ในตอนนี้หลายคนหันมาลงทุนกันมากขึ้น แต่ถ้าหากเราไม่มีพื้นฐานหรือว่าความรู้ในการลงทุนเลยก็อาจทำให้ขาดทุนได้ สำหรับมือใหม่ในการลงทุนควรรู้อะไรบ้าง ?
ก่อนที่จะเริ่มลงทุน ควรตรวจสอบความพร้อมของตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก วันนี้ผมมี 6 ทริคง่ายๆ เพื่อช่วยให้นักลงทุนมือใหม่อย่างเราเตรียมตัวและก้าวสู่ความฝันการมีเงิน 1 ล้านบาทได้เร็วขึ้น
1.รู้จักตัวเอง เริ่มจากการทำความเข้าใจเป้าหมายการลงทุน งบประมาณที่มี และระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เพื่อเลือกวิธีการลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเอง
2.รู้จักทางเลือกลงทุน ต้องทำความรู้จักกับสิ่งที่เราจะลงทุนด้วย เพราะนอกจาก “เงินฝากธนาคาร” ก็ยังมีอีกหลายทางเลือกมาก เช่น หุ้น , กองทุนรวม , ETF , ตราสารหนี้ เป็นต้น
3.วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและเทคนิค เพื่อเลือกสินทรัพย์ที่มีศักยภาพ และใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อกำหนดจุดซื้อ-ขายให้ประสบความสำเร็จในการลงทุน
4.สร้างพอร์ตลงทุนที่เหมาะกับตนเอง สร้างพอร์ตลงทุนที่มีการกระจายความเสี่ยงอย่างสมดุลและยืดหยุ่น เพื่อให้เหมาะกับเป้าหมายการลงทุน จากนั้นเขียนแผนการลงทุนหรือ “นโยบายการลงทุน” ไว้เป็นกรอบในการตัดสินใจและปรับปรุงตามสถานการณ์
5.ลงมือทำตามแผน อันดับแรกเลยต้อง “เปิดบัญชี” เพื่อใช้ในการซื้อหรือขายก่อน
กับโบรกเกอร์สำหรับหุ้นและตราสารต่างๆ หรือเปิดบัญชีกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) สำหรับกองทุนรวม การซื้อขายหลังจากนั้นสามารถทำผ่านอินเตอร์เน็ตได้สะดวกขึ้น เงินลงทุนเริ่มต้นขึ้นอยู่กับประเภทสินทรัพย์ เช่น หุ้นราคา 5 บาทต้องลงทุนขั้นต่ำ 500 บาท ส่วนกองทุนรวมบางกองเริ่มต้นได้ที่ 1 บาท
6. ติดตามและทบทวนแผนการลงทุนสม่ำเสมอ หลังจากเริ่มลงทุนแล้ว ควรติดตามผลการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เช่น ทุก 6 เดือนหรือปี เพื่อเช็คว่าผลตอบแทนตรงตามเป้าหมายหรือไม่ หากไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ควรปรับพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
“หลายคนที่ขาดทุนจากการลงทุนมักเกิดจากการตัดสินใจตามอารมณ์ เช่น ซื้อหุ้นตามข่าวหรือคำแนะนำจากเพื่อนโดยไม่ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด ทั้งที่ตลาดหุ้นมีโอกาสทำกำไรสูง แต่ต้องอดทนและรู้จักศึกษาข้อมูลให้ดี ดั้งนั้นเรามี 4 วิธีคัดหุ้นดี ๆ ที่จะช่วยให้ลงทุนได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพ
1.วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
- ดูภาพรวมเศรษฐกิจเพื่อเข้าใจว่าปัจจัยทางเศรษฐกิจมีผลต่อการลงทุนอย่างไร
- เลือกอุตสาหกรรมที่น่าจะได้ประโยชน์จากสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน
- คัดเลือกบริษัทที่โดดเด่น เช่น เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมหรือมีข้อได้เปรียบในการแข่งขัน
2.หามูลค่าที่เหมาะสม
- วิธีคิดลดเงินปันผล (DDM): คาดการณ์เงินปันผลและราคาหุ้นในอนาคต
- วิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF): ใช้กระแสเงินสดและการคาดการณ์ธุรกิจเพื่อคำนวณมูลค่าหุ้น
- เปรียบเทียบ P/E, PEG, P/BV: ตรวจสอบค่า P/E, PEG และ P/BV ของหุ้นเทียบกับค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรมเพื่อประเมินราคาหุ้น
3.จับจังหวะเข้าลงทุน
- Uptrend: ราคาหุ้นกำลังเพิ่มขึ้น
- Downtrend: ราคาหุ้นกำลังลดลง
- Sideways: ราคาหุ้นเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ เนื่องจากไม่มีปัจจัยสำคัญ
4.อ่านบทวิเคราะห์อย่างเข้าใจ
- ข้อมูลบริษัท
- สรุปประเด็นสำคัญ
- ผลประกอบการ
- คาดการณ์แนวโน้มอนาคต
- ความเสี่ยงที่นักลงทุนต้องระวัง
- แนวโน้มการจ่ายเงินปันผล
- คำแนะนำจากนักวิเคราะห์
พบกับ "โคชหนุ่ม" และ "กาย สวิตต์" ได้ใน "เงินทองของจริง" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.05-9.15 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และช่องทางออนไลน์ TERO Digital