การมีบ้านเป็นของตัวเองคือความฝันของคนส่วนใหญ่ แต่การขอสินเชื่อบ้านกลับเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้หลายคนต้องชะงักความฝันนี้ไว้ บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้การกู้สินเชื่อบ้านไม่ผ่าน พร้อมแนะนำวิธีเพิ่มโอกาสในการขอสินเชื่อให้ประสบความสำเร็จ
10 สาเหตุหลักที่ทำให้กู้สินเชื่อบ้านไม่ผ่าน
1. คุณสมบัติผู้กู้ไม่ครบถ้วน
ธนาคารจะพิจารณาคุณสมบัติพื้นฐานของผู้กู้ โดยเฉพาะอายุงานและความมั่นคงในอาชีพ หากคุณมีอายุงานน้อยกว่า 6 เดือน หรือมีประวัติการเปลี่ยนงานบ่อย อาจถูกมองว่าขาดความมั่นคงในการผ่อนชำระ
2. อายุของผู้กู้ไม่เหมาะสม
ผู้กู้ที่มีอายุมากเกินไปหรือใกล้เกษียณอาจถูกปฏิเสธ เนื่องจากธนาคารต้องพิจารณาความสามารถในการทำงานและการชำระหนี้ในระยะยาว
3. รายได้ไม่ชัดเจน
อาชีพอิสระหรือฟรีแลนซ์ที่มีรายได้ไม่แน่นอนและไม่มีการทำธุรกรรมผ่านบัญชีธนาคารที่ชัดเจน อาจทำให้ธนาคารไม่สามารถประเมินความสามารถในการผ่อนชำระได้
4. ประวัติเครดิตไม่ดี
การมีประวัติค้างชำระเกิน 90 วัน หรือการถูกฟ้องร้องจะถูกบันทึกในเครดิตบูโร ส่งผลให้ธนาคารขาดความมั่นใจในการปล่อยกู้ ผู้ที่เคยผิดนัดชำระหนี้อาจต้องรอ 2-3 ปีเพื่อปรับปรุงประวัติทางการเงินก่อนยื่นกู้ใหม่
5. ภาระหนี้สูงเกินไป
หากมีภาระหนี้เกิน 40% ของรายได้ต่อเดือน ธนาคารอาจมองว่ามีความเสี่ยงสูงในการก่อหนี้เพิ่มและอาจมีปัญหาในการชำระหนี้ในระยะยาว
6. คะแนนเครดิตต่ำ
ผู้ที่ไม่มีประวัติการเงิน เช่น ไม่เคยมีบัตรเครดิตหรือไม่เคยขอสินเชื่อ อาจมีคะแนนเครดิตต่ำ ทำให้ธนาคารไม่สามารถประเมินความน่าเชื่อถือได้
7. ปัญหาจากผู้กู้ร่วม
ผู้กู้ร่วมที่มีภาระหนี้สูง ประวัติการเงินไม่ดี หรือรายได้รวมไม่เพียงพอ อาจส่งผลให้การขอกู้ไม่ผ่าน นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างผู้กู้และผู้กู้ร่วมก็มีผลต่อการพิจารณา
8. ขาดวินัยทางการเงิน
การไม่มีเงินออมหรือการชำระหนี้ขั้นต่ำเป็นประจำ แสดงถึงการขาดวินัยทางการเงิน ซึ่งอาจทำให้ธนาคารไม่เชื่อมั่นในความสามารถการผ่อนชำระ
9. หลักประกันไม่เหมาะสม
ทำเลที่ตั้งไม่ดี สภาพหลักประกันไม่เหมาะสม ราคาประเมินต่ำ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับเอกสารสิทธิ์ อาจเป็นเหตุให้ธนาคารปฏิเสธการกู้
10. ทรัพย์สินส่วนตัวน้อย
การไม่มีทรัพย์สินอื่นนอกจากเงินเดือนหรือไม่มีเงินออมสำรอง อาจทำให้ธนาคารมองว่าผู้กู้มีสถานะทางการเงินไม่มั่นคง
วิธีเพิ่มโอกาสให้การกู้สินเชื่อบ้านผ่าน
1. ตรวจสอบและปรับปรุงเครดิตบูโรให้ดี
2. เตรียมบัญชีที่แสดงรายรับ-รายจ่ายสม่ำเสมอ และมีเงินออม
3. จัดการภาระหนี้สินเดิมให้เรียบร้อย
4. เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน
5. เลือกวงเงินกู้ที่เหมาะสมกับความสามารถในการผ่อนชำระ
เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการยื่นกู้
เอกสารส่วนบุคคล
- บัตรประจำตัวประชาชน/บัตรข้าราชการ/บัตรรัฐวิสาหกิจ
- สำเนาทะเบียนสมรส/ใบหย่า/ใบมรณะบัตร (ถ้ามี)
- สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี)
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนคู่สมรส (ถ้ามี)
เอกสารทางการเงิน
สำหรับพนักงานประจำ
- ใบรับรองเงินเดือน/หนังสือผ่านสิทธิสวัสดิการ
- สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน
- สำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน
สำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระ
- สำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 12 เดือน
- สำเนาทะเบียนการค้า/ทะเบียนบริษัท/ห้างหุ้นส่วน
- หลักฐานการเสียภาษีเงินได้
- รูปถ่ายกิจการ
- สำเนาใบประกอบวิชาชีพ
เอกสารหลักประกัน
- สำเนาสัญญาจะซื้อจะขาย/สัญญาวางมัดจำ
- หลักฐานการเป็นเจ้าของอาคาร
- สำเนาโฉนดที่ดิน/นส.3ก/หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด/อช.2 ทุกหน้า
- ใบอนุญาตปลูกสร้าง/ต่อเติม
- แบบแปลน
- ใบประมาณการปลูกสร้าง/สัญญาว่าจ้างก่อสร้าง
หมายเหตุ: แต่ละธนาคารอาจขอเอกสารเพิ่มเติมตามความเหมาะสมเพื่อประกอบการพิจารณา
การกู้สินเชื่อบ้านเป็นการสร้างหนี้ระยะยาว จึงควรเตรียมตัวให้พร้อมที่สุด ศึกษาเงื่อนไขของแต่ละธนาคารให้ดี และวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ เพื่อให้การผ่อนชำระเป็นไปอย่างราบรื่นและไม่สร้างภาระในอนาคต
อยากสร้างบ้านที่อบอุ่น ด้วยสินเชื่อบ้านออมสินสบายใจ
- ซื้อหรือปลูกสร้าง วงเงินกู้สูงสุด 3 - 7 ล้านบาท
- ดอกเบี้ยคงที่ ปีแรก 1.89% ต่อปี
- ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก 2.89% ต่อปี
- ผ่อนเริ่มต้นปีแรก ล้านละ 4,000 บาท/เดือน
พิเศษ! แต่งบ้าน ด้วยสินเชื่อ Top Up สบายใจ
ดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีแรก 3.49% ต่อปี
ยื่นกู้ได้ตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 – 31 พฤษภาคม 2568
หรือจนกว่าครบวงเงิน 20,000 ล้านบาท (ใส่ใน AW)
อนุมัติและจัดทำนิติกรรมสัญญา ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2568
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
จองสิทธิ์เข้าร่วมโครงการและยื่นกู้ได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขา
สอบถามเพิ่มเติมที่ GSB Contact Center 1115
พบกับ "โคชหนุ่ม" และ "กาย สวิตต์" ได้ใน "เงินทองของจริง" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.05-9.15 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และช่องทางออนไลน์ TERO Digital