หัวอกพ่อแม่ แตกสลาย “จนท. ชุ่ย” สลับร่างลูก ช็อก ลูกถูกเผา “ไม่ทันเห็นหน้า” !

430 ครั้ง

22 ม.ค. 2568

แชร์ข่าวไปที่

พ่อแม่ใจสลาย เจ้าหน้าที่ชุ่ย สลับร่างไร้วิญญาณของลูก ไปให้อีกครอบครัวนำไปฌาปนกิจ ไม่ทันได้เห็นหน้าครั้งสุดท้าย

ถกไม่เถียง : หัวอกพ่อแม่ แตกสลาย “จนท. ชุ่ย” สลั

วันที่ 22 ม.ค. 68 คุณ นิศากร วงศ์ซื่อสัตย์ (หนุ๋ย) แม่ของน้องที่ถูกนำร่างไปเผา และ คุณ โยธิน พิพัฒน์เพิ่มพูล (โย) พ่อของน้องที่ถูกนำร่างไปเผา ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า ลูกของตนมีอาการป่วยหนัก แล้วเสียชีวิตเมื่อวันที่ 15 ม.ค. 68 เจ้าหน้าที่ถามว่าต้องการผ่าพิสูจน์ไหม เพื่อเป็นวิทยาทานให้แก่ผู้อื่นในอนาคตที่อาจเป็นโรคเดียวกับลูกของตน จึงตัดสินใจเซ็นยินยอมให้ผ่าพิสูจน์ โดยมีระยะเวลา 1 สัปดาห์

แต่ระหว่างกลับบ้านตนเห็นว่ามีคนอุ้มเด็กที่เสียชีวิตออกไป ต่อมามีเจ้าหน้าที่แจ้งว่าร่างของลูกไม่สามารถผ่าพิสูจน์ได้ จึงตัดสินใจกลับไปรับร่างลูกที่โรงพยาบาล สุดท้ายทราบว่าร่างของลูกตนสลับไปอยู่กับครอบครัวอื่น เนื่องจากชื่อคล้ายกันเสียชีวิตวันเดียวกัน และได้ทำพิธีฌาปนกิจไปแล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่เสนอให้ตนทำพิธีคล้ายอาจารย์ใหญ่แทน แต่ตนไม่ยินยอมและไปแจ้งความ

คุณ กิรณา ชฎาภัทรวรโชติ (กวาง) ผู้นำทีมกวางห้วยขวางดินแดง เล่าว่า ตนเข้ามาช่วยดูแลตั้งแต่เด็กยังป่วยหนัก เนื่องจากได้รับเรื่องร้องทุกข์ว่า ครอบครัวของคุณหนุ๋ยมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายด้านการรักษาลูก ตนรับรู้เรื่องทุกอย่างตั้งแต่แรก จนถึงวันที่ทราบว่ามีการสลับร่างผู้เสียชีวิต จึงเข้าไปเป็นคนกลางช่วยเจรจาระหว่างครอบครัวผู้เสียหายกับโรงพยาบาล และไม่อยากให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับครอบครัวใครอีก

คุณ ณรงค์ จันที พ่อของน้องณภัทรที่รับศพผิดไปทำพิธี เล่าว่า ลูกของตนคลอดก่อนกำหนด อยู่ในโรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกจนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 68 หลังจากได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลจึงเข้าไปรับร่างของลูก เจ้าหน้าที่เป็นผู้อุ้มร่างลูกของตนออกมา โดยมีการทวนชื่อของลูกหลายครั้ง ด้วยอาการตัวบวมจึงไม่สามารถระบุอัตลักษณ์ได้ และด้วยความเศร้าโศกจึงไม่มีใครเอะใจว่าไม่ใช่ร่างของลูกตน เมื่อถึงวัดก็จัดพิธีฌาปนกิจภายในวันเดียวกัน สุดท้ายได้ทราบภายหลังจากโรงพยาบาลว่าร่างเด็กที่รับมาไม่ใช่ลูกของตน ชี้แจงว่าเป็นความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่

ทนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความ ให้ความเห็นด้านกฎหมายว่า กรณีนี้ไม่มีข้อกฎหมายโดยตรง แต่สามารถนำกฎหมายใกล้เคียงมาประกอบได้ โดยกรณีนี้เกิดจากความประมาทของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล นอกจากนี้จะต้องวิเคราะห์ว่าครอบครัวของคุณณรงค์ประมาทด้วยหรือไม่ แต่ทางโรงพยาบาลจะต้องมีการเยียวยาผู้เสียหายอย่างแน่นอน เรื่องนี้ควรเจรจาหาช่องทางเยียวยาดีกว่าฟ้องร้องกัน

นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ให้ความเห็นว่า สามารถนำข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องมาใช้กับโรงพยาบาลได้ ตนเห็นภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว พบว่า เจ้าหน้าที่มีการเก็บร่างของเด็กทั้งสองคนในตู้เดียวกัน ด้วยความที่ชื่อคล้ายกัน เสียชีวิตในวันเดียวกัน และเจ้าหน้าที่ไม่ได้ตรวจสอบให้ดีก่อนที่จะนำร่างไปส่งให้ญาติ ส่วนคำร้องขอของครอบครัวคุณหนุ๋ย จะช่วยดำเนินการต่อไป

นพ.กิตติวัฒน์ มะโนจันทร์ ผู้อำนวยการสถาบันพยาธิวิทยา กรมการแพทย์ กล่าวว่า ปกติแล้วการรับร่างผู้เสียชีวิตจะต้องบรรจุในโลงก่อนออกไป หรือญาติสามารถแจ้งความประสงค์ว่าไม่ต้องบรรจุโลงได้ จากการสอบถามเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว พบว่า เป็นอาสาสมัคร สาเหตุที่เก็บร่างไว้ตู้เดียวกันเนื่องจากพื้นที่ไม่พอ และเกิดจากความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่จริง ซึ่งเจ้าตัวก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 17.00-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35