สาวร้อง ถูกอดีตแฟนเป็นข้าราชการ ข่มขู่คุกคาม ลวงไปทำร้าย หลังสืบรู้ว่าฝ่ายชายมีครอบครัวอยู่แล้ว พยายามหนีออกมาตลอดหลายปีแต่หนีไม่พ้น สุดท้ายต้องหนีตายมาขอความช่วยเหลือกับสายไหมต้องรอด
วันที่ 25 ต.ค. 67 คุณชมพู่ (นามสมมติ) ผู้ร้องทุกข์ ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า ตนรู้จักกับอดีตแฟนเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ผ่านการทำงานในมูลนิธิแห่งหนึ่ง ฝ่ายชายเข้าหาตนก่อน คบกันประมาณ 1 ปี จึงได้รู้ว่าฝ่ายชายมีครอบครัวอยู่แล้ว จนถูกหมายศาลฟ้องชู้
ตนพยายามหนีออกห่างจากฝ่ายชาย แต่อีกฝ่ายไม่ยอมเลิกถูกข่มขู่และตามตัวกลับมาตลอด เคยมาตามก่อกวนถึงที่ทำงาน นอกจากนี้ยังถูกทำร้ายร่างกาย ทั้งตบและชักปืนออกมาจ่อหัวข่มขู่ ล่าสุดตนตัดสินใจหนีออกมา แต่กลับถูกใส่กุญแจมือแล้วทำร้ายอย่างรุนแรง ข่มขู่ว่าจะนำไปทิ้งในป่า แม้จะมีเพื่อนของฝ่ายชายอยู่ด้วยก็ตาม ฝ่ายชายอ้างว่ารู้จักกับคนที่มีอิทธิพลในจังหวัด รู้สึกหวาดกลัวเนื่องจากตนไม่ใช่คนในพื้นที่ ตัดสินใจหนีออกมาขอความช่วยเหลือกับสายไหมต้องรอด
คุณ อินทร์ชญาร์ สีสังข์ (มิ้น) ทีมงานเพจสายไหมต้องรอด คุณชมพู่หลบหนีออกมาจากอดีตแฟนได้ เนื่องจากฝ่ายชายเผลอหลับ จึงหยิบโทรศัพท์มือถือฝ่ายชายและกุญแจรถขับหนีตายมาขอความช่วยเหลือกับสายไหมต้องรอด จึงให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และมีหลักฐานทุกอย่างอยู่ในรถคันดังกล่าว จากนี้จะพาไปแจ้งความและขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป เผยว่าสาเหตุที่คุณชมพู่ไม่สามารถหนีออกมาจากฝ่ายชายได้ เนื่องจากฝ่ายชายมีการปั๊มกุญแจไว้หลายดอก เมื่อทะเลาะกันก็จะมานำรถของคุณชมพู่ไปทุกครั้ง
ทนายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ให้คำแนะนำด้านกฎหมายว่า ให้ลงบันทึกประจำวันไว้ หลังหนีตายออกมาพร้อมกับทรัพย์สินบางส่วนของฝ่ายชาย เนื่องจากอาจจะถูกฝ่ายชายแจ้งความกลับข้อหาลักทรัพย์ ส่วนฝ่ายชายผู้ก่อเหตุที่เป็นข้าราชการมีพฤติกรรมที่รุนแรงขนาดนี้ เจ้าหน้าที่สามารถออกหมายจับได้เลย พร้อมแนะนำให้ไปแจ้งความกับกองปราบฯ ดีกว่าไปแจ้งความกับตำรวจในพื้นที่ เพื่อป้องกันการช่วยเหลือกันตามที่ฝ่ายชายกล่าวอ้าง
คุณ จิฬาภรณ์ ตามชู กฤษณสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงาน กล่าวว่า ในกรณีนี้มีการข่มขู่คุกคามที่รุนแรง แนะนำให้เข้าสู่กระบวนการคุ้มครองพยาน และสามารถไปร้องทุกข์ได้เนื่องจากฝ่ายชายเป็นข้าราชการ ซึ่งจะมีบทลงโทษทางวินัยค่อนข้างแรง ส่วนการเยียวยาก็จะมีสิทธิ์ได้รับทั้งหมดตามกฎหมาย หลังจากนี้ควรไปหาหลักฐานเพิ่มเติมทั้งกล้องวงจรปิด และทะเบียนราษฎร์เพื่อพิสูจน์ว่าฝ่ายชายมีครอบครัวอยู่แล้วจริงหรือไม่
คุณทูน เพื่อนของผู้ก่อเหตุ ชี้แจงว่า ตนรู้ว่าคุณชมพู่กับฝ่ายชายเพื่อนของตนอยู่กินเป็นสามีภรรยากันหลายปี แต่ไม่เคยรู้จักกับฝ่ายหญิงมาก่อน ฝ่ายชายบอกกับตนว่าเมียตัวเองมีชู้ อยากจะพามาเคลียร์กันที่บ้านตน ยืนยันว่าตนอยู่ในเหตุการณ์จริง เห็นว่ามีการทำร้ายร่างกายกันจริง ตนพยายามเข้าไปห้ามทั้งสองฝ่ายแต่ไม่มีใครฟังตน ส่วนการใส่กุญแจมือตนไม่รู้เรื่อง หลังเกิดเหตุฝ่ายชายติดต่อมาบอกตนว่าคุณชมพู่หนีไปแล้ว ทราบเพียงแค่ว่าฝ่ายชายไปทำงานตามปกติ และจะไปแจ้งความว่าโทรศัพท์มือถือถูกขโมยไป
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 17.30-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม