ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ทนายตั้ม ยังยืนยันในความบริสุทธิ์ กรณี “พี่อ้อย”แจ้งความผิดฉ้อโกงเงิน 71 ล้านบาท พร้อมระบุว่า ไม่หนักใจ ยืนยันหนักแน่นว่า ทุกคำที่พูดออกมาเป็นความจริงทั้งหมด
ทนายตั้ม ลั่นพูดจริงทุกคำ ปมเงิน 71 ล้านบาท
นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ พร้อมภรรยาเดินทางมาที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ในคดีสลาก 30 ล้านบาท ตามหมายนัดศาลที่นัดไต่สวนมูลฟ้องในคดีความผิดต่อเจ้าพนักงานและความผิดเกี่ยวกับเอกสาร ที่นายฐนุกร เหลืองใหม่เอี่ยม หรือ แผน เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ร้อยตำรวจโท จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ และคดีที่หมวดจรูญ ยื่นฟ้อง ครูปรีชา ใคร่ครวญ รวมทั้ง นางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ เจ๊บ้าบิ่น และนางพัชริดา พรมตา หรือ เจ๊พัช แม่ค้าขายลอตเตอรี่ ในข้อหาความผิดฐาน ร่วมกันเบิกความเท็จ
โดยวันนี้ ครูปรีชา ไม่มาฟังคำพิพากษา มอบหมายให้ทนายความมายื่นหนังสือเพื่อขอเลื่อนออกไป โดยมีใบรับรองจากแพทย์มาแสดงระบุว่า ป่วยจากการเกิดอุบัติเหตุรถชน ศาลจึงให้เลื่อนไปฟังคำพิพากษาอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 12 ธันวาคม 2567
ขณะที่นายษิทรา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ถูก พี่อ้อย นักธุรกิจสาว ดำเนินคดีฉ้อโกงเงิน 71 ล้านบาทว่า ไม่มีความหนักใจอะไร ขณะนี้อยู่ในระหว่างการรวบรวบหลักฐาน ส่วนกรณีที่ตนบอกว่า เป็นการให้โดยเสน่หานั้น มันอยู่ที่หลักฐานในสํานวน บางคนอาจจะไม่เชื่อ แต่ยืนยันหนักแน่นว่า สิ่งที่ตนพูดเป็นความจริงทุกคํา ตนไม่กล้าโกหกผ่านสื่ออยู่แล้ว ตนเป็นทนายความ ทําอะไรทุกอย่างมีหลักฐานอยู่แล้ว ขอให้รอดูผลของเรื่องนี้ดีกว่าว่าจะเป็นยังไง เหมือนกับที่มารอดูผลของคดีสลาก 30 ล้าน ซึ่งบางเรื่องอาจต้องใช้เวลา ตนเข้าใจว่า ตอนนี้พูดไปก็เท่านั้น เพราะยังไงคนก็ไม่เชื่ออยู่ดี โดยขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งความกลับใครทั้งสิ้น และไม่มีการติดต่อไปหาพี่อ้อย หรือ เลขาพี่อ้อย แต่อย่างใด ส่วนเรื่องการเสียภาษี ยืนยันว่า มีการแจ้งหน้าที่ให้ตรวจสอบแล้ว
สนธิ แฉคลิป EP.1 ที่มาทนายเสน่หา 71 ล้านบาท
ขณะที่ล่าสุดเวลา 15.00 น.ที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊ก คุยทุกเรื่องกับสนธิ ได้โพสต์คลิปสัมภาษณ์ พี่อ้อย ผู้เสียหายบางช่วงบางตอน EP.1 เป็นคลิปความยาว เกือบ 5 นาที ระบุข้อความว่า EP.1 เปิดที่มา จากปากผู้เสียหาย รู้จัก ทนายตั้ม ก่อนโดนต้ม สูญเงิน 71 ล้าน พร้อมลากไส้ กินหรูอยู่แพง ค่าใช้จ่ายออกให้ทุกอย่าง
ในคลิปเป็นคลิปที่นายสนธิ และทีมงานพูดคุยกับพี่อ้อย และพี่น้อย เลขาฯ บอกว่า เริ่มรู้จักทนายตั้ม เป็นแฟนคลับ ตั้งแต่ดังเรื่องสลาก 30 ล้านบาท แต่ไม่ได้ติดต่อส่วนตัว ได้ให้เลขาฯติดต่อให้หน่อย ให้มาเป็นที่ปรึกษากฎหมายของพี่อ้อย เพราะเพิ่งกลับมาอยู่เมืองไทย
ช่วงต้นปี 2565 ช่วงประมาณคดีแตงโม เขาก็ร่างสัญญาส่งมา เก็บค่าร่างสัญญา 300,000 บาท หลังจากนั้นคุยกันว่า เป็นที่ปรึกษาจ้างเดือนละ 300,000 บาท แต่ไม่ได้โอนเข้าบัญชีเขา โอนเข้าบัญชีพี่สาวภรรยา
เขาบอกว่า ไม่ต้องโอนเข้าบริษัท ทุกเรื่องโอนเข้าบัญชีบุคคลหมด แต่โอนไปได้ 1 ปี ก็บอกยกเลิกสัญญา เพราะเห็นว่า ไม่ได้ทำอะไร จึงขอจ้างเป็นเคส ๆ ไป ระหว่างนั้นไปหาพี่อ้อยที่ประเทศฝรั่งเศสบ่อยมาก โดยพี่อ้อย ออกค่าใช้จ่ายให้ทุกอย่าง และออกให้ทั้งครอบครัว ที่ผ่านมาพี่อ้อยไว้วางใจมาก ให้กุญแจบ้านและกุญแจรถทุกอย่าง เพราะคิดเหมือนพี่น้อง เวลาไปนอนโรงแรม ก็ขนคนในครอบครัวมานอนหมด ใช้ชีวิตแบบหรูหรา หลังจากนี้ต้องการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะเจ็บใจ
นอกจากนี้ เพจเฟซบุ๊ก คุยทุกเรื่องกับสนธิ ยังระบุข้อความว่า รอฟังคลิป ต่อไป EP.2 วันนี้ (28 ต.ค.) 19.00 น. ความจริงมีหนึ่งเดียว
แฉ ทนายตั้ม ขอ พี่อ้อย รับลูกเป็นบุตรบุญธรรม
ขณะที่นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุข้อความว่า โชคดีของพี่อ้อยที่ถูกลูกชายคัดค้านสำเร็จจากข้อเสนอของ ตั้ม ว่า จะขอให้พี่อ้อยรับลูกของตั้มเป็นบุตรบุญธรรมของมหาเศรษฐีนี อยากรู้ความจริงเรื่องนี้ เพจสนธิทอล์กจะทยอยเปิดคลิปแต่ละประเด็นมาให้ชมกันเร็ว ๆ นี้
สนธิญา ร้อง ปปง. ตรวจสอบที่มา เงิน 71 ล้านบาท
ด้านนายสนธิญา สวัสดี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้เดินทางมายื่นหนังสือที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เรียกร้องให้ตรวจสอบ กรณีเงิน 71 ล้านบาทที่นายษิทราได้รับ เพื่อให้ ปปง.พิจารณาวินิจฉัย ยึด อายัด เงินจำนวนดังกล่าว และเพื่อพิสูจน์ที่มาของเงิน และความถูกต้องตามกระบวนการกฎหมาย หรือไม่อย่างไร โดยมีนายพีรธร วิมลโลหการ ผอ.กองบริหารจัดการทรัพย์สิน ในฐานะรองโฆษก ปปง. เป็นผู้รับมอบหนังสือร้องเรียน
นายสนธิญา กล่าวว่า ถ้าทนายตั้มเป็นทนายธรรมดาคงไม่ติดใจอะไร แต่ทนายตั้มเป็นถึงเลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ และเป็นนักการเมือง ในฐานะเป็นว่าที่สมาชิกวุฒิสภาสำรอง อันดับที่ 4 ซึ่งตำแหน่งดังกล่าวตามรัฐธรรมนูญกำหนดชัดว่า ไม่สามารถถอนตัวได้ ยกเว้นกรณีเสียชีวิต ตนจึงมาแจ้งเบาะแสให้ ปปง.ตรวจสอบใน 3 ประเด็นคือ
ประเด็นที่ 1 เงินจำนวนดังกล่าวนั้น ไม่ว่า ทนายตั้มจะได้มาด้วยเสน่หา หรือ วิธีการใดก็ตาม อยากให้ตรวจสอบว่า เงินดังกล่าวนั้นมีที่มาถูกต้องชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
ประเด็นที่ 2 คือทนายตั้มได้ชำระภาษีถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
ประเด็นที่ 3 คือจากกรณีที่พบว่าภรรยาของทนายตั้มนำเงิน 40 ล้านบาทจากก้อนนี้ไปซื้อบ้าน เข้าข่ายลักษณะการแปลงทรัพย์สินอันเป็นการฟอกเงินหรือไม่
นายสนธิญา ยืนยันว่า การมายื่นให้ตรวจสอบครั้งนี้ ไม่ใช่เป็นการดิสเครดิตทางการเมือง เพราะไม่เคยรู้จักทนายตั้มเป็นการส่วนตัว แค่ยื่นเรื่องเพื่อตรวจสอบให้ประจักษ์ชัดว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ นอกจากนี้เตรียมจะยื่นเรื่องดังกล่าวให้ประธานวุฒิสภาตรวจสอบด้วยภายในสัปดาห์หน้าฃ
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35