เจตมูลเพลิงแดง ไม้ล้มลุกที่มากสรรพคุณ
logo ข่าวอัพเดท

เจตมูลเพลิงแดง ไม้ล้มลุกที่มากสรรพคุณ

ข่าวอัพเดท : เจตมูลเพลิงแดง หรือที่บางครั้งเรียกว่า เจตมูลเพลิง เป็นพืชสมุนไพรที่มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Tacca palmata หรือ Tacca leontopetaloide พืชสมุนไพร,เจตมูลเพลิงแดง,สมุนไพรรักษาโรค,สรรพคุณพืชสมุนไพร,ยารักษาโรค

49 ครั้ง
|
17 ม.ค. 2568
เจตมูลเพลิงแดง หรือที่บางครั้งเรียกว่า เจตมูลเพลิง เป็นพืชสมุนไพรที่มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Tacca palmata หรือ Tacca leontopetaloides โดยมีลักษณะพืชเป็นเถาและเติบโตในพื้นที่เขตร้อน รวมถึงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเกาะในแปซิฟิก พืชชนิดนี้มักพบในพื้นที่ชื้นและชาวท้องถิ่นใช้ส่วนต่าง ๆ ของตนเองในการรักษาโรคและเป็นอาหาร
 
ลักษณะของเจตมูลเพลิงแดง
พืชล้มลุกที่มีเหง้าใต้ดิน ( คล้ายมันสำปะหลัง ) ซึ่งใช้เป็นแหล่งอาหาร มีใบใหญ่และมีก้านใบที่ยาว ดอกของเจตมูลเพลิงแดงจะมีสีขาวถึงสีแดง ซึ่งทำให้ดูสะดุดตา
 
สรรพคุณทางสมุนไพร
เจตมูลเพลิงแดงมีการนำมาใช้เป็นพืชสมุนไพรพื้นบ้านในบางพื้นที่ของประเทศไทยและประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีสรรพคุณที่หลากหลาย ดังนี้
 
บรรเทาอาการปวด : ส่วนของเหง้ามีการใช้เป็นยาสมุนไพรในการบรรเทาอาการปวด
รักษาโรคผิวหนัง : การใช้ใบหรือเหง้าในการรักษาอาการผิวหนังบางประเภท เช่น กลาก เกลื้อน
รักษาโรคทางเดินอาหาร : บางส่วนของพืชใช้ในการรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับกระเพาะอาหารหรือท้องร่วง และนอกจากนี้เจตมูลเพลิงแดงยังมีสรรพคุณที่หลากหลาย เช่น ใช้แก้อาการฟกช้ำ ช่วยแก้ไอ ขับเสมหะ แก้อาการตกขาวของสตรี ใช้ระงับอาการปวดฟัน รักษาอาการอัมพาต เป็นต้น
 
ข้อควรระวัง
เจตมูลเพลิงแดง ( รวมถึงเจตมูลเพลิงอื่น ๆ ) หากใช้ไม่ระมัดระวังอาจมีอันตรายได้ เพราะบางส่วนของพืช เช่น เหง้า มีสารพิษที่อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองหรืออันตรายหากไม่ได้ผ่านกระบวนการเตรียมและปรุงที่ถูกต้องก่อนการใช้หรือรับประทาน และห้ามนำไปใช้กับหญิงตั้งครรภ์ เพราะอาจจะทำให้แท้งได้
 
การใช้ในอาหาร
เหง้าของเจตมูลเพลิงแดงสามารถนำมาปรุงเป็นอาหารได้ แต่ต้องผ่านการเตรียมที่เหมาะสมเพื่อให้ปลอดภัยจากสารพิษที่อาจมีอยู่ในพืช โดยทั่วไปจะมีการต้มเหง่าก่อนการรับประทานเพื่อทำให้ปลอดภัยจากสารพิษ
 
สรุป
เจตมูลเพลิงแดงเป็นพืชที่มีสรรพคุณทางสมุนไพรหลายประการ แต่ก็ต้องระมัดระวังในการใช้เนื่องจากมีสารพิษที่อาจเป็นอันตรายหากไม่ได้ผ่านกระบวนการเตรียมที่ถูกต้อง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนการใช้ในทางการแพทย์หรือการบริโภค