หนทางประหยัด สู้ราคาทางด่วนโทลล์เวย์ที่สูงขึ้น ! | เงินทองของจริง

15,308 ครั้ง

23 ต.ค. 2567

แชร์ข่าวไปที่

ในปัจจุบัน การเดินทางในกรุงเทพฯ เป็นปัจจัยหนึ่งที่ต้องวางแผนกันให้ดี โดยเฉพาะกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น อย่างการขับรถในเมืองที่ต้องเผชิญกับรถติดเป็นประจำ ทำให้การเลือกใช้บริการทางด่วนหรือโทลล์เวย์กลายเป็นทางเลือกยอดนิยมเพื่อช่วยประหยัดเวลา

แต่ล่าสุด บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT เตรียมขึ้นค่าผ่านทางโทลล์เวย์ โดยจะเริ่มใช้ในวันที่ 22 ธันวาคม 2567 ตามคู่สัญญาสัมปทานกำหนดตามบันทึกข้อตกลงแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญาสัมปทานทางหลวงฉบับที่ 3/2550 ลงนามเมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2550 สำหรับรอบเวลา 5 ปีข้างหน้า ระหว่างวันที่ 22 ธ.ค. 2567 ถึงวันที่ 21 ธ.ค. 2572

ช่วงดินแดง-ดอนเมือง: ค่าผ่านทางจะเพิ่มขึ้น 10 บาท เป็น 90 บาทสำหรับรถ 4 ล้อ และ 120 บาทสำหรับรถมากกว่า 4 ล้อ

ช่วงดอนเมือง-อนุสรณ์สถาน: ค่าผ่านทางจะเพิ่มขึ้น 5 บาท เป็น 40 บาทสำหรับรถ 4 ล้อ และ 50 บาทสำหรับรถมากกว่า 4 ล้อ

ก่อนหน้านี้ ทางโทลล์เวย์เคยมีการปรับราคามาแล้วหลายครั้ง ตั้งแต่ปี 2550 ถึงปัจจุบัน โดยราคาที่เปลี่ยนแปลงมีดังนี้:

22 ธ.ค. 2550 - 21 ธ.ค. 2552: ช่วงดินแดง-ดอนเมือง 35 บาท, ช่วงดอนเมือง-อนุสรณ์สถาน 20 บาท

22 ธ.ค. 2552 - 21 ธ.ค. 2557: ช่วงดินแดง-ดอนเมือง 60 บาท, ช่วงดอนเมือง-อนุสรณ์สถาน 35 บาท

22 ธ.ค. 2557 - 21 ธ.ค. 2562: ช่วงดินแดง-ดอนเมือง 70 บาท, ช่วงดอนเมือง-อนุสรณ์สถาน 30 บาท

21 ธ.ค. 2562 - 21 ธ.ค. 2567: ช่วงดินแดง-ดอนเมือง 80 บาท, ช่วงดอนเมือง-อนุสรณ์สถาน 35 บาท

การปรับราคาครั้งนี้เป็นการปรับตามข้อตกลงในสัญญาสัมปทานเพื่อรักษาคุณภาพและการบริการของทางด่วน

บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) ทำธุรกิจให้บริการทางยกระดับอุตราภิมุข หรือที่รู้จักในชื่อว่าดอนเมืองโทลล์เวย์ ระยะทาง 21 กิโลเมตร มีรายได้หลักจากการเก็บค่าผ่านทาง

ในไตรมาส 2 ปี 2567 ปริมาณจราจรเฉลี่ย 108,439 คัน/วัน รายได้ 589.53 ล้านบาท กำไรสุทธิ 236.75 ล้านบาท

เมื่อมีการปรับราคาของทางด่วน โทลล์เวย์เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจทำให้หลายคนที่ใช้เส้นทางนี้รู้สึกกังวลเรื่องของค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เราพอจะมีวิธีรับมือหรือทางเลือกการเดินทางอื่นๆ เพื่อให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างไรบ้าง

1.ใช้เส้นทางเลี่ยง: การเลือกเส้นทางที่ไม่ต้องเสียค่าผ่านทางสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ แม้ว่าเส้นทางเลี่ยงอาจมีการจราจรหนาแน่นหรือใช้เวลานานกว่า แต่สามารถประหยัดเงินได้ หรือการใช้แอปพลิเคชันนำทางที่แสดงเส้นทางเลี่ยงจะช่วยให้พบเส้นทางที่ดีที่สุด

2.ใช้รถสาธารณะ: รถเมล์ รถไฟฟ้า หรือรถตู้เป็นทางเลือกที่ดีในการลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางภายในเมือง รถสาธารณะยังช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาการจราจรติดขัด และลดความเครียดจากการขับรถในสภาพการจราจรที่หนาแน่น

3.การออกเดินทางในช่วงเช้าหรือเร็วกว่าปกติ เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรติดขัด ถนนจะมีการจราจรเบาบางในช่วงเช้าตรู่ สามารถเดินทางได้รวดเร็วและสะดวกกว่าเวลาที่รถติด และยังช่วยลดเวลาในการใช้เชื้อเพลิงและประหยัดค่าใช้จ่ายได้

4.การคาร์พูล: การเดินทางร่วมกับเพื่อนหรือคนรู้จักที่ใช้เส้นทางเดียวกันสามารถช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายน้ำมันและค่าทางด่วน การคาร์พูลยังช่วยลดจำนวนรถยนต์บนถนน ซึ่งอาจช่วยลดปัญหาการจราจรติดขัดได้ด้วย

5.การวางแผนการเดินทางล่วงหน้า: การวางแผนเส้นทางและเวลาเดินทางล่วงหน้า โดยใช้แอปพลิเคชันนำทางที่ช่วยหาทางลัดหรือหลีกเลี่ยงการจราจรหนาแน่นจะช่วยลดระยะเวลาในการเดินทางและทำให้คุณสามารถเลือกเส้นทางที่ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น

6.ตรวจสอบค่าใช้จ่ายประจำเดือน: หากคุณต้องใช้เส้นทางด่วนบ่อยครั้ง อาจพิจารณาซื้อบัตรผ่านทางแบบรายเดือนหรือบัตรสะสมที่ช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว บางครั้งบัตรรายเดือนมีราคาเฉลี่ยต่อการเดินทางที่ต่ำกว่าการจ่ายค่าผ่านทางทีละครั้ง

7.ติดตามข่าวสารและการปรับเปลี่ยน: การติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงค่าผ่านทางและนโยบายใหม่ ๆ สามารถช่วยให้คุณวางแผนและปรับเปลี่ยนวิธีการเดินทางได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

พบกับ "โคชหนุ่ม" และ "กาย สวิตต์" ได้ใน "เงินทองของจริง" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.05-9.15 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และช่องทางออนไลน์ TERO Digital

รับชมผ่าน YouTube ได้ที่

แชร์ข่าวไปที่

เงินทองของจริง

ลงทุน