ทำความรู้จัก “อูมาร์ คาน” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “รุง รุง” (Reug Reug) นักมวยปล้ำชื่อดังจากประเทศเซเนกัล ผู้ท้าชิงเข็มขัดแชมป์โลก ONE MMA รุ่นเฮฟวีเวต (225-265 ป.) ของ “อนาโตลี มาลีคิน” ในฐานะคู่เอกของศึก ONE 169 ที่จะจัดขึ้น ณ สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในช่วงไพรม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับเวลา 08.00 น. วันเสาร์ที่ 9 พ.ย.นี้
สำหรับ “รุง รุง” เกิดในกรุงดาการ์ เมืองหลวงของประเทศเซเนกัล โดยกำเนิดในครอบครัวชาวประมง มีพี่น้องทั้งหมด 6 คน ซึ่งจากความยากจนทางบ้าน บวกกับสูญเสียพ่อตั้งแต่เด็ก ๆ ทำให้ชีวิตของของเขาต้องปากกัดตีนถีบอย่างหนัก แต่ก็ได้คุณลุงที่เข้ามาเป็นเสาหลักให้กับบ้านหลังนี้
นอกจากนี้ คุณลุงของเขายังเป็นผู้ให้แรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้ “รุง รุง” เริ่มต้นการต่อสู้ อีกทั้งยังเป็นผู้ตั้งฉายาให้ว่า “รุง รุง” จากที่มาของตัวละครในทีวีที่มีความน่ากลัวและอันตราย ทำให้เขาใช้ชื่อนี้มาตั้งแต่เริ่มต้นอาชีพการต่อสู้
จุดเริ่มต้นการต่อสู้ของ “รุง รุง” เกิดขึ้นเมื่อตอนอายุ 16 ปี โดยเจ้าตัวเริ่มฝึกฝนกีฬาประจำชาติอย่าง “mbapatte” ซึ่งศาสตร์วิชามวยปล้ำพื้นถิ่น ซึ่งเขาใช้เวลาฝึกฝนนานหลายเดือนพัฒนาฝีมือ จนได้ประลองยุทธ์กับนักสู้ชั้นนำระดับประเทศ มากถึง 16 ไฟต์ และสามารถเอาชนะได้ทั้งหมด
หลังจากนั้น “รุง รุง” หันเหความสนใจจากมวยปล้ำ มาฝึกฝนในกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) และทำให้เจ้าตัวเริ่มต้นจริงจังที่จะเอาดีในกีฬาประเภทนี้ กระทั่งได้เริ่มต่อสู้ในสาย MMA มาตั้งแต่ปี 2562 และเพียงไฟต์แรกเจ้าตัวโชว์ความโหดเอาชนะทีเคโอคู่ต่อสู้ และทำให้เขากลายเป็นนักกีฬาที่น่าจับตามอง
โดย “รุง รุง” เข้ามาเริ่มไล่ล่าความสำเร็จใน ONE ตั้งแต่เดือน ม.ค.64 สั่งสมผลงานในรุ่นเฮฟวีเวตมาตลอด 7 ไฟต์ เก็บชัยชนะได้มากถึง 6 ครั้ง ซึ่งผลงานล่าสุดในกติกา MMA ของ “รุง รุง” คือการเอาชนะคะแนน “มาร์คัส อัลเมดา” นักปล้ำจับล็อกระดับตำนานของบราซิล ไปแบบเอกฉันท์ ในศึก ONE Fight Night 13 เมื่อ 5
ส.ค.66
จากผลงานในไฟต์ล่าสุด ทำให้ “รุง รุง” เรียกหาอยากจะปะทะฝีมือกับแชมป์โลก ONE 3 รุ่น อย่าง “อนาโตลี” มาโดยตลอด ซึ่งเจ้าตัวก็มุ่งมั่นทำร่างกายอย่างหนัก และในที่สุดโอกาสที่จะได้ท้าชิงเข็มขัดก็มาถึงแล้ว โดยเขากล่าวถึงความพร้อมของไฟต์นี้เอาไว้ว่า
“จุดแข็งของอนาโตลี คือ เขามีหมัดที่ดีมาก การเคลื่อนไหวร่างกายก็ดี ไฟต์นี้ น่าจะเป็นงานยากของผม”
“แม้ว่าเขาจะเป็นนักปล้ำที่เก่ง แต่ผมมั่นใจว่าผมเก่งทุกด้าน ส่วนเรื่องการยืนสู้ แม้ทุกไฟต์เขาจะจบด้วยการน็อกเอาต์ แต่ไม่ใช่ไฟต์นี้แน่นอน ผมมีกำปั้นและพละกำลังมหาศาล ผมไม่กลัวใครทั้งนั้น ถ้าเขาจะทุบผม ผมก็จะทุบเขาเหมือนกัน”
“บอกเลยว่าครั้งนี้จะเป็นงานหินของเขา เพราะผมคือ อูมาร์ คาน ผมไม่เหมือนใครที่เขาเคยเจอมาก่อนหน้านี้ เขาจะไม่สามารถทำอะไรผมได้ นี่คือเวลาแจ้งเกิดของผมแล้ว”
+ อ่านเพิ่มเติม