หนุ่มผวา ! ถูก “สส. หน้าคุ้น” ส่งแก๊งลิ่วล้อไล่ล่า เหตุแค่ “ขับแซง” | ถกไม่เถียง

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - คลิปหลักฐานวงจรปิด ซึ่งนายรัฐพล อายุ 32 ปี อ้างว่า ถูก สส.คนหนึ่ง ตามมาข่มขู่ถึงบ้านพัก หลังจากมีปัญหากันบนท้องถนน เหตุเกิดช่วงเที่ยงคืนวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา

 

โดยวันนี้ ดร.พิมไหมทอง ศักดิพัตโภคิน หัวหน้าพรรคพร้อม พานายรัฐพล แจ้งความกองบังคับการปราบปราม นายรัฐพล อ้างว่า ช่วงเกิดเหตุกำลังขับรถกลับบ้าน บริเวณถนนรังสิต-นครนายก เลียบคลอง 2 จังหวัดปทุมธานี เจอรถตู้แวน ขับแช่ขวา พยายามแซง แต่รถคู่กรณีไม่ยอมให้แซง กระทั่งหาจังหวะแซงได้ ตอนแรกคิดว่าไม่มีอะไร แต่พอขับเข้าหมู่บ้าน สังเกตเห็นรถคู่กรณีขับตามมาด้วย จนมีปากเสียงด่าทอกัน อีกฝ่ายท้าทายไปเคลียร์นอกหมู่บ้าน ช่วงนั้นเพื่อนบ้านโทรแจ้งตำรวจ สน.คลองหลวง ด้วยความโมโห จึงขับตามออกไป

 

การด่าทอกันและเรียกให้ตนขับรถออกไปเคลียร์กันข้างนอกหมู่บ้าน ซึ่งเพื่อนบ้านของตนที่เห็นเหตุการณ์ก็ได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง แล้ว ตนจึงตัดสินใจตามออกไป โดยยอมรับว่าขณะนั้นตนเองก็มีอารมณ์โมโห หลังจากที่มีการไปเจรจากันข้างนอก ทางคู่กรณีก็มีการโทรเรียกลูกน้อง ตนจึงพยายามจะขับหนี แต่คู่กรณีก็ขับตาม ก่อนที่จะมีลูกน้องของคู่กรณีขับรถเบนซ์ 1 คันไล่ตามประกบมาด้วย เมื่อตนเข้าหมู่บ้านได้แล้ว รปภ.เริ่มทราบว่ามีเหตุทะเลาะกัน จึงไม่ให้คู่กรณีเข้าหมู่บ้าน

 

หลังจากนั้นก็มีรถจักรยานยนต์อีก 1 คัน คนขี่สวมหมวกกันน็อคสักลายเต็มตัว ขี่รถมาจอดแล้ววิ่งลงจากรถ ก่อนที่จะทำท่าชักอาวุธจากในกระเป๋าตนจึงรีบวิ่งขึ้นรถและขับเข้าบ้านทันที พร้อมกับโทรแจ้งตำรวจ สภ.คลองหลวง อีกครั้ง ให้มาระงับเหตุ แต่ตำรวจมาไม่ทัน คู่กรณีกลับไปก่อน เช้าวันต่อมาตนก็พบว่ามีรถเบนซ์คันเดิมของลูกน้องคู่กรณี และมีชายฉกรรจ์ขี่รถจักรยานยนต์มา 4 คัน รวมทั้งหมดแล้วประมาณ 7-8 คน เข้ามาในหมู่บ้านและถามหาตน และยังอ้างว่ามานำภาพกล้องวงจรปิดไปแจ้งความเอาผิดตนที่ทำให้รถของคู่กรณีเสียหาย อีกทั้งตนเพิ่งทราบว่า คู่กรณีเป็น ส.ส.พรรคการเมืองใหญ่ และเป็นผู้มีอิทธิพลในจังหวัด จากการที่คู่กรณีแลกบัตรเข้าหมู่บ้าน ตนจึงเกิดความกังวลถึงเรื่องความปลอดภัย

 

ดร.พิมไหมทอง เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะพาผู้เสียหายเข้าแจ้งความ และจะมีการไปยื่นหนังสือต่อสภาผู้แทนราษฎร เพื่อร้องเอาผิดด้านจริยธรรมของ ส.ส. ดังกล่าว อีกทั้งจะปรึกษาหารือกันว่าจะมีการดำเนินการแจ้งความที่หน่วยงานอื่นเพิ่มเติมหรือไม่

 

ล่าสุด ทางด้าน สส. ที่ถูกพาดพิง ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวเราว่า วันเกิดเหตุเป็นช่วงเวลาตอนเที่ยงคืน ตนพาภรรยากับลูกเล็กไปดูหนัง ระหว่างทางที่จะกำลังจะกลับบ้าน ตนได้ขับรถอยู่เลนขวาสุด ใช้ความเร็วประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อยู่ดี ๆ ได้มีรถเก๋งเปิดไฟสูงใส่ ตนมองว่ารถตนก็ใช้ความเร็วอยู่แล้ว จึงไม่สามารถหลบได้ ต่อมารถยนต์คันดังกล่าวได้แซงรถชนตนไป แล้วไปปาดหน้ารถจน จากนั้นก็ชะลอรถ ทำให้ตนต้องเบรครถกระทันหัน และรถยนต์คันดังกล่าวก็ขับรถช้ามาตลอดทาง  

 

ต่อมารถคันดังกล่าวได้เลี้ยวเข้าหมู่บ้าน ตนจึงเลี้ยวรถเข้าไปตาม เพื่อจะเข้าไปสอบถามว่าทำไมถึงขับรถแบบนี้ และจะให้เขาได้ดูว่าในรถตนเองมีเด็กกับผู้หญิงทั้งนั้น ไม่ได้หาเรื่อง และตอนที่ตนเข้าหมู่บ้านตนก็แลกบัตรกับ รปภ.ถูกต้องทุกอย่าง พอรถคู่กรณีจอดหน้าบ้าน คู่กรณีได้ลงจากรถมาด้วยอารมณ์โมโห ตนเห็นท่าไม่ดีจึง ไม่กล้าจอด ขับรถเลยไปก่อน จากนั้นได้ไปกลับรถออกมา แต่คู่กรณียังมาขวางหน้ารถยนต์ และตามมาทุบรถตน บังคับให้ตนจอดรถ หลังจากที่ตนจอดรถแล้ว ทางคู่กรณีได้ด่าตนหยาบคลาย ด่าถึงบุพการีตนกับแฟน ตนพยายามพูดจาดีด้วย แต่คู่กรณียังท้าทายให้ตนลงจากรถให้ได้

 

ในคลิปตนก็พยายามจะออกจากตรงนั้นแล้ว แต่คู่กรณีพยายามไม่ให้ตนไป แฟนตนจึงโทรศัพท์เรียกน้องชายมา เพื่อจะให้พาออกจากพื้นที่ และส่วนประเด็นที่ว่ามีผู้ชายมาขอคลิปวงจรปิดบริเวณป้อม รปภ.นั้น ตนให้ลูกน้องไปขอวงจรปิดเพื่อจะแจ้งความดำเนินคดี เพราะรถตนถูกทุบ และตนถูกหมิ่นประมาทอีก