ข่าวเย็นประเด็นร้อน - คืบหน้าคดี แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์ ล่าสุด ตำรวจสรุปสำนวนหลอกขายทองล็อตแรกเสร็จแล้ว สั่งฟ้อง 5 ข้อหาหนัก เตรียมส่งอัยการวันพรุ่งนี้ (5 พ.ย.)
สั่งฟ้อง 5 ข้อหาหนัก แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์
พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดี แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์ หลอกขายทองว่า มีการดำเนินการไป 2 ล็อต ล่าสุด พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนมีความเห็นทางคดีเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เห็นสมควรส่งฟ้องผู้ต้องหา 3 ราย ประกอบด้วย นางสาวกรกนก หรือ แม่ตั๊ก, นายกานต์พล หรือ ป๋าเบียร์ และ บริษัท เคทูเอ็น โกลด์ จำกัด ที่มี นายกานต์พล เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ
และในวันพรุ่งนี้ (5 พ.ย.) จะมีการส่งสำนวนล็อตแรก มีความเห็นสั่งฟ้องใน 4 พระราชบัญญัติ และ 5 ความผิด ประกอบด้วย
1. ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
2. ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน
3. ร่วมกันโฆษณาโดยใช้ข้อความที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค
4 .ร่วมกันเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ ปริมาณ หรือสาระสำคัญประการอื่นอันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ ไม่ว่าจะเป็นของตนเองหรือผู้อื่น
5. โฆษณาหรือใช้ฉลากที่มีข้อความอันเป็นเท็จ หรือข้อควรรู้อยู่แล้วว่าอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด และส่งไปทางพนักงานอัยการ
ส่วนล็อต 2 จากการรวบรวมพยานหลักฐานที่ผ่านมา พบว่า ล็อตนี้มีผู้เสียหายประมาณ 1,600 ราย บางส่วนมีการรับเงินคืน หรือได้รับการชดใช้แล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยังมีความจำเป็นต้องดำเนินการสอบสวนเช่นเดิม เพราะความผิดสำเร็จแล้ว ล่าสุดยังมีผู้เสียหายอีกหลายรายเข้ามาพบพนักงานสอบสวนต่อเนื่อง เบื้องต้นในล็อตที่ 2 จะมีข้อหาเพิ่มเติมจากล็อตแรก
ยันเส้นเงิน บอสพอล โยงนักการเมือง ส.
ไปต่อกันที่คดีดิไอคอนฯ วันนี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงการตรวจสอบคลิปเสียง เทวดา ที่มีอักษรย่อ ส. ว่า มีเส้นเงินไปถึงจริง แต่เป็นเส้นเงินระหว่าง นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล กับแม่ของนักการเมือง ส. แต่การจะดำเนินคดี ต้องขึ้นอยู่กับความร่วมมือจาก บอสพอล ว่าจะดำเนินคดีหรือไม่ โดยเส้นเงินที่ตรวจพบ มีการโอนเงินอยู่ที่ 7-8 แสนบาท ยังไม่ถึง 2 ล้านบาท และภายในสัปดาห์นี้ ชุดสืบสวนจะเข้าไปสอบปากคำ บอสพอล เพิ่ม
ผู้สื่อข่าวถามว่า คลิปเสียงเทวดาดังกล่าว จะมีความเชื่อมโยงไปถึง สคบ.หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า เป็นเรื่องที่ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กุพยานขึ้นมาพาดพิงทำให้หน่วยงานต่าง ๆ เสียหาย เบื้องต้นทนายของ บอสพอล มีการแจ้งเอาผิด ข้อหาหมิ่นประมาท ทั้งนายเอกภพ และพยานเท็จแล้ว รวมถึงนายเอกภพ จะถูกดำเนินคดีเพิ่มตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
ส่วนกรณี “บอสพอล” พูดว่ามีเทวดาใน สคบ. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า เป็นการสอนของ บอสพอล ที่บอกต่อลูกน้องว่า ทุกสถานที่ หรือหน่วยงานต่าง ๆ จะมีเทวดาดูแล ดังนั้นเวลาไปหน่วยงานไหน ให้ไปผูกมิตรผูกสัมพันธ์ มีของขวัญไปฝากเทวดาผู้นั้น แต่ประเด็นการเรียกรับเงิน บอสพอล ไม่ได้พูดอะไร
พาตัวแทนขาย ดิไอคอนฯ พบดีเอสไอ
ด้าน นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ บอสพอล ได้นำพยานกลุ่มแรก 20 คน ให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยพยานกลุ่มนี้ เป็นกลุ่มที่ร่วมทำธุรกิจกับดิไอคอนฯ และยังดำเนินการได้ตามปกติ
โดย ทนายของบอสพอล บอกว่า กลุ่มร่วมธุรกิจเหล่านี้ จะช่วยยืนยันว่า มีการประกอบธุรกิจจริง และมีสินค้าจริง นอกจากกลุ่มนี้ ยังมีพยานที่พร้อมให้ข้อมูลเพิ่มอีก 2,400 คน เบื้องต้นจะหารือดีเอสไอว่า สามารถสอบสวนได้วันละกี่คน และกระจายไปต่างจังหวัดได้หรือไม่ เพื่อเดินสายพบปะตัวแทน ที่มาให้ปากคำตำรวจ เบื้องต้นประมาณ 15,000 คน หวังว่าดีเอสไอจะฟังความเห็นทางฝั่งนี้บ้าง
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35