนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวตั้งแต่แรก เพราะเป็นสิ่งที่อยากให้ประชาชนได้เห็นปัญหาของรัฐบาลชุดนี้ เชื่อมั่นในพรรคร่วมฝ่ายค้านที่เตรียมเนื้อหามาเป็นอย่างดี หากดูที่ตัวเนื้อหาในญัตติค่อนข้างครอบคลุมในหลายประเด็น สะท้อนปัญหาทุกอย่างของรัฐบาล

เมื่อถามถึงการเอ่ยชื่อ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะผิดข้อบังคับหรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ในตัวญัตติเขียนเอาไว้ชัดเจน เชื่อว่าไม่ได้ขัดข้อบังคับ เพราะเป็นปัญหาสำคัญของประเทศในปัจจุบัน เชื่อว่าเนื้อหาที่เตรียมมา เข้มข้นและพุ่งเป้าไปที่รัฐมนตรีหลายคน รวมถึงนายกรัฐมนตรีเอง และตนมีหลักฐานที่ชี้ชัดให้เห็นถึงการขาดคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรี ส่วนจะหวังผลถึงขนาดยุบสภาฯ เลยหรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ในอดีตก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ซึ่งตนไม่สามารถตอบแทนรัฐบาลได้

พปชร.ปัดถูกดูดเป็นรัฐบาล ชี้ บิ๊กป้อม ร่วมด้วย

ส่วน นายชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย สส.พรรคพลังประชารัฐ แถลงว่า พรรคพลังประชารัฐยืนยันว่าในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ พรรคพลังประชารัฐพร้อมร่วมมือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรคอย่างตรงไปตรงมา และจริงใจ และได้รับการยืนยันจาก พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ว่า จะเข้าร่วมประชุมเพื่อรับฟังการอภิปรายในครั้งนี้ด้วย แต่ พลเอก ประวิตร ยังไม่ได้เป็นหนึ่งในผู้อภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย แต่ พลเอก ประวิตร เป็นผู้ให้ข้อมูล กำหนดแนวทางทั้งหมด รวมถึงกำหนดประเด็นด้วย

ส่วนกระแสข่าวพรรคพลังประชารัฐถูกดูดไปเป็นฝ่ายรัฐบาลนั้น ยืนยันว่า พรรคพลังประชารัฐยังมีความเหนียวแน่น มีจุดยืนก้าวเดินไปด้วยกัน

ประธานสภาฯ เผยเริ่มซักฟอก 24 มี.ค.

ด้าน นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ตามประวัติศาสตร์ก็มีบ่อยที่ฝ่ายค้านอภิปรายรัฐมนตรีคนเดียว โดยวันที่มีการตกลงกันแล้ว คือ เริ่มวันที่ 24 มีนาคม ส่วนจะใช้ระยะเวลานานเท่าไรนั้น ขึ้นอยู่กับญัตติและการตกลงร่วมกัน คงไม่มีปัญหาอะไร เรื่องนี้ตกลงกันได้ ส่วนการอภิปรายนายกรัฐมนตรีคนเดียวใช้เวลา 5 วัน จะมีความสมเหตุสมผลหรือไม่นั้น วิป 3 ฝ่าย ก็ต้องคุยกัน

เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเข้ามาตั้งวอร์รูม เพื่อแถลงตอบโต้หากถูกพาดพิง นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า การตั้งวอร์รูมก็เป็นเรื่องของแต่ละพรรค ต้องว่ากันตามกฎหมายและข้อบังคับ สิ่งสำคัญคือหากพาดพิงถึงบุคคลภายนอก เขาก็สามารถดำเนินคดีได้

นายกฯ เข้าสภาฯ ครั้งแรก มั่นใจตอบได้หมด

ขณะที่วันนี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้าอาคารรัฐสภาเป็นครั้งแรก หลังเข้ารับตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อตอบกระทู้ถามสด โดยนายกฯ กล่าวว่า ความจริงตั้งแต่ช่วงปีใหม่ วางแพลนจะเข้าสภาฯ ไว้แล้ว โดยได้เลือกวันไว้แล้วว่าจะเข้าวันไหน ซึ่งจะต้องเรื่องของภารกิจด้วย ก็จะหาวันเข้าให้ได้ถือเป็นฤกษ์งามยามดี

ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านพุ่งมาที่นายกฯ เพียงคนเดียวนั้น นายกฯ บอกว่า เป็นสิทธิของฝ่ายค้านอยู่แล้ว และพูดคุยกันอยู่แล้วว่าอาจจะเป็นแบบนี้ โดยมั่นใจว่าตอบได้ทุกข้อ และถ้าอันไหนเกี่ยวกับกระทรวงไหน ก็คงให้รัฐมนตรีกระทรวงนั้นช่วยกันตอบ เชื่อว่าพรรคร่วมรัฐบาลไม่ปล่อยลอยแพ โดยส่งข้อความไปขอความช่วยเหลือจากทุกคนแล้วว่าเป็นมือใหม่ ยังไม่เคยโดนอภิปรายมาก่อน ซึ่งทุกคนพร้อมจะสนับสนุน

ส่วนข้อกล่าวหาที่จะพุ่งเป้าไปที่นายทักษิณนั้น นายกฯ บอกว่า ไม่ได้กังวลอะไร เพราะไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย มั่นใจว่าจะตอบได้ทุกข้อกล่าวหา โดยนายกฯ บอกว่า จะต้องมีการตั้งองครักษ์ขึ้นมาช่วยแน่นอน เพราะพูดคนเดียวอาจจะคอแห้งนิดหนึ่ง แต่นายทักษิณคงไม่ได้มาเป็นองครักษ์

นายกฯ ลั่นแก๊งคอลเซนเตอร์ต้องหมดในเร็ววัน

ส่วนในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ นายอัครเดช วงศ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ตั้งกระทู้ถามสดนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์ ซึ่งนางสาวแพทองธารชี้แจงด้วยตัวเอง ถือเป็นครั้งแรกที่มาตอบกระทู้ว่า เมื่อตนมาเป็นนายกฯ ได้สั่งการทันทีกับหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด และคุยกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อขอความร่วมมือ ปัจจุบันระงับบัญชีม้าไปแล้ว 1.92 ล้านบัญชี หรือ 140,000 รายชื่อ และมีมาตรการให้ธนาคารยกระดับตรวจสอบการเปิดบัญชีใหม่กับบุคคลที่มีความเสี่ยงสูง และให้มีการกวาดล้างซิมม้าที่อยู่ในระบบ

ทั้งนี้ในวันพรุ่งนี้ (28 ก.พ.) จะไปจังหวัดสระแก้ว เพื่อไปติดตามว่าสิ่งที่สั่งการเป็นอย่างไรบ้าง อาทิ การลดเสาส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ต ปราบปรามซิมบ็อกซ์ ระงับไวไฟคอลลิงจากประเทศเพื่อนบ้าน เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าคอลเซนเตอร์จะต้องหมดไปจากประเทศไทยในเร็ววันนี้อย่างแน่นอน เป็นนายกฯ ของคนไทย เรื่องคอลเซนเตอร์และยาเสพติด ขอให้ทุกคนมั่นใจว่ารัฐบาลไม่จบไม่เลิกแน่นอน

ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35