ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว รัฐบาลจึงมีนโยบายสวัสดิการเพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุผ่าน "เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ" หรือที่หลายคนเรียกว่า "เงินคนแก่" ซึ่งเป็นสวัสดิการขั้นพื้นฐานที่ภาครัฐจัดสรรไว้ให้กับบุคคลที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป เพื่อช่วยเหลือและแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตในแต่ละเดือน
คุณสมบัติของผู้มีสิทธิรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
1. มีสัญชาติไทยและอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์
- สำหรับปี 2568 ต้องเกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน 2508
- กรณีทราบแค่ปีเกิด ไม่ทราบวันเดือนเกิด ให้ถือว่าเกิดวันที่ 1 มกราคม ของปีนั้น ๆ
2. ไม่เคยลงทะเบียนมาก่อน หรือเคยลงทะเบียนแต่ย้ายภูมิลำเนา
- หากเคยลงทะเบียนแต่ย้ายที่อยู่ จะต้องลงทะเบียนใหม่ตามทะเบียนบ้านปัจจุบัน
- ตัวอย่าง: เคยลงทะเบียนที่เชียงใหม่ตั้งแต่ปี 2562 แต่ปี 2566 ย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ ต้องไปลงทะเบียนใหม่ที่สำนักงานเขตในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
3. ไม่ได้รับสิทธิประโยชน์อื่นจากหน่วยงานรัฐ
- ต้องไม่ได้รับเงินบำนาญ เบี้ยหวัด บำนาญพิเศษ
- ไม่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
- ไม่ได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทน รายได้ประจำ หรือผลประโยชน์ตอบแทนอื่นที่รัฐจัดให้เป็นประจำ
ขั้นตอนการลงทะเบียน
สถานที่ลงทะเบียน
- กรุงเทพมหานคร: สำนักงานเขตที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ในวัน-เวลาราชการ
- ต่างจังหวัด: สำนักงานเทศบาล หรือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ในวัน-เวลาราชการ
ตามกฎหมายเบี้ยผู้สูงอายุฉบับใหม่ (สิงหาคม 2566) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะอำนวยความสะดวกโดยแจ้งไปยังผู้สูงอายุที่มีสิทธิ์โดยตรง หากผู้สูงอายุประสงค์รับเบี้ยยังชีพ ให้แนบเอกสารหลักฐานเพื่อยืนยันสิทธิ์
เอกสารที่ต้องเตรียม
กรณีลงทะเบียนด้วยตนเอง:
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 1 ฉบับ
- สำเนาทะเบียนบ้าน 1 ฉบับ
- สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากประเภทออมทรัพย์ 1 ฉบับ (กรณีขอรับเบี้ยผ่านธนาคาร)
กรณีมอบอำนาจให้ผู้อื่นลงทะเบียนแทน:
- เอกสารข้างต้นทั้งหมด
- หนังสือมอบอำนาจฉบับจริง 1 ฉบับ (ขอแบบฟอร์มได้จากเจ้าหน้าที่)
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ 1 ชุด
- สำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับมอบอำนาจ 1 ชุด
อัตราเบี้ยยังชีพตามช่วงอายุ
เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจะจ่ายให้ทุกเดือนตลอดชีวิต โดยปรับขึ้นตามช่วงอายุ ดังนี้:
- อายุ 60-69 ปี: ได้รับเงิน 600 บาท/เดือน
- อายุ 70-79 ปี: ได้รับเงิน 700 บาท/เดือน
- อายุ 80-89 ปี: ได้รับเงิน 800 บาท/เดือน
- อายุ 90 ปีขึ้นไป: ได้รับเงิน 1,000 บาท/เดือน
ช่องทางการรับเงิน
ผู้สูงอายุสามารถเลือกรับเงินเบี้ยยังชีพได้ผ่านช่องทาง ดังนี้:
1. รับเงินสดด้วยตนเอง
2. ให้ผู้แทนที่ได้รับมอบอำนาจมารับเงินสดแทน
3. โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้สูงอายุ
4. โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารในนามบุคคลที่ได้รับมอบอำนาจ
กำหนดการจ่ายเงิน
รัฐบาลกำหนดจ่ายเงินเข้าบัญชีทุกวันที่ 10 ของเดือน หากวันที่ 10 ตรงกับวันหยุดราชการ จะจ่ายในวันทำการก่อนวันหยุด
การลงทะเบียนสำหรับผู้ที่จะมีอายุครบ 60 ปีในปีงบประมาณถัดไป
สำหรับผู้ที่จะมีอายุครบ 60 ปีในปีงบประมาณ 2569 (ตุลาคม 2568 - กันยายน 2569) หรือผู้ที่ลงทะเบียนไม่ทันในปีที่ผ่านมา สามารถลงทะเบียนล่วงหน้าได้ตั้งแต่ตุลาคม 2567 ถึงกันยายน 2568 ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามภูมิลำเนา
การลงทะเบียนขอรับเบี้ยผู้สูงอายุเป็นการลงทะเบียนล่วงหน้า เพื่อขอรับเงินในปีงบประมาณถัดไป ดังนั้นควรวางแผนลงทะเบียนให้ทันเวลาเพื่อรับสิทธิประโยชน์อย่างต่อเนื่อง
พบกับ "โคชหนุ่ม" และ "กาย สวิตต์" ได้ใน "เงินทองของจริง" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.05-9.15 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และช่องทางออนไลน์ TERO Digital