พี่บ่าว ร้อง “รถถูกถอด GPS” ไป “ขายต่อ” รู้อีกที อยู่ในมือ “หนุ่มคนดัง” อ้างซื้อถูกต้อง !

447 ครั้ง

04 ก.พ. 2568

แชร์ข่าวไปที่

หนุ่มให้คนรู้จักกับเพื่อนน้องชายเช่ารถ ผ่านไป 2 วัน พบรถถูกถอด GPS หายข้ามจังหวัด เคราะห์ดีมี GPS สำรอง สุดท้ายตามเจอรถอยู่ในมือหนุ่มคนดัง

วันที่ 4 ก.พ. 68 คุณ ศศิธร พุฒทอง (ปังปอนด์) น้องชายของผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า ตนรู้จักกับผู้ที่ติดต่อขอเช่ารถของพี่ชาย เนื่องจากเป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน อ้างว่าจะให้เพื่อนอีกคนนำไปใช้รับนักท่องเที่ยว เนื่องจากรถคันที่ใช้ประจำเสียพอดี จึงไปยื่นข้อเสนอให้แก่พี่ชาย ให้ผู้เช่ามาเช่ารถเมื่อวันที่ 29 ม.ค. 68

ถกไม่เถียง : พี่บ่าว ร้อง “รถถูกถอด GPS” ไป “ขาย

คุณ วีรณพัศธ์ พุฒทอง พุฒิกิติมงคล (โค้ช) ผู้เสียหาย และ คุณ กรชศา ภาคยาสิทธิ์ (ใบฝ้าย) ภรรยาของผู้เสียหาย เล่าว่า เพื่อนของน้องชายมาติดต่อผ่านน้องชายของตนขอเช่ารถ เห็นว่าเป็นคนรู้จักกัน ด้วยความไว้ใจจึงตกลงให้เช่า โดยมีเงื่อนไขเช่า 7 วัน มัดจำ 7,200 บาท และใช้เอกสารเป็นบัตรประชาชนกับใบขับขี่ของผู้เช่า แต่ไม่มีสัญญาเช่า

ระหว่างพูดคุยตกลงเช่ารถ สังเกตเห็นความผิดปกติหลายอย่าง อีกฝ่ายมีท่าทางรีบร้อนไม่สนใจรายละเอียดรถ เมื่อนำรถออกไปแล้วจึงรีบเปิด GPS ตรวจสอบว่ามีความผิดปกติหรือไม่ จนได้พบความผิดปกติหลายอย่าง สุดท้ายพบว่า GPS อยู่ในป่า ส่วน GPS สำรองอยู่ห่างออกไปถึง 8 กิโลเมตร และไม่สามารถติดต่อผู้เช่าได้

วันต่อมาพบว่า GPS อยู่ที่จังหวัดราชบุรี จึงเดินทางไปตามหารถ ขอความช่วยเหลือจากตำรวจ และพิสูจน์ได้ว่ารถคันดังกล่าวเป็นของตนจริง ๆ โดยเจ้าของบ้านอ้างว่าเป็นของลูกหลานมาจอดไว้ สุดท้ายได้พบกับคนที่อ้างว่าเป็นเจ้าของรถ อีกฝ่ายยืนยันว่าเป็นคนซื้อผ่านนายหน้า จึงนำรถไปสถานีตำรวจเพื่อรอพิสูจน์ความจริงต่อไป

รศ. พ.ต.ท. ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล รองอธิการบดี และประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยาฯ ม.รังสิต วิเคราะห์ว่า การที่ผู้ก่อเหตุกล้าใช้บัตรประชาชนของตัวเอง อาจเกิดจากความไม่เกรงกลัวในกระบวนการยุติธรรม หรืออาจมีบุคคลอื่นคอยช่วยเหลือ ส่วนเพื่อนของคุณปังปอนด์ที่แนะนำผู้เช่ามาให้ที่ติดต่อไม่ได้ ก็มีพฤติกรรมที่ไม่ปกติเช่นกัน ในกรณีนั้เชื่อว่ามีการทำเป็นขบวนการ เพื่อหลอกเช่ารถไปขายต่อ

ทนายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ให้ความเห็นด้านกฎหมายว่า ถ้าหากมีเจตนานำรถของผู้ให้เช่าไปขายตั้งแต่แรก จะมีความผิดข้อหายักยอกทรัพย์ ส่วนผู้ที่อ้างว่าเป็นเจ้าของรถคนปัจจุบันซื้อรถต่อจากนายหน้าอาจมีความผิดข้อหารับของโจร

คุณ นัทธพงศ์ (นามสมมติ) ผู้ซื้อรถ ชี้แจงว่า ตนซื้อรถคันดังกล่าวจากนายหน้า โดยได้รับแจ้งว่าเป็นรถหลุดจำนำ แต่ไม่ทราบมาก่อนว่ารถคันนี้เป็นรถที่ถูกเช่ามาขายต่อ ขณะนี้ตนติดต่อเรื่องคืนเงินกับนายหน้าแล้ว ถ้าหากได้รับเงินคืนก็จะยินยอมมอบรถคืน

พ.ต.อ. สุรพงษ์ พุฒขาว ผกก.สน.ประเวศ ชี้แจงถึงความคืบหน้าของคดีนี้ว่า หลังจากได้รับแจ้งความ ได้สอบปากคำผู้เสียหาย และออกหมายเรียกผู้กระทำความผิดแล้ว พร้อมยืนยันว่าจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเต็มที่

พ.ต.อ. ปิยะพงษ์ วงค์เกตุใจ ผกก.สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ชี้แจงถึงความคืบหน้าของคดีนี้ว่า ได้ยึดรถของกลางไว้ พบว่ารถถูกถอดกันชนกับป้ายทะเบียน คาดว่าเป็นการเตรียมนำไปขายต่อ หลังจากนี้จะสืบต่อไปว่ามีการทำเป็นขบวนการหรือไม่

ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 17.00-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35