ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เสียงดังฟังชัด ทนายธรรมราช ถูกบุกตบหน้ากลางวงแถลงข่าว ที่กองบัญชาการตำรวจ สอบสวนกลาง
หนุ่มบุกตบหน้า ทนายธรรมราช
เหตุเกิดขึ้นประมาณ 10.00 น. ที่ผ่านมา ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ระหว่างที่นายธรรมราช สาระปัญญา หรือ ทนายธรรมราช เป็นที่รู้จักกันดี จากคดีกลุ่มเชื่อมจิต กำลังแถลงข่าวดำเนินคดี อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม ในข้อหาเหยียดหยามศาสนา ตามมาตรา 206
แต่เรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อมีชายคนหนึ่ง บุกมาประชิดตัว ก่อนทำร้ายร่างกาย ทนายธรรมราช ด้วยการใช้มือตบเข้าที่กลางหน้า จนเซล้มกองกับพื้น แล้วเกิดเหตุชุลมุนขึ้น
จากนั้นตำรวจเข้าระงับเหตุ แต่เรื่องไม่จบแค่นั้น เมื่อมีชายอีกคน บุกเข้าไปล็อกคอ ทนายธรรมราช แล้วชกต่อยไปที่หน้าของทนายอีกครั้ง เจ้าหน้าที่รีบเข้ามาแยกทั้งสอง และนำตัวผู้ก่อเหตุเข้าไปด้านใน หลังจากเจ้าหน้าที่นำตัวผู้ก่อเหตุเข้าไป ชายคนดังกล่าวตะโกนด่าว่า ไอเ..ย ดูถูกศาสนา ไอ้สั... ซึ่งทนายธรรมราช ตอบกลับว่า ใครดูถูกครับ
ขณะที่ ทนายธรรมราช หลังถูกทำร้าย หน้าตาแดงก่ำ และมีเลือดออกในตา
เปิดใจ มือตบ อ้างฉุนปมพาดพิงศาสนาอื่น
นายจารุเวศ อายุ 28 ปี ผู้ก่อเหตุ ให้การเบื้องต้นกับตำรวจ ยอมรับลงมือทำร้ายทนายธรรมราช เพียงคนเดียวเท่านั้น ส่วนเพื่อนอีก 2 คนที่มาด้วยกัน ไม่ได้ร่วมก่อเหตุ ส่วนสาเหตุ เนื่องจากก่อนหน้านี้เห็น ทนายธรรมราช โพสต์ข้อความพาดพิงศาสนาอิสลาม ทำให้รู้สึกไม่พอใจ เพราะภรรยานับถือศาสนานี้อยู่ ตั้งใจมาพูดคุย แต่ ทนายธรรมราช ไม่ยอมตอบ โมโห จึงตัดสินใจลงมือ
จากนั้น พันตำรวจเอก ภูมิรพี สังข์ทอง ผกก.กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม ประสาน สน.พหลโยธิน ให้มารับตัวผู้ก่อเหตุไปดำเนินการตามกฎหมาย
หลังควบคุมตัวนายจารุเวศ (ผู้ก่อเหตุ) ถึง สน.พหลโยธินแล้ว ถูกแจ้งข้อหาฐานทำร้ายร่างกาย โดยทนายเตรียมยื่นขอประกันตัว
ธรรมราช ลั่น พี่น้องผมไม่ยอมแน่
ด้าน ทนายธรรมราช ระบุว่า ยังไม่ได้พูดคุยกับผู้ก่อเหตุทั้ง 3 ราย จึงไม่ทราบสาเหตุ แต่ยืนยันว่าผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมร่วมกัน โดยนายจารุเวศ เป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายหลัก แต่อีก 2 คน มีการอ้างว่าพยายามห้าม แต่พฤติกรรมคือล็อกคอตนเอง หากห้ามจริง เหตุใดไม่ล็อกคออีกคน ซึ่งการล็อกคอ ทำให้ตัวเองคอเคล็ด หลังจากนี้ก็จะต้องสืบหาว่า มีผู้ว่าจ้างมาหรือไม่ หากไม่พบ ผู้ก่อเหตุก็ต้องรับโทษ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทนายธรรมราช บอกว่า ไม่สมกับเป็นลูกผู้ชาย หลังจากนี้จะต้องโดนคดี ไม่มียอมความ เรื่องนี้แค่เล็กน้อย เพราะเคยโดนลอบยิงมาแล้ว ส่วนตัวคงต้องหาซื้อปืนป้องกันตัว
สำหรับข้อขัดแย้งในเรื่องศาสนา ที่ผู้ก่อเหตุกล่าวอ้าง ยังไม่ปักใจเชื่อ แต่ให้ตำรวจเช็กโทรศัพท์ แล้วว่าก่อนมาก่อเหตุ มีการพูดคุยกับใครบ้าง
ทนายธรรมราช ยังบอกด้วยเสียงสั่นเครือว่า เดี๋ยวจะได้รู้ว่าหลังจากนี้ อะไรจะเกิดกับชีวิตผม พี่น้องผมไม่ยอมแน่นอน ดำเนินการเต็มที่ อย่ามาชกหน้าสื่อ แล้วลับหลังมาเคลียร์กับผม
เมื่อถามว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องเชื่อมจิตหรือไม่ ทนายธรรมราช กล่าวว่า ตนเป็นทนายมีคู่ความ อาจเป็นสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่ในกรณีนี้ ต้องรอตรวจสอบก่อน เชื่อว่าข้อมูลจะโยงไปถึงผู้อยู่เบื้องหลัง เหตุการณ์นี้ เป็นกรรมทันตา เพราะตนสามารถชกกลับได้ แต่ไม่ทำ เนื่องจากจะได้ดำเนินคดีอย่างเต็มที่
ยันเอาผิด อ.เบียร์ คนตื่นธรรม ปมหมิ่นศาสนา
ส่วนประเด็นแจ้งความ อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม ทาง ทนายธรรมราช ระบุว่า สืบเนื่องจากบุคคลดังกล่าว ไปออกรายการชื่อดัง แล้วพูดตอนหนึ่งถึงพระเอาเงินจากพุทธศาสนิกชน ไปสร้างวิหารใหญ่โต เพื่อให้หมามานอนเกาขี้กลาก ให้นกมาขี้ใส่ และให้คนมาทำบุญนั้น คำพูดลักษณะนี้ เข้าข่ายความผิดกฎหมายอาญามาตรา 206 ที่ระบุว่า ผู้ใดกระทำการด้วยประการใด ๆ แก่วัตถุ หรือสถานอันเป็นที่เคารพในทางศาสนา อันเป็นการเหยียดหยามศาสนา ต้องระวางโทษจําคุก ตั้งแต่ 1-7 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุทำร่างกาย ทนายธรรมราช ได้กลายเป็นกระแสใน โลกโซเชียล ทันที ส่วนตัว ทนายธรรมราช มีการโพสต์เฟซบุ๊กทันทีว่า แก๊งอันธพาลตำรวจสอบสวนกลางรวบตัวไว้แล้ว ไม่มีคำว่ายอมความ ดำเนินคดีถึงที่สุด โดยมีหลายคนเข้าไปแสดงความเห็นในช่องคอมเมนต์
หวั่นซ้ำรอย ! ห้ามใช้พื้นที่แถลงข่าว
รายงานข่าวว่า จากเหตุที่เกิดขึ้น พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ออกคำสั่ง เนื่องจากมีบุคคลหลายกลุ่ม เข้ามาใช้สถานที่ศูนย์แจ้งความร้องทุกข์ ของตำรวจสอบสวนกลาง หลายครั้งเกิดเหตุรุนแรง มีการใช้กำลัง ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของหน่วยงานราชการ เพื่อความปลอดภัย และความสงบเรียบร้อย จึงมีกฎระเบียบดังนี้
1. ห้ามบุคคลหรือคณะบุคคล ใช้สถานที่ในการแถลงข่าว ที่หน้าศูนย์แจ้งความตำรวจสอบสวนกลาง โดยเด็ดขาด
2. หากเป็นการให้ข่าว หรือให้สัมภาษณ์ ให้ไปใช้สถานที่ด้านนอก
3. ประชาชน ที่จะเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ ร้องเรียนกับพนักงานสอบสวนได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านคนกลาง หรือตัวแทนเพื่อป้องกันการถูกหลอกลวงซ้ำซ้อน
4. ห้ามใช้สถานที่ถ่ายทำ ไลฟ์สด ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยงาน หากจะถ่ายทำให้ขออนุญาตเป็นกรณี
ย้อนรอย ศรีสุวรรณ เคยโดนต่อยมาแล้ว
ทั้งนี้ หากใครงงว่า ทำไมตำรวจสอบสวนกลาง ต้องมีคำสั่งดังกล่าว เพราะกรณีของ ธรรมราช ไม่ใช่ครั้งแรก ก่อนหน้านี้ ถ้าจำกันได้ นักร้องเรียนชื่อดังอย่างคุณศรีสุวรรณ จรรยา เคยถูกลุงศักดิ์ บุกเข้าไปชกที่หน้าศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มาแล้ว เมื่อช่วงวันที่ 18 ต.ค.2565 วันนั้น คุณศรีสุวรรณ ร้องเอาผิด โน้ส อุดม กรณีแสดงเดี่ยวไมโครโฟน 13
คดีนั้น คุณศรีสุวรรณ แจ้งความข้อหาทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกาย โดยศาลสั่งจำคุกลุงศักดิ์ 15 วัน ไม่รอลงอาญา เนื่องจากไม่ขอโทษ และไม่เยียวยา พร้อมจ่ายค่าเสียหายทางแพ่ง 107,000 บาท
ส่วนเมื่อวันที่ 11 พ.ค.ปีที่แล้ว คุณศรีสุวรรณ ถูกนายทศพล อาย 67 ปี บุกทำร้ายที่หน้าสำนักงาน กกต. ศูนย์ราชการอาคาร B มีการแจ้งความ 2 ข้อหา คือ ทำร้ายร่างกาย และหมิ่นประมาท ก่อนที่ศาลสั่งจำคุกนายทศพล เป็นเวลา 6 เดือน ปรับ 2 คดี รวมกว่า 70,000 บาท
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35