“ศรศึกน้อย เอฟเอ.กรุ๊ป” กำปั้นจอมอึด วัย 29 ปี จากอุดรธานี มั่นใจอาวุธหนักของตัวเองพร้อมท้าชนพลังแข้ง “สิงห์ ส.โชคมีชัย” มวยขวาดุดัน วัย 21 ปี จากสุราษฎร์ธานี ที่หวังกลับมาเก็บชัยอีกครั้งให้ได้ ในกติกามวยไทย พิกัดเฉพาะ (แคตช์เวต) 131 ป. ในศึก ONE ลุมพินี 88 วันศุกร์ที่ 22 พ.ย.นี้ ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) เริ่มคู่แรกเวลา 19.30 น.
สำหรับ “ศรศึกน้อย” ฝากผลงานยอดเยี่ยมใน ONE ลุมพินี โดยเก็บชัยชนะได้ถึง 4 จาก 5 ไฟต์ พร้อมรับโบนัส 3.5 แสนบาท ไปได้ถึง 3 ครั้ง รวมเป็นเงิน 1.05 ล้านบาท (หนึ่งล้านห้าหมื่นบาท) ขณะที่ไฟต์ล่าสุดเจ้าตัวคืนฟอร์มเก่ง ทุบชนะคะแนนดุเดือด “เจนเชิง พุ่มพันธ์ม่วง” ในศึก ONE ลุมพินี 73 เมื่อ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา เรียกความมั่นใจพร้อมลุยเก็บชัยต่อเนื่องอีกครั้ง
กลับมาไฟต์ที่ 6 “ศรศึกน้อย” มาสู้ด้วยสภาพร่างกายที่พร้อมสุดขีด โดยต้องการคว้าชัยในไฟต์นี้ให้ได้ เพื่อเปิดทางให้เขาได้พิสูจน์ตัวเองในระดับที่สูงขึ้นไป รวมถึงยังมีความตั้งใจอยากปิดเกมเร็ว “สิงห์” เพื่อคว้าเงินโบนัสไปช่วยเหลือครอบครัว
“สิงห์ เป็นนักมวยที่มีความเร็วและใช้แข้งกับหมัดหน้าได้ดี จุดแข็งของเขาคือเกมตั้งรับ และรอจังหวะสวนกลับได้น่ากลัว ผมจะต้องพยายามบุกเจาะเขาเรื่อย ๆ และหาจังหวะเข้าทำด้วยลูกหนัก ๆ เพราะถ้าวัดกันที่ความหนักของอาวุธผมว่าตัวเองมีดีกว่า ไฟต์นี้ผมเตรียมแผนมาเดินสู้ วางแข้งซ้ายและโต้หนัก ๆ ให้ต่อเนื่อง รวมถึงการบังอาวุธแข้งขวาของเขา และที่สำคัญคือต้องชกด้วยความไม่ประมาทครับ”
“ไฟต์นี้สำคัญกับผมมาก เพราะได้โอกาสขึ้นมาชกคู่รองของรายการเป็นครั้งแรก ผมภูมิใจมากที่ตัวเองมาถึงจุดนี้ได้ จากที่ชกตอนแรกยังไม่ค่อยมีคนรู้จัก มาถึงวันนี้ได้ขึ้นเป็นคู่รองในรายการใหญ่ ก็รู้สึกดีใจ ตอนนี้ผมมั่นใจเต็มร้อยว่าจะเก็บชัยชนะต่อเนื่องได้ เพราะซ้อมมาดีมาก ถ้ามีโอกาสปิดเกมเร็วผมจะทำให้ได้ เพื่อลุ้นคว้าโบนัสครั้งที่ 4 เก็บเงินเอาไว้ให้แม่ครับ”
ด้าน “สิงห์” ที่เริ่มชกมวยตั้งแต่อายุ 12 ขวบ และยึดถือ “ซุปเปอร์บอน ซุปเปอร์บอนเทรนนิงแคมป์” แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.) เฉพาะกาล เป็นนักมวยต้นแบบ เปิดตัวครั้งแรกในศึก ONE ลุมพินี 33 เมื่อ 15 ก.ย.66 เอาชนะคะแนนเอกฉันท์ “วิน ศิษย์เจ๊นิ่ม” แม้เจ้าตัวจะยังไม่คุ้นชินกับการชกมวยไทย 3 ยก นวมเล็ก แต่เจ้าตัวก็ยอมรับว่าชัยชนะดังกล่าวถือเป็นประสบการณ์สุดล้ำค่า
แม้งานนี้ “สิงห์” จะห่างจากรายการไปนานร่วมปี และเจอกับคู่ชกที่มีประสบการณ์เหนือกว่าอย่าง “ศรศึกน้อย” แต่เจ้าตัวยืนยันชัดเจนว่าไม่มีอะไรต้องกลัว เพราะตนได้เตรียมพร้อมมาสู้อย่างเต็มที่ดีที่สุดแล้ว
“ช่วงที่ห่างจากรายการไปกว่า 1 ปี ผมกลับไปเก็บประสบการณ์ชกมวยไทย 5 ยก เนื่องจากฟอร์มยังไม่นิ่ง ทำให้ผมยังไม่ได้เข้ามาชกใน ONE ลุมพินี การกลับมาครั้งนี้ ผมอยากพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า ตัวเองสามารถปรับสไตล์ชกในรายการนี้ได้ เพื่อเก็บชัยชนะให้ได้อีกครั้ง ไฟต์ที่แล้วกับ วิน มีหลายคนบอกว่าผมถอยหนีเกินไป ผมเก็บคำติเหล่านั้นมาพัฒนาตัวเอง เพื่อกลับมาให้ดีกว่าเดิมครับ”
“ศรศึกน้อย เป็นมวยที่ต่อยขาเตะหมัดครบเครื่อง อาวุธที่น่ากลัวของเขาคือหมัดซ้ายที่หนักแรง แต่เวลาปล่อยหมัดชอบทำการ์ดตก ผมสามารถใช้ช่องตรงนี้เล่นงานเขาได้ ไฟต์นี้ผมวางแผนเน้นลูกเตะขวาต่อยขวาเป็นหลัก เพื่อบล็อกหมัดของเขาไว้ก่อน ผมมองว่ามีโอกาสไม่ครบยกสูง เพราะว่าพี่เขาเป็นมวยที่เดินลุยบู๊อย่างเดียว ผมก็เตรียมอาวุธของผมไปเหมือนกัน พร้อมรับมือสู้เต็มที่ครับ”
+ อ่านเพิ่มเติม