วันนี้หัวข้อที่เราจะคุยกันก็คือ "ออมอย่างไรให้ชนะเงินเฟ้อ" คำว่าเงินเฟ้อ หลายคนอาจจะเคยได้ยิน แต่ไม่เข้าใจว่ามันมีผลกระทบอย่างไร โค้ชหนุ่มช่วยอธิบายหน่อยครับว่าเงินเฟ้อคืออะไร ?
เงินเฟ้อคือสถานการณ์ที่ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้กำลังซื้อของเงินลดลงครับ ยกตัวอย่างง่ายๆ สมมติว่าปีนี้คุณซื้อก๋วยเตี๋ยวได้ในราคา 50 บาท แต่ถ้าเกิดเงินเฟ้อขึ้น ปีหน้าอาจต้องจ่าย 55 บาทสำหรับก๋วยเตี๋ยวชามเดียวกัน นั่นหมายความว่าเงินของคุณมีค่าลดลง
แล้วแบบนี้มีผลกระทบกับการออมของเรายังไง ?
เงินเฟ้อมีผลกระทบอย่างมากเลยครับ ถ้าเราออมเงินไว้เฉยๆ เช่น ฝากธนาคารในบัญชีออมทรัพย์ที่ได้ดอกเบี้ยต่ำๆ ก็จะไม่เพียงพอในการต่อสู้กับเงินเฟ้อ เพราะอัตราดอกเบี้ยที่เราได้รับจากการออมในธนาคารมักจะต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อ ทำให้มูลค่าเงินของเราหายไปเรื่อยๆ ครับ
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยเดือนส.ค. 2567 ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ที่ 0.35% YoY ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน และหากเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยเป็นบวกเล็กน้อยที่ 0.07% MoM โดยมีปัจจัยสำคัญมาจาก
- ราคาหมวดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ลดลงตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับลดลงมาอยู่ในระดับต่ำกว่า 80 ดอลลาร์ฯ/ บาร์เรล ขณะที่ฐานราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกในเดือนส.ค. 2566 อยู่ระดับสูงที่ราว 85 ดอลลาร์ฯ/ บาร์เรล
- ราคาหมวดค่าไฟฟ้าปรับลดลง เนื่องจากอัตราค่าไฟฟ้ามีการตรึงที่ 4.18 บาท/ หน่วยอย่างต่อเนื่องในเดือนพ.ค.-ส.ค. 2567 ขณะที่อัตราค่าไฟฟ้าในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านั้นอยู่ที่ 4.70 บาท/ หน่วย ซึ่งส่งผลให้เงินเฟ้อเดือนส.ค. 2567 ลดลง 0.19% YoY (รูปที่ 1)
- อย่างไรก็ดี จาก 430 รายการสินค้าและบริการในตะกร้าเงินเฟ้อ มี 273 รายการที่ราคายังคงปรับสูงขึ้น โดยปัจจัยผลักดันหลักมาจากราคาผักสดผลไม้สด ข้าวสาร และอาหารสำเร็จรูป เนื่องจากสถานการณ์ฝนตกหนักและอุทกภัยในบางพื้นที่เพาะปลูกได้ส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตรบางส่วน
- ขณะที่ หากหักราคาอาหารสดและพลังงานออก เงินเฟ้อพื้นฐานเดือน ส.ค. 2567 เร่งตัวขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 0.62% YoY จากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ 0.52% YoY
วิธีการออมอย่างไรที่สามารถช่วยให้เงินของเราเติบโตได้ทันเงินเฟ้อ
สิ่งที่สำคัญก็คือเราต้องเลือกวิธีการออมและลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อครับ เริ่มจากวิธีที่ง่ายและความเสี่ยงต่ำหน่อยก็คือ
- ออมเงินด้วยการลงทุนตราสารหนี้ที่รับประกันความเสี่ยงอัตราเงินเฟ้อ เช่น พันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อ (Treasury Inflation-Protected Securities (TIPS))
- ออมเงินด้วยการลงทุนสินทรัพย์ที่เป็น Tangible Asset หรือสินทรัพย์ที่จับต้องได้ เช่น ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
- ออมเงินด้วยการลงทุนในสิ่งของที่จะมีมูลค่าสูงขึ้นในอนาคต เช่น นาฬิการุ่นหายาก กระเป๋ารุ่นพิเศษ ภาพวาดศิลปิน
- ออมเงินด้วยบัญชีเงินฝากประจำที่มีดอกเบี้ยใกล้เคียงอัตราเงินเฟ้อ
ถ้ารับความเสี่ยงได้มากขึ้น ก็อาจพิจารณาลงทุนในหุ้นหรือกองทุนรวมที่ลงทุนในหุ้นครับ เพราะการลงทุนในหุ้นมีโอกาสให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าในระยะยาว แต่ก็ต้องทำการศึกษาข้อมูลให้ดี เพราะการลงทุนในหุ้นมีความเสี่ยงสูงกว่ากองทุนตราสารหนี้
ทางเลือกอื่น ๆ เช่น การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้านหรือคอนโดปล่อยเช่า หรือการลงทุนในทองคำ และสินทรัพย์ดิจิทัลก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจครับ แต่แต่ละประเภทการลงทุนก็มีความเสี่ยงที่ต่างกันออกไป ต้องพิจารณาให้เหมาะสมกับเป้าหมายและความเสี่ยงที่เรารับได้
ขอฝากการออมเงินที่ง่ายๆ อีกหนึ่งวิธีมาฝากกัน
เรียกว่าได้ทั้งออม และลุ้นโชค ด้วยสลากออมสินพิเศษ 1 ปี รวมมูลค่ารางวัลสูงสุดถึง 110 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น
- รางวัลพิเศษ 40 ล้านบาท จำนวน 1 รางวัล ออกรางวัล 2 ครั้ง รวมมูลค่า 80 ล้านบาท
- ครั้งที่ 1 (16 พ.ย. 67) และครั้งที่ 2 (16 ม.ค. 68)
- และลุ้นรางวัลที่ 1 มูลค่า 10 ล้านบาท ได้ทุกงวด
- ต้องเป็นผู้ฝากสลากออมสินพิเศษ 1 ปี แบบใบสลากหรือดิจิทัล ตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค P2567 - 15 ม.ค. 2568
- ดอกเบี้ยครบกำหนด 0.25 บาทต่อหน่วย
- ดอกเบี้ยและเงินรางวัล บุคคลธรรมดาไม่เสียภาษี
ฝากได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขาและ แอปฯ MyMo เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
พบกับ "โคชหนุ่ม" และ "กาย สวิตต์" ได้ใน "เงินทองของจริง" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.05-9.15 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และช่องทางออนไลน์ TERO Digital
รับชมผ่าน YouTube ได้ที่