หนุ่มร้อง ถูกแก๊งโจ๋แสบ หลอกซื้อรถ บิดค่างวด-ส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน !

557 ครั้ง

02 ธ.ค. 2567

แชร์ข่าวไปที่

แก๊งหลอกซื้อดาวน์รถอาละวาด ซื้อแล้วไม่ส่งค่างวดต่อ จากนั้นนำรถไปส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน สืบพบพบผู้เสียหายนับสิบราย

วันที่ 2 ธ.ค. 67 คุณ เกรียงไกร แย้มจันทร์ (เอส) ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 67 ตัดสินใจขายดาวน์รถจักรยานยนต์ผ่านออนไลน์ เนื่องจากไม่มีเงินจ่ายค่างวด เมื่อโพสต์ไปแล้วมีคนสนใจโทรมาหา เสนอว่าขอผ่อนต่อให้แต่ไม่เปลี่ยนสัญญาเนื่องจากติดแบล็กลิสต์

ถกไม่เถียง : หนุ่มร้อง ถูกแก๊งโจ๋แสบ หลอกซื้อรถ

จากนั้นได้มาทำสัญญาซื้อขายกัน อีกฝ่ายจ่ายล่วงหน้าให้ 1 งวด พร้อมเงินอีก 10,000 บาท ตอนแรกตนไม่เอะใจ เนื่องจากอีกฝ่ายมีความน่าเชื่อถือ ขับรถมีราคาพร้อมมีตราโล่อยู่หน้ารถ และยังมีบ้านอยู่ใกล้กับญาติที่รู้จัก ผ่านไปถึงงวดที่ 4 อีกฝ่ายไม่ยอมจ่ายค่างวดที่เหลือ สุดท้ายเงียบหายไปไม่สามารถติดต่อได้ ค้างไฟแนนซ์แล้ว 3 งวด สุดท้ายมาพบว่ามีผู้เสียหายในกรณีเดียวกันอีกหลายคน

คุณ ธนัช กออำไพ (นัช) ผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 67 ตนโพสต์ขายดาวน์รถจักรยานยนต์ อีกฝ่ายติดต่อให้ไปทำสัญญากันที่ สน.บางนา ตนไม่รู้สึกเอะใจเนื่องจากอีกฝ่ายไม่มีพิรุธ มีความน่าเชื่อถือ แต่เมื่อหลังจากซื้อขายกัน อีกฝ่ายมักจะจ่ายค่างวดช้าอ้างว่าไม่มีเงิน สุดท้ายค้างค่างวดทั้งหมด 3 งวด และยังไม่สามารถติดต่อได้ เชื่อว่าต้องมีอีกหลายคนที่โดนเหมือนกันจึงโพสต์ประจานในโซเชียล

สจ.เป้ โชติอนันต์ เลิศฤทธิ์ภูวดล ผู้ก่อตั้งเพจฯ นนทบุรีไม่ทิ้งกัน เล่าว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหายรวมกว่า 11 คน สืบพบว่าผู้ก่อเหตุมีทั้งหมด 3 คน อายุประมาณ 21 ปี เชื่อว่าอาจไม่ได้มีทุนทรัพย์มากพอที่จะมาซื้อรถ ผู้เสียหายบางคนสามารถตามสืบหารถของตัวเอง พบว่าถูกนำไปขายต่อยังประเทศเพื่อนบ้าน จึงเชื่อว่ามีขบวนการที่ใหญ่กว่า 3 คนนี้อย่างแน่นอน อีกทั้งผู้ก่อเหตุคนนี้ ได้มาพบตำรวจแล้วแต่ไม่สามารถจับกุมได้ ทั้งที่มีผู้เสียหายจำนวนมาก หลังจากนี้จะรวบรวมผู้เสียหายแล้วไปแจ้งกับกองปราบฯ เพื่อเปลี่ยนจากคดีแพ่งเป็นคดีฉ้อโกง

คุณ ธนพร ศรีภักดี ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนพยายามติดตามรถของตน หลังจากขายดาวน์ไปแล้วถูกเบี้ยวค่างวด สามารถติดต่อผู้ก่อเหตุได้ 1 คน จึงนัดเจอกันเพื่อเจรจา อีกฝ่ายอ้างว่าติดต่อเพื่อนไม่ได้จึงไม่รู้ว่ารถอยู่ไหน ตนจึงตัดสินใจโทรหาตำรวจเพื่อควบคุมตัวอีกฝ่ายไปสถานีตำรวจ จากนั้นมีผู้เสียหายตามมาอีกหลายคน ตนเอาหลักฐานให้ตำรวจแต่ตำรวจปฏิเสธ บอกว่าอีกฝ่ายยังไม่ใช่ผู้ต้องหาเพราะยังไม่มีใบแจ้งความ ทั้งที่ตนมีหลักฐานทุกอย่าง และผู้ก่อเหตุรับสารภาพแล้ว

ทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต ทนายความ ให้ความเห็นด้านกฎหมายว่า สาเหตุที่ตำรวจไม่สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ เนื่องจากเป็นคดีฉ้อโกงธรรมดามีอัตราโทษไม่สูง จึงไม่สามารถออกหมายจับได้ แม้ว่าจะมาแสดงตัวถึงสถานีตำรวจแล้วก็ตาม และอีกสาเหตุหนึ่งคือการแจ้งความไม่ได้ลงชื่อบุคคลดังกว่าวไว้ แต่ลงชื่อผู้ก่อเหตุอีกคนแทน การสืบหาข้อเท็จจริงของเรื่องนี้คือเส้นทางการเงิน ว่าจะเข้าข่ายความผิดข้อหาอั้งยี่ซ่องโจรหรือไม่ วิเคราะห์การสู้คดีของผู้ก่อเหตุว่าพยายามจะทำให้เป็นคดีแพ่ง วิธีเอาผิดได้คือผู้เสียหายจะต้องรวมตัวกันเป็นพยานให้กันและกัน เพื่อให้ตำรวจทราบว่าผู้ก่อเหตุทำแบบนี้ซ้ำ ๆ กันหลายครั้ง เพื่อให้สามารถเอาผิดได้มากขึ้น

ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 17.30-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35