คืบหน้า ! “คดีทนายตั้ม” พบเงินหมุนเวียนในบัญชีพี่เมียกว่า 40 ล้าน | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

774 ครั้ง

15 พ.ย. 2567

แชร์ข่าวไปที่

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - คดีทนายตั้ม ร่วมกับพวกฉ้อโกงพี่อ้อย ตอนนี้มี 4 คดี วงเงินจากการฉ้อโกงรวม ๆ แล้วประมาณ 119 ล้านบาท แต่ว่าเงินเหล่านี้ไปอยู่ตรงไหนบ้าง นอกจากนี้การสอบพี่เมียของทนายตั้มเมื่อวานนี้ พบเบาะแสที่น่าสนใจ เพราะว่ามีเงินหมุนเวียนในบัญชีมากถึง 40 กว่าล้านบาท

พบเงิน 40 กว่าล้าน หมุนเวียนบัญชีพี่เมีย ทนายตั้ม

เมื่อวานนี้ ตำรวจกองปราบ ได้เชิญตัวพี่สาวของเมียทนายตั้ม เข้าสอบปากคำ เพราะว่าเป็นบุคคลใกล้ชิดของทนายตั้ม เพื่อสอบถามในประเด็นปมเงินทั้งหมด 4 คดีที่ทนายตั้มถูกกล่าวหา แต่ว่ารายละเอียดการสอบสวน ไม่เป็นที่เปิดเผย

กระทั่งช่วงเช้าวันนี้ พลตำรวจตรีสุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า พี่สาวของเมียทนายตั้ม ตอบในส่วนที่เจ้าตัวทราบและที่ไม่ทราบ ซึ่งก็มีประโยชน์พอจะนำมาประกอบสำนวนได้บางส่วน ขณะนี้ คดีมีความคืบหน้าแล้วกว่า 70-80 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ยังมีอีกหลายประเด็นที่ต้องสอบปากคำเพิ่มเติม ส่วนปมเงิน 39 ล้านบาท ยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เมื่อชัดเจนแล้วก็จะประสานทั้งทางเรือนจำและทนายความเข้าไปแจ้งข้อหา ทนายตั้ม ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครเร็ว ๆ นี้ ส่วนการอายัดบัญชีและทรัพย์สินของ ทนายตั้ม ขณะนี้ยังไม่ได้อายัดเพิ่มเติม ฟังเสียงรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

มีข้อมูลจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ เปิดเผยกับข่าวเย็นประเด็นร้อน ว่า นอกจากทนายตั้ม จะใช้บัญชีธนาคารของพี่เมีย คือนางสาวปิณฑิรา หรือดาว รับเงินเดือนจากพี่อ้อยเดือนละ 300,000 บาท เป็นเวลา 1 ปี หรือรวมแล้ว 3,600,000 บาท

ยังพบว่า ทนายตั้ม ได้โอนเงินจากบัญชีตัวเองเข้าบัญชีของพี่เมียอีกหลายครั้ง โดยมีเงินหมุนเวียนในบัญชีธนาคารของนางสาวปิณฑิรา รวม ๆ แล้วประมาณ 40 กว่าล้านบาท แต่ว่าเงินเหล่านี้ ถูกปิดบัญชี และถอนออกไป หลังจากที่เริ่มมีข่าวว่าทนายตั้มโกงเงินพี่อ้อย 71 ล้าน ซึ่งตอนนี้ยังไม่รู้ว่าเงินที่ถอนออกไปและปิดบัญชี ถูกนำไปซุกซ่อนไว้อย่างไร

สำหรับนางสาวปิณฑิรา เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้น บริษัท ษิทรา ลอว์เฟิร์ม 10 เปอร์เซ็นต์ ส่วนผู้ถือหุ้นอีก 2 คน ก็คือทนายตั้มและเมีย ถือหุ้นคนละ 45 เปอร์เซ็นต์

พบพี่เมียอยู่ในรถ ทนายตั้ม วันเบิกเงิน 39 ล้านบาท

นอกจากนี้ ตัวของนางสาวปิณฑิรา ยังเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีโกงเงิน 39 ล้านอีกด้วย โดยคดีนี้พี่อ้อยต้องการจ้างศิลปินจีน ทนายตั้มรับดำเนินการ และให้นายนุวัฒน์ โอนบิตคอยน์ค่าจ้างศิลปินจีน ต่อมาพี่อ้อยโอนเงินเข้าบัญชีทนายตั้ม 2,100,000 บาท คืนให้นุวัฒน์ แต่นุวัฒน์และสารินี หรือแซน คู่สามีภรรยา ก็ไปลงบันทึกประจำวัน ที่ สน.บางซื่อ อ้างว่า ผลจากการโอนบิตคอยน์จ้างศิลปินชาวจีน ทำให้กระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ พี่อ้อยจึงต้องเขียนเช็คชดใช้เงิน 39 ล้านบาทให้กับแซน ซึ่งตำรวจกองปราบตรวจสอบแล้ว ไม่พบว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลของแซนและนุ ถูกระงับ

แล้วพี่เมียของทนายตั้ม เข้าไปเกี่ยวข้องตรงไหน ข้อมูลที่ทีมข่าวเย็นประเด็นร้อนได้รับมา พบว่า วันที่นุกับแซน คู่สามีภรรยา ไปเบิกเงินที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่าน 5 แยกลาดพร้าว วันนั้นตรงกับวันที่ 29 พฤษภาคม 66 กลุ่มคนที่ไปเบิกเงินใช้รถยนต์ 2 คัน คันแรกเป็นรถเบนซ์สีขาวของนายนุวัฒน์ คันนี้นอกจากนายนุวัฒน์ และนางสาวสารินีแล้ว ยังมีผู้ติดตามอีก 3 คน ส่วนคันที่ 2 เป็นรถปอร์เช่ คาเยนน์ สีน้ำตาลของทนายตั้ม ซึ่งในรถคันนี้มีพี่เมียของทนายตั้ม และคนติดตามชื่อเบียร์ อยู่ในรถ แต่ว่าหลังเบิกแล้ว นำไปแบ่งกันอย่างไร ตรงนี้ตำรวจกำลังแกะรอยอยู่

สรุปเส้นทางเงิน 119 ล้านบาท โกง มาดามอ้อย

สรุปแล้วตอนนี้มีคดีที่เกี่ยวกับทนายตั้มและพวกโกงพี่อ้อย ที่มีการแจ้งความดำเนินคดีทั้งหมด 4 คดี แต่ว่าเส้นทางเงินของแต่ละคดีไปสิ้นสุดอยู่ที่ตรงไหน ข่าวเย็นประเด็นร้อน จะสรุปให้เห็นภาพกันอีกครั้งว่า เงินที่พี่อ้อยสูญเสียให้ทนายตั้มกับพวกนั้น มากถึง 119 ล้านบาท

คดีแรก เงิน 71 ล้านบาท ที่อ้างว่าลงทุนแพลตฟอร์มขายสลากออนไลน์ พี่อ้อยโอนเงินเข้าบัญชีทนายตั้ม จำนวน 71 ล้านบาทเศษ และหนึ่งเดือนหลังจากนั้น ทนายตั้มก็นำเงินบางส่วน จำนวน 39 ล้านบาท ไปซื้อบ้านหรูย่านตลิ่งชัน

คดีที่ 2 เงินที่อ้างว่า จ้างศิลปินชาวจีน จนบัญชีของสารินี หรือแซนถูกระงับเสียหาย 39 ล้านบาท คดีนี้จะมีส่วนเงินที่พี่อ้อย เข้าใจว่านุวัฒน์ โอนเงินบิตคอยน์ให้ศิลปินจีนแล้ว จึงโอนคืนให้ทนายตั้ม 2.1 ล้านบาท ต่อมาพอนุกับแซน อ้างว่าเงินในบัญชีถูกระงับ ก็เขียนเช็คให้ 39 ล้านบาท ซึ่งเงินก้อนแรก 2.1 ล้านบาท เข้าบัญชีทนายตั้มโดยตรง ส่วนก้อนที่ 2 จำนวน 39 ล้านบาท หลังจากไปเบิกเงินแล้ว ยังไม่รู้ว่ากระจายเงินไปที่ใครบ้าง

คดีที่ 3 ค่าจ้างเขียนแบบโรงแรม 9 ล้านบาท ซึ่งทนายตั้มกินส่วนต่าง 5.5 ล้านบาท เงินก้อนนี้ พบว่าพี่อ้อยโอนเข้าบัญชีของนางสาวมี่ ซึ่งเป็นบุคคลที่ถูกทนายตั้มหลอกใช้ และมี่ก็เบิกเงินนำไปให้ทนายตั้มทั้งหมด

คดีที่ 4 ส่วนต่างค่าซื้อรถเบนซ์ 1.5 ล้านบาท เงินก้อนนี้โอนเข้าบัญชีทนายตั้มโดยตรง รวมแล้ว 119,100,000 บาท

ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35