logo ข่าวเย็นประเด็นร้อน

สุดงง ! หญิงท้อง 9 เดือน ตรวจไม่พบลูก ยันไม่ได้กุเรื่อง | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ข่าวเย็นประเด็นร้อน : ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หญิงตั้งท้อง 9 เดือน เมื่อครบกำหนดคลอด ลูกหายปริศนา ร่ำไห้ขอความเป็นธรรม พร้อมโชว์หลักฐานไปตรวจครรภ์ ช่อง7,ช่อง7HD,CH7,CH7HD,7HD,CH7HDNEWS,ข่าว,ข่าว7,ข่าวช่อง7,ข่าววันนี้,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ข่าวเด็ด,ข่าวร้อน,ข่าวไทย,ข่าวออนไลน์,ข่าวโซเชียล,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวการเมือง,ดูทีวีย้อนหลัง,ดูรายการย้อนหลัง,ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,TERODigital,ข่าวเย็นประเด็นร้อน,สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์,เปรมสุดา สันติวัฒนา,ทิน โชคกมลกิจ,จีรนันท์ เขตพงศ์,สันติวิธี พรหมบุตร,บุญชงสงตอบ,ทนายบุญ

82 ครั้ง
|
04 ก.พ. 2568
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หญิงตั้งท้อง 9 เดือน เมื่อครบกำหนดคลอด ลูกหายปริศนา ร่ำไห้ขอความเป็นธรรม พร้อมโชว์หลักฐานไปตรวจครรภ์ ยันไม่ได้กุเรื่อง ย้ำไม่ได้ต้องการเอาผิดโรงพยาบาล แค่อยากรู้ว่าลูกหายไปไหน
 
หญิงท้อง 9 เดือน ลูกในท้องหายปริศนา
 
เมื่อวานนี้ (3ก.พ.) นายวิชาญ อายุ 42 ปี พาภรรยา นางสาวรุ่งอรุณ อายุ 38 ปี เข้าพบ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือ นางสาวรุ่งอรุณ เล่าว่า เริ่มตั้งครรภ์ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ฝากครรภ์ที่คลินิกแห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี ต่อมา เดือนพฤษภาคม 2567 ได้ย้ายไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ตามสิทธิบัตรทอง
 
ระหว่างฝากครรภ์ทุกอย่างเป็นปกติ หมอนัดอัลตราซาวนด์ทุกเดือน ต่อมาช่วง 16 กันยายน 2567 ตั้งครรภ์ได้ประมาณ 7 เดือน หมอแจ้งว่า พบถุงน้ำคร่ำอีก 1 ใบในท้อง เป็นไปได้ว่าอาจจะตั้งครรภ์ซ้อน หมอแจ้งว่าต้องผ่าคลอดลูกคนแรกก่อนกำหนด ให้เธอเตรียมตัว
 
กำหนดคลอดปลายเดือนพฤศจิกายน 2567 เมื่อถึงกำหนด ปากมดลูกไม่เปิด หมอจึงนัดอีกครั้ง วันที่ 15 ธันวาคม 2567 พอถึงวันนัด หมออัลตราซาวนด์พบเด็กตัวใหญ่ น้ำหนักประมาณ 3,300 กรัม อาจจะต้องผ่าคลอด มีการนัดผ่าวันที่ 25 ธันวาคม 2567 พอถึงวันนัด หมอแจ้งว่า เธอป่วย มีอาการไอ ไม่สามารถผ่าได้ หากผ่าแผลจะปริ เธอแย้งว่าตั้งครรภ์มา 10 เดือนแล้ว หากไม่รีบผ่าจะเป็นอันตรายหรือไม่ หมอจึงตอบกลับมาว่า การตั้งครรภ์สามารถให้ทารกอยู่ในท้องได้ คือ 40 สัปดาห์ หรือ 10 เดือน
 
จากนั้นหมอนัดเธอมาพบอีกครั้ง ต้นเดือนมกราคม 2568 แจ้งว่า ให้รอปากมดลูกเปิด และบอกว่า เด็กแข็งแรงดี กระทั่งปลายเดือนมกราคม 2568 พบว่า ลูกไม่ดิ้น จึงให้สามีพาไปโรงพยาบาล ปรากฏว่า ไม่พบข้อมูลการฝากครรภ์ เมื่อโรงพยาบาลยอมตรวจครรภ์ให้ แต่ต้องช็อกซ้ำสอง มีการแจ้งว่า ไม่พบลูกคนโต อายุครรภ์ 42 สัปดาห์แล้ว พบเพียงการตั้งครรภ์ของลูกอีกคน ที่อายุครรภ์เพียง 3 เดือน ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้ เพราะหมอเป็นคนนัดมาคลอดเอง แล้วตอนนี้ลูกหายไปไหน
 
ต่อมา มีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลโทรแจ้งว่า พบสมุดฝากครรภ์ และประวัติการฝากครรภ์ของเธอแล้ว อยากขอโทษกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น และจะนัดเจรจา วันที่ 10 กุมภาพันธ์นี้
 
รพ.ชี้แจงตั้งครรภ์แค่ 13 สัปดาห์
 
ด้าน นพ.ชัยรัตน์ วงศ์วรพิทักษ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลปทุมธานี ชี้แจงตามข้อมูลเอกสาร พบมีการเข้ารับบริการรวม 15 ครั้ง ครั้งแรกเป็นผู้ป่วยนอก เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2567 ด้วยอาการปวดหลังร้าวลงขา แต่ไม่ได้รอตรวจ และไม่ได้รับยา ต่อมารักษาอีกครั้ง วันที่ 12 มิถุนายน 2567 เป็นไข้หวัด จึงให้รับยากลับบ้าน หลังจากนั้นมีการเข้ารักษา ด้วยโรคทางกายอีก 9 ครั้ง จนถึงวันที่ 26 ธันวาคม 2567 ซึ่งในช่วง 11 ครั้งแรก หรือในช่วงครึ่งปี 2567 ไม่มีอะไรเกี่ยวกับการตั้งครรภ์เลย แต่มีในวันที่ 13 มิถุนายน 2567 คุณหมอลงรายละเอียดว่า มาด้วยเรื่องติดตามปอดอักเสบ-คออักเสบ จากการฟังผลเลือดช่วงเช้า คุณหมอลงไว้ว่า ตั้งครรภ์ร่วมกับมีปัสสาวะติดเชื้อ นัดส่งสูติกรรม ในวันรุ่งขึ้น 14 มิถุนายน 2567
 
แต่กรณีนี้ไม่มีผลตรวจปัสสาวะ เมื่อสอบถามคุณหมอ เล่าว่า เป็นเพราะคนไข้เล่าประวัติให้ฟังว่า ตัวเองตั้งครรภ์ แต่พอถึงวันนัดหมาย (14 มิ.ย.) คนไข้ไม่ได้มาตามนัด ส่วนที่ทางคนไข้อ้างว่า ไปฟังครรภ์ตอนเดือนพฤษภาคม 2567 ทางโรงพยาบาลไม่มีข้อมูล
 
จากนั้นวันที่ 20 มกราคม 2568 คนไข้มาขอตรวจปัสสาวะ เพราะสงสัยจะตั้งครรภ์ อ้างประจำเดือนขาดไปแล้ว 2 เดือน วันนั้นตรวจปัสสาวะให้ แต่คนไข้ไม่ได้รอฟังผล กระทั่งวันที่ 30 มกราคม 2568 มีการแจ้งผลว่า ตั้งครรภ์ จึงมีการเจาะเลือด เตรียมฝากครรภ์ จนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 คนไข้กลับมาบอกว่า ใกล้คลอด แล้ว ทั้งที่ข้อมูลพบว่าเพิ่งตั้งครรภ์ได้ 13 สัปดาห์ แม้คุณหมอจะงงกับคำพูดของคนไข้ แต่มีการทำอัลตราซาวนด์ให้ และจากประวัติของคนไข้รายนี้ ไม่เคยเข้ามาที่แผนกสูตินารีเวช
 
ส่วนเอกสารบัตรคิวรอตรวจ ที่เขียนว่า คลินิกฝากครรภ์ เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2567 พยาบาลจะขอบัตรประชาชนไปกดบัตรคิว ยังไม่มีข้อมูลจากเวชระเบียน
 
ขณะที่ ดร.ธนกฤต จิตร​อารีย์​รัตน์​ ผู้ช่วย​รัฐมนตรี​ประจำ​กระทรวง​สาธารณสุข ระบุว่า เพื่อความชัดเจน ต้องเชิญคนไข้ไปที่โรงพยาบาล และตรวจสอบให้เกิดความชัดเจนอีกครั้ง
 
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
-
 
ชมผ่าน YouTube 
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง