ข่าวเย็นประเด็นร้อน - คืบหน้าสาวซิ่งรถเก๋งชน 3 แม่ลูกเสียชีวิต ก่อนหายตัวไปพร้อมกับแมว ล่าสุดเรื่องราวกลายเป็น ดรามา เพราะหลายเพจดังให้ความสนใจ และสมาชิกในเพจต่างตั้งข้อสังเกตว่ามีการเปลี่ยนตัวคนขับหรือไม่ เพราะคำให้การของหญิงคนขับ กับพ่อเจ้าของรถไม่ตรงกัน
ภาพจากกล้องหน้ารถบันทึกภาพ วินาทีรถเก๋งออกจากเลนขวา ค่อย ๆ มาเลนกลาง มีรถจักรยานยนต์ขี่อยู่ก่อนชนท้ายอย่างแรง จากนั้นก็เสียหลักไปชนแท่งแบริเออร์กลางถนน แล้วเสียหลักไถลไป เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 27 พฤศจิกายน บนถนนทางหลวงชนบทสาย จ แยกโค๊ก-ทุ่งเบี้ย หมู่ 1 ตำบลตากแดด จังหวัดชุมพร จนทำให้สามแม่ลูกเสียชีวิต ประกอบด้วย เด็กชาย อายุ 16 ปี สภาพแขนขาหักผิดรูป อยู่ข้างแบริเออร์ ส่วนอีก 2 ศพ ตกจากสะพานข้ามรางรถไฟ เป็นเด็กหญิง อายุ 14 ปี และแม่ของเด็กทั้งสองคน อายุ 52 ปี ทั้งสองคนกระดูกหัก ศีรษะแตก เลือดนองพื้น ส่วนหญิงคนขับไม่ได้สนใจผู้เสียชีวิต กลับตามหาแมว ก่อนหลบหนีไป
ต่อมาช่วง 02.00 น. วันที่ 28 พฤศจิกายน นางสาวจิรันธนิน หญิงคนขับ มาพบพนักงานสอบสวนพร้อมด้วยผู้ครอบครองรถยนต์ จึงได้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ด้วยวิธีการเป้าด้วยลมหายใจ จำนวน 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 ค่าที่วัดได้ 29 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ครั้งที่ 2 ค่าที่วัดได้ 27 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จากนั้นได้นำตัวไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดที่ โรงพยาบาลชุมพร อยู่ระหว่างการรอผลตรวจวิเคราะห์
จากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของ นางสาวจิรันธนิน หญิงคนขับ พบว่าได้ถ่ายภาพไว้ในขณะขับรถ ระบุเวลาถ่ายภาพ 18.56 น. ซึ่งพบความเร็วในภาพถ่ายประมาณ 207 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับภาพกล้องวงจรปิดหน้ารถยนต์คันเกิดเหตุ จับภาพชนท้ายของรถจักรยานยนต์ จึงเชื่อว่าขณะเกิดเหตุ นางสาวจิรันธนิน ขับรถมือเดียว อีกมือใช้โทรศัพท์มือถือ จนเป็นเหตุให้เกิดการเฉี่ยวชน
ขณะเดียวกัน ชาวบ้านบอกว่า คนขับรถเก๋งคันนี้เป็นหญิงสาวอายุไม่มาก เปิดประตูลงมาจากรถ ที่แรกคิดว่าจะมาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ แต่กลับร้องขอให้ชาวบ้านช่วยตามหาแมว หลังมันตกใจวิ่งออกจากรถ ก่อนไปพบอยู่ใต้ท้องรถ จากนั้นก็มีรถมารับหญิงสาวคนนี้ พร้อมอุ้มแมวหลบหนีไป
ขณะที่พ่อของเจ้าของรถ บอกว่า คนขับไม่ได้หนี แต่ยืนแอบในมุมมืด เพราะกลัวไม่ปลอดภัย แล้วโทรไปหาตนเองให้ไปรับ
จากคำให้การณ์ที่ไม่สอดคล้องกัน ทำให้หลายเพจดังเช่น อีซ้อขยี้ข่าว, Drama-addict ต่างตั้งข้อสังเกตว่า มีการเปลี่ยนตัวคนขับหรือไม่ เพราะสาวที่ขับบีเอ็มเข้ามอบตัว เธอบอกว่าไม่ได้หลบหนี ส่วนตัวเธอนั้นยังไม่มีใบขับขี่ รถบีเอ็มก็เป็นรถที่ยืมเพื่อนมาขับเท่านั้น
และการที่ตำรวจวัดค่าแอลกอฮอล์คนขับ ได้ 29 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ โดยวัดหลังเกิดเหตุ 7 ชั่วโมง ตับกำจัดแอลกอฮอล์ออกจากเลือดประมาณชั่วโมงละ 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ และ คนขับได้ประกันตัวไปแล้ว แบบนี้จะมีความตรงไปตรงมาในคดีนี้หรือไม่
ด้านสามีและพ่อของผู้เสียชีวิต เผยว่าหลังเกิดเหตุยังไม่ได้เจอหน้าคนขับรถ และตนยังมีความสงสัยเกี่ยวกับคนขับใช่ตัวจริงหรือไม่ เนื่องจากตนไม่ได้รับรู้ข้อมูลอะไรเลย เคยขอดูหลักฐานกล้องวงจรปิดจากตำรวจก็บอกให้ดูไม่ได้ แต่มาเห็นภาพจากหน้ารถเก๋ง ที่มีเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งเป็นช่วงคลิปสั้นๆตอนรถเก๋งขับชนรถจักรยานยนต์เท่านั้น จึงเกรงว่าภรรยากับลูกจะไม่ได้รับการเป็นธรรม
ส่วนความรู้สึก หลังทราบข่าวว่า คนขับขับรถมือเดียวด้วยความเร็วกว่า 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็รู้สึกเศร้าใจมาก และหดหู่มาก
ขณะที่โลกโซเชียลตามขุดวีรกรรมสาวขับรถเก๋งที่ก่อเหตุ พบว่า ปกติมักจะถ่ายรูปดื่มแอลกอฮอล์บนรถอวดลงโซเชียลอยู่เป็นประจำ และมักอวดไลฟ์สไตล์หรู แต่ล่าสุดปิดเฟซบุ๊กหนีแล้ว
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้ง 4 ข้อหากับ นางสาวจิรันธนิน คือขับรถยนต์ในขณะเมาสุราโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ขับรถประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และไม่หยุดช่วยเหลือ แสดงตัว แจ้งพนักงาน เจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียงหลังเกิดเหตุ พร้อมแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ โดยศาลให้ประกันตัว
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35