“พลเอกสุชาติ แดงประไพ” อดีตนายสนามมวยเวทีลุมพินี และ อดีตประธานที่ปรึกษาศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบก มวยไทยลุมพินี และผู้ก่อตั้งและซีอีโอ มวยไทย แพลนเนอร์ จำกัด พันธมิตรที่ปรึกษาให้กับ วัน แชมเปียนชิพ ได้เชิญโปรโมเตอร์มวยไทยชั้นนำทั่วฟ้าเมืองไทยเข้าร่วมประชุมกำหนดแนวทางเพื่อพัฒนาศักยภาพของนักกีฬามวยไทยให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลผ่านรายการ ONE ลุมพินี เมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ ห้องสื่อมวลชน สนามมวยเวทีลุมพินี
ในโอกาสนี้ มีโปรโมเตอร์และหัวหน้าจากค่ายมวยชั้นนำ 12 ท่าน เข้าร่วมประชุม ได้แก่
1.นายสมหมาย สกุลเมตตา (ส.สมหมาย) 2.นายพงษ์พิชัย เหมวัต (พีเค. แสนชัย) 3.นายพิพัฒน์ ไชยเทพ (หนุ่มน้อย) 5.นายสุรเชษฐ์ เดชะพันธ์ (ส.เดชะพันธ์) 6.นายธัชนนท์ คชชาสุวรรณ (สิงห์มาวิน)
8.นางสาวนิภาพร อมาตยกุล (เพชรสมาน) 9.นายฐิติวัชร ธีระเดชะพงษ์ (เกียรติเพชร) 10.นายกัมปนาถ ชูสุวรรณ (สจ.วิชิตแปดริ้ว) 11.พลโท นรินทร์ มีสมบูรณ์ (รายการ LWC superchamp) และ 12.นายยงค์ มังกรหยก (รายการ FAIRTEX FIGHT)
จุดประสงค์หลักในการประชุมครั้งนี้คือ การกำหนดแนวทางปฏิบัติของโปรโมเตอร์และหัวหน้าค่ายต่าง ๆ ในการพัฒนานักกีฬามวยไทยให้มีศักยภาพแข่งขันในระดับสากลตามมาตรฐานของรายการ ONE ลุมพินี ซึ่งจะเป็นการช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของตัวนักกีฬาชาวไทยและสร้างชื่อให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในกลุ่มแฟนกีฬาจากทั่วโลก
ในประเด็นแรก มีการเน้นย้ำความสำคัญของเกณฑ์การคัดเลือกนักกีฬาที่จะสามารถลงแข่งขันใน ONE ลุมพินี โดยจะพิจารณาจากการใช้ศิลปะแม่ไม้มวยไทยอย่างครบถ้วน ซึ่งโปรโมเตอร์ที่จะส่งนักกีฬาลงแข่งขันใน ONE ลุมพินี มีหน้าที่แบ่งนักกีฬาออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม A สำหรับนักกีฬาที่เชี่ยวชาญการชกสไตล์มวยไทย 3 ยก และมีใจปิดเกมมากกว่าอิงผลแพ้ชนะ กลุ่ม B สำหรับนักกีฬาที่ทำผลงานได้ดีในเวที ONE ลุมพินี และ กลุ่ม C สำหรับนักมวยหน้าใหม่จากเวทีมวย 5 ยก
อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือ การขอความร่วมมือให้ทุกโปรโมเตอร์นำวิทยาศาสตร์การกีฬามาใช้พัฒนาการฝึกซ้อมและโภชนาการให้กับนักกีฬาในสังกัดอย่างจริงจัง เพื่อส่งเสริมให้นักกีฬามีความรู้ในการพัฒนาตัวเองอย่างมีหลักการ พร้อมยกระดับศักยภาพให้สามารถลงแข่งขันในกติกามวยไทย 3 ยก ตามมาตรฐานสากลได้อย่างแท้จริง
ขณะเดียวกัน ได้มีการขอความร่วมมือจากโปรโมเตอร์และค่ายมวยทั่วประเทศ ในการปรับเปลี่ยนมุมมองการปั้นนักกีฬาให้พร้อมสำหรับการแข่งขันในรายการ ONE ลุมพินี โดยให้มุ่งเน้นไปที่การใช้ศิลปะการต่อสู้อย่างสร้างสรรค์ มีความมุ่งมั่น และแสดงเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้โดดเด่น ทั้งนี้ เพื่อสร้างการจดจำและเพิ่มความนิยมของตัวนักกีฬาในหมู่แฟนกีฬาทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้มากขึ้น โดยผู้ที่มีศักยภาพจะได้รับการผลักดันให้เข้าสู่รายการ ONE ต่อไปในอนาคต
นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวถึงแผนการวางระบบการเซ็นสัญญากับค่ายและนักมวยที่มาชกในรายการ ONE ลุมพินี ในปี 2568 รวมถึงเน้นย้ำให้ความสำคัญของการสร้างความโปร่งใสในระบบการแข่งขัน โดยจะดำเนินการตรวจสอบอย่างเข้มงวดและหลีกเลี่ยงการร่วมมือกับกลุ่มที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลไกการทุจริต เพื่อส่งเสริมมวยไทยสู่การเป็นกีฬาระดับสากลอย่างยั่งยืนในอนาคต
โดยต่อจากนี้ “พลเอกสุชาติ แดงประไพ” และทีมงานจะเดินสายพบกับหัวหน้าค่ายมวยต่าง ๆ เพื่อรับฟังความคิดเห็นและร่วมกันกำหนดแนวทางที่ชัดเจนในการพัฒนาวงการมวยไทยทั้งระบบให้เติบโตและก้าวสู่มาตรฐานระดับสากลต่อไป
+ อ่านเพิ่มเติม