ครอบครัวร้อง ถูกนายหน้าประกันสุดแสบ หลอกผู้สูงอายุป่วยอัลไซเมอร์แสกนหน้า โอนเงิน 1 ล้านบาท เข้าบัญชีตัวเอง คู่กรณีอ้าง อีกฝ่ายเป็นคนให้เอง เพื่อให้ช่วยดูแลในบั้นปลายชีวิต
วันที่ 7 ม.ค. 68 คุณ ฉลาด สามีของผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า ครอบครัวตนทำประกันกับนายหน้าคนนี้มากว่า 10 ปีแล้ว หลังจากภรรยาเกษียณแล้วรู้ว่าจะได้เงินล้าน เจ้าตัวมักจะแวะเวียนเข้ามาหาภรรยาที่บ้านตอนที่ไม่มีคนอยู่ ด้วยโรคประจำตัวของภรรยาที่เป็นเบาหวานและอัลไซเมอร์จึงต้องอยู่บ้านคนเดียว
ตอนแรกไม่เอะใจคิดว่าเป็นคนรู้จักที่มาหาภรรยาตามปกติ จนกระทั่งวันที่ 24 พ.ย. 67 ตนมาทราบเรื่องภายหลังว่าเงิน 1 ล้านบาท ถูกโอนเงินออกไปให้นายหน้าประกันคนดังกล่าว นายหน้าประกันอ้างว่านำไปทำประกันให้ เหตุการณ์นี้ทำให้อาการของภรรยาทรุดลง จากที่เคยเดินได้กลายเป็นต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล
คุณ เอ้ ญาติของผู้เสียหาย เล่าว่า ครอบครัวมารู้ภายหลังว่าเงินของคุณป้า 1 ล้านบาท ถูกโอนให้นายหน้าประกันคนดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย. 68 เมื่อคุณป้าทราบเรื่องว่าเงินของตัวเองถูกโอนออกไป พยายามโทรหานายหน้าคนดังกล่าวตลอด แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ความเครียดทำให้อาการป่วยทรุดลงจนต้องเข้าโรงพยาบาล หลังจากนั้นได้พบกับนายหน้าอีกครั้ง ยอมรับว่าเงิน 1 ล้านบาทอยู่กับเจ้าตัว อ้างว่านำไปปล่อยเงินกู้และขอเจรจาว่าจะผ่อนคืน
คุณ ดวงใจ ผู้ดูแลผู้เสียหาย เล่าว่า หลังจากเกิดเรื่อง นายหน้าประกันคนดังกล่าวได้กลับมาที่บ้านอีกครั้งขณะที่ไม่มีคนอยู่ เข้ามาพูดคุยกันดีซื้อขนมมาฝาก ด้านผู้เสียหายสอบถามเรื่องเงินที่หายไป เจ้าตัวบอกว่าเดี๋ยวจะโอนคืนให้ และพยายามไม่ให้ตนอยู่ใกล้กับผู้เสียหาย หลังจากวันนั้นไม่สามารถติดต่อนายหน้าคนนี้ได้อีกเลย
คุณ นิรันดร์ เกแง้ว ผู้ร่วมก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ให้ความเห็นว่า สิ่งที่นายหน้าประกันคนนี้กระทำ เป็นสิ่งที่ไม่สมควรเกิดขึ้น ถือว่าไม่มีจรรยาบรรณในอาชีพของตัวเอง และยังพบอีกว่ามีการถอนเงินเวนคืนกรมธรรม์ไปก่อนหน้านี้กว่า 200,000 บาท โดยที่ครอบครัวผู้เสียหายไม่รู้เรื่อง นอกจากนี้ยังมีการนำกรมธรรม์ของคุณฉลาดไปกู้เงิน 70,000 บาท โดยที่เจ้าตัวไม่รู้เรื่องเช่นกัน หลังจากนี้จะช่วยประสานเรื่องดำเนินคดีต่อไป
คุณ แวว (นามสมมติ) นายหน้าประกัน ชี้แจงว่า ผู้เสียหายเป็นฝ่ายโอนเงินด้วยตัวเอง เพราะต้องการให้ตนเก็บเงิน 1 ล้านบาท เพื่อใช้ดูแลเจ้าตัวในบั้นปลายชีวิต จากนั้นตัดสินใจนำเงินไปปล่อยกู้เพื่อให้ได้เงินเพิ่มพูนขึ้น ตนไม่คิดว่าผู้เสียหายจะป่วยกะทันหัน ตอนนี้จึงไม่มีเงินมาคืนทั้งหมด ยืนยันว่าที่ผ่านมาตนดูแลผู้เสียหายตลอด 10 ปี ยืนยันพร้อมคืนเงินทั้งหมดภายใน 1 เดือน
ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ให้ความเห็นด้านกฎหมายว่า ถ้าหากครอบครัวผู้เสียหายไปแจ้งความ นายหน้าประกันจะมีความผิดข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถาน ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือถ้าหากเป็นการฝากเงินไว้จริงก็ไม่สามารถนำเงินไปใช้จ่ายเองได้ แนะนำให้เจรจาคืนเงินก่อนที่จะถูกแจ้งความ แม้ว่าตอนนี้ผู้เสียหายเจ้าของเงินจะป่วยหนักจนพูดไม่ได้ แต่ตำรวจสามารถหาวิธีสืบสวนอื่นเพื่อหาความจริงได้เช่นกัน
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 17.00-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม