กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และ บริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ มุ่งพัฒนานวัตกรรมสื่อดิจิทัลด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยมี ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และ ดร.โชคชัย เอี่ยมฤทธิไกร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนาม ณ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568
ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กล่าวว่าเป็นความร่วมมือระหว่างสองหน่วยงาน ได้แก่ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กับ บริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
หลังจากที่มีการพูดคุยกันมาหลายรอบแล้ว เนื่องจากหนึ่งในภารกิจของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ คือการสร้างฐานความรู้ด้านการพัฒนานวัตกรรม โดยมีเป้าหมายในการจัดตั้ง TMF Academy หรือ TMF Library เพื่อเป็นคลังข้อมูล (Database) สำหรับผู้ผลิตสื่อทั้งรายเก่าและรายใหม่ที่สามารถเข้ามาใช้ประโยชน์ได้
ทางบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เองก็มีประสบการณ์ด้านการจัดทำคลังข้อมูลอยู่แล้ว โดยมีการนำภาพและวิดีโอเก่ามารีมาสเตอร์ เพื่อให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และปรับปรุงคุณภาพด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมถึงการนำ AI เข้ามาช่วยพัฒนา
ขณะนี้ เรากำลังหารือกันถึงแนวทางความร่วมมือในอนาคต โดยบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) มีความเชี่ยวชาญในด้าน AI, นวัตกรรม และฐานข้อมูล (Database) ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ที่มุ่งเน้นการสร้างฐานข้อมูลและคลังความรู้ด้านการพัฒนาสื่อให้ปลอดภัยและสร้างสรรค์ นับเป็นโอกาสที่ดีในการร่วมมือกัน
ในปัจจุบัน แม้ว่าจะมีคลังสื่ออยู่เป็นจำนวนมาก แต่การเข้าถึงและการรวบรวมข้อมูลยังไม่มีระบบที่ชัดเจน ด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ๆ และ AI ที่มีอยู่ในปัจจุบัน จะช่วยให้การประมวลผลแหล่งข้อมูลทำได้ง่ายขึ้น รวมถึงการจัดเก็บข้อมูลในลักษณะ Archive ก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ที่สำคัญคือ การบันทึกข้อมูลเหล่านี้สามารถช่วยให้เห็นพัฒนาการของสื่อในประเทศไทย ไม่เพียงแต่ในสื่อโทรทัศน์หรือรายการต่างๆ แต่รวมถึงสื่อสิ่งพิมพ์ ซึ่งในต่างประเทศก็เริ่มมีการดำเนินการในลักษณะนี้แล้ว
นอกจากนี้ รายการโทรทัศน์ที่กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ระบุว่าเป็นรายการที่มีคุณค่า เราก็สามารถย้อนกลับไปดูย้อนหลัง เพื่อศึกษารายการเชิงสร้างสรรค์ในอดีตได้ ทำให้ผู้คนสามารถเข้าถึงฐานข้อมูลเพื่อการเรียนรู้ที่กว้างขวางมากขึ้น ซึ่งจะเกิดประโยชน์อย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่เฉพาะกับผลงานของกองทุนฯ เท่านั้น แต่ยังรวมถึงข้อมูลจากแหล่งอื่นๆ
ขณะนี้เรากำลังพิจารณาการรวบรวมข้อมูลในลักษณะของ E-Library หรือคลังข้อมูลดิจิทัล ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมาก
แม้แต่รายการข่าว หรือเหตุการณ์สำคัญในกรุงเทพฯ รวมถึงเหตุการณ์ภัยพิบัติ ซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อยในประเทศไทย หากไม่มีการคิดหาวิธีรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลตั้งแต่วันนี้ อาจทำให้เรื่องราวเหล่านั้นกลายเป็นเพียงคำบอกเล่า แต่หากสามารถนำเทคโนโลยีมาใช้เก็บรักษาข้อมูลไว้ ก็จะช่วยให้ผู้คนสามารถย้อนเวลากลับไปศึกษาเรียนรู้เรื่องราวในอดีตได้ เพื่อทำความเข้าใจปัจจุบันและวางแผนสำหรับอนาคต ซึ่งข้อมูลเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง
หลังจากนี้ พวกเราจะลงลึกในรายละเอียดมากขึ้น โดยจะนำความเชี่ยวชาญของแต่ละฝ่ายมาประสานกันเพื่อเติมเต็มจุดแข็งซึ่งกันและกัน
ดร.โชคชัย เอี่ยมฤทธิไกร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าตัวแทนจากบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ขอขอบพระคุณ ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์เป็นอย่างมาก ที่ให้ความอนุเคราะห์และเล็งเห็นว่าประเทศไทยยังต้องได้รับการเติมเต็มในด้านสื่ออีกหลายส่วน โดยอันดับแรกคือ คลังสื่อ
ในลักษณะของ ไทยมีเดีย จริงๆ แล้ว สิ่งที่เราทำกันมานั้นเกี่ยวข้องกับสถานีโทรทัศน์ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งมีอายุครบ 70 ปี หากถามว่าวิดีโอเมื่อ 70 ปีก่อน จะมีคนได้เห็นและรับรู้เนื้อหาข้างในมากน้อยแค่ไหน แม้แต่พวกเราซึ่งอยู่ในแวดวงสื่อเองก็ยังไม่เคยเห็นเนื้อหาเหล่านั้นอย่างครบถ้วน
ทางบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ได้นำเสนอโครงการนี้ให้กับสถานีโทรทัศน์หลายแห่ง และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ยกตัวอย่างเช่น รายการ กระจกหกด้าน ซึ่งออกอากาศมาตั้งแต่ปี 2520 หรือกว่า 40 ปี ที่ผ่านมา ขณะนี้ เรากำลังดำเนินการนำวิดีโอจากรายการดังกล่าวมาเก็บไว้ในคลังสื่อ โดยได้รับความร่วมมือจากกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
ข้อมูลเหล่านี้เป็นประโยชน์สำหรับทุกคนในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นเด็ก เยาวชน หรือกลุ่มครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแวดวงการศึกษา ซึ่งสามารถนำคลิปวิดีโอเหล่านี้ไปใช้ในการทำสารคดี หรือนำไปต่อยอดในเชิงสร้างสรรค์
นอกจากนี้ ในปัจจุบัน เทคโนโลยีการตัดต่อก็พัฒนาไปมาก ทำให้กระบวนการปรับปรุงและนำเสนอเนื้อหาต่างๆ เป็นไปได้ง่ายขึ้น ซึ่งนี่เองเป็นที่มาของการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้
ความร่วมมือครั้งสำคัญนี้มุ่งเน้นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในการจัดทำฐานข้อมูลสื่อทั้งในรูปแบบคลิปวิดีโอและเนื้อหาดิจิทัล พร้อมพัฒนาระบบการเผยแพร่ที่ทันสมัย โดยนำนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีมาช่วยในการคัดกรอง จัดหมวดหมู่ และนำเสนอเนื้อหาที่เหมาะสมกับผู้ใช้งานแต่ละกลุ่ม โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ทั้งนี้ การใช้เทคโนโลยี AI จะช่วยให้การผลิตและเผยแพร่สื่อมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถสร้างสรรค์เนื้อหาที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างแม่นยำ
นอกจากนี้ ทั้งสองหน่วยงานจะร่วมกันพัฒนาแพลตฟอร์มการเรียนรู้ดิจิทัลที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น การเรียนรู้เชิงโต้ตอบ (Interactive Learning) เทคโนโลยีความเป็นจริงเสมือน (Virtual Reality) และการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing) เพื่อสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่น่าสนใจและมีประสิทธิภาพ