ข่าวเย็นประเด็นร้อน - กระทรวงการคลัง แถลงความชัดเจนแล้ว จะแจกเงิน 10,000 บาท เฟส 2 ให้กับผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป คาดว่า จะมีจำนวนไม่เกิน 4 ล้านคน คาดแจกได้ไม่เกินตรุษจีนปีหน้า
เคาะแจกเงินหมื่นคนอายุ 60 ปีขึ้นไป ก่อนตรุษจีน
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงผลการประชุมคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจสำหรับนโยบายแจกเงินหมื่น เฟส 2 ว่า ที่ประชุมให้ความเห็นชอบว่า จะเติมเงินเติมเงิน 10,000 บาท เฟส 2 ให้คนที่มีความจำเป็นก่อน คือ กลุ่มคนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ประมาณ 3 ล้านคน ไม่เกิน 4 ล้านคน คาดว่าจะใช้งบประมาณไม่เกิน 40,000 ล้านบาท ส่วนกลุ่มคนที่เหลือ ต้องดูความพร้อมของระบบ ประมาณปีหน้า เมษายน-มิถุนายน 2568
ขณะที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเสริมว่า จากการหารือ คาดว่า กลุ่มผู้มีอายุเกิน 60 ปี จะได้รับเงินไม่เกินตรุษจีนปีหน้า ซึ่งวันตรุษจีนปีหน้าตรงกับวันที่ 29 มกราคม 2568 ทั้งนี้กลุ่มผู้สูงอายุที่ได้รับเงิน ต้องเป็นผู้สูงอายุที่เคยลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ มีรายได้ไม่เกิน 70,000 บาทต่อเดือน และต้องไม่เป็นกลุ่มที่ได้รับเงิน 10,000 บาท เฟสแรก ไปแล้ว ส่วนกลุ่มคนไม่มีสมาร์ตโฟนต้องลงทะเบียน คาดว่า จะมีการลงทะเบียนเร็ว ๆ นี้
จ่อปรับโครงสร้างหนี้-ช่วยเกษตรกรไร่ละ 1,000 บาท
นายพิชัย กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมยังพิจารณาเรื่องของการปรับโครงสร้างหนี้ โดยจะพิจารณาหนี้ครัวเรือน โดยจะแบ่งเป็นกลุ่มผ่อนรถ ผ่อนบ้าน และหนี้จากการบริโภค มูลค่าประมาณ 1-1.3 ล้านล้านบาท พักชำระดอกเบี้ย 3 ปี จะทำให้มีเงินไปใช้บริโภคหรือลงทุนมากขึ้น และอาจทบทวนเรื่องการลดการผ่อนเงินต้นให้น้อยลง ซึ่ง ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เข้าประชุมในวาระนี้ด้วย
ขณะที่ นายจุลพันธ์ บอกว่า นอกจากนี้ยังมีมาตรการอื่นที่จะออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย เช่น ภาคการเกษตรจะมีการพิจารณาเรื่องเงินช่วยเหลือเกษตรกร ไร่ละ 1,000 บาท ส่วนรายละเอียดหลักเกณฑ์การจ่ายเงินนั้น จะขอพิจารณาอีกครั้ง เรื่องนี้คาดว่าจะทำให้ทันเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่
ผบ.ตร. ถกบอร์ดกลั่นกรอง จัดโผนายพล
ขณะเดียวกันช่วงบ่ายวันนี้ (19 พ.ย.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เป็นประธานประชุมกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ บอร์ดกลั่นกรอง ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ 2565 เพื่อพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติและความเหมาะสมในการคัดเลือกหรือแต่งตั้งระดับ รอง ผบ.ตร. จนถึง ผู้บัญชาการ และ จเรตำรวจ ก่อนจะเสนอบัญชีรายชื่อให้ ก.ตร. พิจารณาในวันพรุ่งนี้ (20 พ.ย.) เวลา 14.30 น.
ซึ่งการแต่งตั้งตำรวจระดับนายพลครั้งนี้ จะยึดตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ ปี 2565 ที่จะใช้ในการแต่งตั้งเป็นครั้งแรก โดยหลักเกณฑ์การแต่งตั้งระดับรอง ผบ.ตร. ถึงผู้ช่วย ผบ.ตร. พิจารณาเรียงตามลำดับอาวุโส 100 ส่วน ผู้บัญชาการ พิจารณาเรียงตามลำดับอาวุโส 50 อีก 50 พิจารณาคำนึงถึงอาวุโสและความรู้ความสามารถประกอบกัน ปีนี้มีตำแหน่งรอง ผบ.ตร. ว่าง 4 ตำแหน่ง, ผู้ช่วย ผบ.ตร. 7 ตำแหน่ง และ ผู้บัญชาการ ว่าง 14 ตำแหน่ง รวม 25 ตำแหน่ง
ประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่ที่นายตำรวจที่ขึ้นมาเป็นผู้บัญชาการหน่วยหลัก หลายคนเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) รุ่น 41 ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่น พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ
เป็นเพื่อนร่วมรุ่น นักเรียนเตรียมทหารรุ่น 25 สายตรงของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งยังมีคนสนิทของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ในหน่วย แต่กลับได้ตำแหน่งผู้บัญชาการหลักหลายตำแหน่ง ทำให้คนทำงาน ที่มีผลงานและเติบโตอยู่ในหน่วย ไม่ได้เลื่อนขึ้นเป็นผู้บัญชาการหลัก ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์หนักในวงการตำรวจ
มีรายงานว่า ในช่วงเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา มีอดีตรัฐมนตรี ที่เป็นนักการเมืองใหญ่ในภาคเหนือ ได้พานายตำรวจที่เคยเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเข้าพบผู้มีบารมีทางการเมือง ที่บ้านพัก เพื่อหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนในการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35