ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่กระทรวงการคลัง บอกว่า จะได้รับเงินเร็วขึ้นในวันที่ 27 มกราคมนี้ ล่าสุด วันนี้ กระทรวงการคลัง ออกมาเผยคุณสมบัติโดยละเอียดผู้ที่จะได้รับเงิน 10,000 บาท โดยจะเริ่มตรวจสอบสิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค.นี้
ผู้สูงอายุเช็กสิทธิรับเงิน 1 หมื่นบาท 22 ม.ค.
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลจะสนับสนุนเงินจำนวน 10,000 บาทต่อคนแก่ผู้สูงอายุที่มีคุณสมบัติเป็นไปตามเงื่อนไขของโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ คือ เป็นผู้ที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” สำเร็จ มีสัญชาติไทย และมีอายุตั้งแต่ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ 15 กันยายน 2567 ไม่เป็นผู้มีเงินได้เกิน 840,000 บาท สำหรับปีภาษี 2566 ไม่เป็นผู้ที่มีเงินฝากรวมกันเกิน 500,000 บาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 ไม่เป็นผู้อยู่ในสถานสงเคราะห์ในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ไม่เป็นผู้ต้องขัง ไม่เป็นกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับเงินตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ
โดยสามารถตรวจสอบสิทธิผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ได้ตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 2568 เป็นต้นไป ผู้สูงอายุที่มีสิทธิจะได้รับเงิน 10,000 บาท ผ่านบัญชีเงินฝากที่ผูกพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนเท่านั้น ไม่สามารถรับเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกไว้กับเบอร์โทรศัพท์ได้ ซึ่งสามารถผูกกับบัญชีเงินฝากของธนาคารใดก็ได้ ไม่จำกัดว่าต้องเป็นธนาคารของรัฐ ขอแนะนำให้ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 22 มกราคม 2568 เพื่อรอรับการจ่ายเงินในวันที่ 27 มกราคม 2568
กรณีจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายไม่สำเร็จในครั้งแรก จะดำเนินการจ่ายเงินซ้ำ (Retry) ให้แก่กลุ่มเป้าหมายดังกล่าว 3 ครั้ง ได้แก่วันที่ 28 กุมภาพันธ์, 28 มีนาคม และ 28 เมษายน 2568
เริ่มวันนี้ Easy E-Receipt 2.0 ลดหย่อนภาษี
ส่วนผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ที่ต้องการลดหย่อนภาษี วันนี้เริ่มแล้ว (16 ม.ค.) กับการเปิดให้ประชาชนผู้เสียภาษีใช้สิทธิ “Easy E-Receipt 2.0” สามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าและบริการในประเทศ ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม - 28 กุมภาพันธ์ 2568 ตามจำนวนที่จ่ายจริง มาลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท เฉพาะที่ได้รับเอกสารยืนยันการใช้จ่ายในรูปแบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ แบ่งออกเป็น
1.ลดหย่อนสูงสุด 30,000 บาท ซื้อสินค้าหรือบริการจากร้านค้าที่ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt)
2. ลดหย่อนเพิ่มเติมอีก 20,000 บาท (ต้องใช้หลักฐาน e-Tax Invoice หรือ e-Receipt เช่นกัน) ซื้อสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) วิสาหกิจชุมชน และวิสาหกิจเพื่อสังคม
สินค้าและบริการที่ไม่เข้าร่วมมาตรการ ได้แก่ ค่าสุรา เบียร์ และไวน์ ยาสูบ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าซื้อยานพาหนะ ค่าสาธารณูปโภค ค่าประกัน ค่าทัวร์-ที่พัก และค่าบริการที่ใช้นอกระยะเวลามาตรการ
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีผู้ประกอบการเข้าร่วมระบบ e-Tax Invoice และ e-Receipt จำนวน 12,395 ราย โดยมีร้านค้ารวมทั้งสิ้น 108,873 ร้านค้า มีทั้งห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้า ร้านเสื้อผ้า ร้านอุปกรณ์กีฬา ร้านขายยา ร้านหนังสือ ร้านขายสินค้าโอทอป เรียกว่าแบรนด์ดัง ๆ ในห้างเข้าร่วมโครงการครบ สำหรับผู้ที่ต้องการดูรายชื่อผู้ประกอบการที่เข้าร่วมมาตรการสามารถเข้าไปค้นหาได้ในเว็บไซต์กรมสรรพากร https://etax.rd.go.th นอกจากนี้ยังสังเกตได้จากป้าย หรือตราสัญลักษณ์ร้านค้าที่มี Easy E-Receipt หรือ e-Tax ติดอยู่ หรือสอบถามทางร้านค้าได้โดยตรง สำหรับร้านค้าที่ต้องการใช้ระบบ e-Tax Invoice หรือ e-Receipt สามารถติดต่อสำนักงานสรรพากรพื้นที่ที่ร้านค้าตั้งอยู่ได้เลย
เปิดจอง-ชมบ้านตัวอย่าง “บ้านเพื่อคนไทย” พรุ่งนี้
ส่วนวันพรุ่งนี้ (17 ม.ค.) เวลา 14.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (สถานีกลางบางซื่อ) เพื่อเปิดโครงการบ้านเพื่อคนไทย พร้อมเปิดให้ประชาชนชมห้องตัวอย่าง และแสดงเจตจำนงจองสิทธิ์โครงการบ้านเพื่อคนไทย โดยลงทะเบียนจองสิทธิ์พร้อมกัน ผ่านเว็บไซต์ www.บ้านเพื่อคนไทย.th
สำหรับโครงการบ้านเพื่อคนไทย นำร่องบนพื้นที่ 4 แห่ง ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ประกอบด้วย พื้นที่บางซื่อ กม.11, เชียงราก, สถานีธนบุรี และสถานีเชียงใหม่ คุณสมบัติของผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการบ้านเพื่อคนไทย คือ สัญชาติไทย บรรลุนิติภาวะ ณ วันลงทะเบียน ผู้มีรายได้ ณ วันลงทะเบียนไม่เกิน 50,000 บาทต่อเดือน ไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างที่อาจใช้พักอาศัยได้ทุกประเภท และไม่เคยได้สิทธิ์ในโครงการบ้านเพื่อคนไทย เงื่อนไข คือ ผู้ซื้อสิทธิ์ 1 ท่าน มีสิทธิ์จองอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างได้ 1 หน่วยต่อ 1 โครงการ ห้ามโอนสิทธิ์ในโครงการบ้านเพื่อคนไทยภายในระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันจดทะเบียนสิทธิ์
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35