ข่าวเย็นประเด็นร้อน - คนร้าย 5 คน พร้อมอาวุธสงคราม และปืนสั้นครบมือ บุกปล้นนักธุรกิจชาวจีน 2 คน คาออฟฟิศ ได้เงินสด 3.2 ล้าน ก่อนอุ้มไปรีดเงินคริปโตเพิ่มอีก 2.7 แสน USDT หรืออีกราว 9 ล้านบาท รวมเป็น 12 ล้านบาท คาดว่าอดีตภรรยาเป็นนกต่อ ให้สามีใหม่ที่เป็นทหารรับจ้างชาวเมียนมา บุกเข้ามาปล้น
เปิดวงจรปิดคนร้ายอุ้มปล้น 12 ล้านบาท ชาวจีน
คลิปนี้เกิดขึ้น เมื่อวันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม เวลา 16.02 น. ชาญฉกรรจ์ 4 คน พร้อมอาวุธปืนเอ็ม 16 อาวุธปืนสั้น 4 กระบอก บุกเข้าไปในบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งมีเจ้าของเป็นคนจีน 2 คน ท้ายซอยรัชดาภิเษก 24 เมื่อเข้าไปถึง ผู้เสียหายที่นั่งอยู่ภายในบริษัท คือ นายเซ่ และ นายเจเค ได้ถามทั้ง 4 คนว่า มาหาใคร มาหาใคร คนร้ายก็พูดว่า สิงคโปร์ คนสิงคโปร์ คนที่ชื่อ ไมเคิล อยู่ไหน เป้าหมายของเราคือคนสิงคโปร์คนนั้น จากนั้นคนร้ายก็ดึงปลั๊กไฟ ทำลายกล้องวงจรปิด จึงทำให้เห็นภาพถึงแค่นี้
ทีมข่าวเย็นประเด็นร้อน ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ในซอยรัชดาภิเษก 24 พบว่าช่วงเวลา 15.55 น. ของวันที่ 19 หรือ ไม่กี่นาทีก่อนเกิดเหตุ จะเห็นรถคล้ายลักษณะรถตู้ Toyota รุ่น Avanza สีบรอนซ์เงิน ขับเข้ามา
จากนั้นเลยผ่านกล้องไป คาดว่าจะไปส่งกลุ่มคนร้าย 4 คน หน้าบริษัทที่เกิดเหตุสักพัก ได้ถอยรถกลับมาจอดหน้าบริเวณกล้องวงจรปิดเวลา 15.56 น. และจอดอยู่ตรงนั้นจนถึงเวลา 16.12 น. จึงขับรถออกไปจากบริเวณที่จอด ซึ่งตั้งแต่รถคันนี้เข้ามาและจอดรออยู่ตรงนี้ ใช้เวลาทั้งหมด 17 นาที
ผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่งที่อยู่บริเวณนี้ บอกว่า เมื่อช่วงเย็นวันเสาร์ เห็นรถยนต์คล้าย Toyota รุ่น Avanza สีบรอนซ์เงิน ขับมาจอดด้านหน้าบริษัทนี้ จากนั้นเห็นผู้ชายจำนวนหนึ่ง ลงจากรถ แล้วเดินเข้าไปในออฟฟิศ จากนั้นรถถูกขับออกไป กระทั่ง ผ่านไปสักพัก รถคันดังกล่าว ก็วนกลับมาที่เดิมและรับคนออกไป โดยออฟฟิศนี้จะมีผู้ชายชาวจีนอยู่กันสองคน ใช้รถ 2 คัน คือ Honda Civic สีขาว และ HRV สีเทา
เผยนาทีปล้น มัดมืออุ้มขึ้นรถ 2 คัน
ทีมข่าวเย็นประเด็นร้อน ได้ข้อมูลจากคนใกล้ชิดผู้เสียหาย ว่าตอนที่คนร้ายบุกเข้าไปในออฟฟิศ หลังถามหาคนชื่อไมเคิลแล้ว ได้ให้ผู้เสียหายเอาเงินสดที่มีอยู่ออกมาให้ ซึ่งได้เงินสดไป 3,200,000 บาท จากนั้นจับผู้เสียหายทั้งคู่มัดมือ แล้วเรียกให้รถ Toyota Avanza ที่จอดรออยู่ ขับเข้ามารับ โดยแยกผู้เสียหาย 1 คน คือ นายเซ่ ไปนั่งในรถคันดังกล่าว มีคนร้ายนั่งประกบ 3 คน ส่วน นายเจเค ถูกย้ายไปนั่งรถฮอนด้า HRV ของผู้เสียหายเอง แล้วคนร้ายไปขับ 1 คน นั่งประกบอีก 1 คน จากนั้นขับรถวนออกไปทางซอยรัชดาภิเษก 22
รถคนร้ายขับชนกันเอง นำรถไปทิ้ง 1 คัน
เมื่อคนร้ายขับรถตามกันไปทั้ง 2 คัน โดยมีรถ Honda HRV นำหน้า ไปตามถนนลาดพร้าว ปรากฏว่าพอไปถึงห้าแยกลาดพร้าว รถของคนร้ายที่ขับตามหลังคือ Toyota Avanza เกิดไปชนกับรถ Honda HRV คันหน้า ทำให้ฝากระโปรงยุบ จึงให้คนร้ายในรถ Toyota Avanza จำนวน 1 คน นำตัวผู้เสียหาย มาขึ้นรถ Honda HRV แล้วขับรถคันดังกล่าวมุ่งหน้าไปทางจังหวัดนครนายก ส่วนรถ Toyota Avanza ที่ฝากระโปรงหน้ายุบ ก็ให้คนร้ายอีก 2 คนที่เหลือนำไปจอดทิ้งไว้ริมถนนย่านเกษตรนวมินทร์
บังคับโอนเงินคริปโทฯ 270,000 USDT
ผู้เสียหายทั้ง 2 คน ถูกคนร้ายขับพาไปแถวจังหวัดนครนายก ซึ่งจำได้ว่าเป็นเพียงจุดที่มีสุสานเยอะ ๆ จากนั้นพยายามให้หาเงินให้คนร้ายอีก จนกระทั่งผู้เสียหายได้โทร.หาญาติในประเทศจีน ก่อนโอนเงินสกุล usdt ให้คนร้ายรวม 270,000 USDT หรือประมาณ 9 ล้านกว่าบาท รวมได้เงินทั้งหมด 12 ล้านกว่าบาท จึงยอมนำตัวมาส่งทิ้งไว้ที่ถนนย่านเกษตรนวมินทร์ ถอดซิมโทรศัพท์ผู้เสียหายทำลายทิ้ง ซึ่งผู้เสียหายได้ไปซื้อซิมการ์ดร้านสะดวกซื้อ โทร.หาคนรู้จักให้ติดต่อตำรวจ และไปแจ้งความที่ สน.สุทธิสาร เมื่อคืนนี้
คาดแฟนเก่าผู้เสียหาย นกต่อคนร้าย
พันตำรวจเอก พรเทพ เฉลิมเกียรติ ผู้กำกับการ สน.สุทธิสาร เปิดเผยรายละเอียดคดีนี้ว่า ผู้เสียหายทำธุรกิจเป็นนายหน้าจัดสรรหาที่พักให้แก่ชาวจีนที่มาเมืองไทย มีการจดทะเบียนบริษัทถูกต้องตามกฎหมาย โดยในวันเกิดเหตุได้รับการติดต่อจากบุคคลหนึ่ง ที่เคยติดต่อขอแลกเงินคริปโทฯ กันมาก่อน จะขอแลกเงินคริปโทฯ ให้เตรียมเงินสดไทยไว้ 3 ล้านบาท หลังจากนั้นไม่นาน มีกลุ่มคนร้าย 4 คน เข้ามาออฟฟิศ พร้อมอาวุธครบมือ แล้วรื้อค้นปล้นเงิน ก่อนนำตัวผู้เสียหายออกจากออฟฟิศ ตรวจสอบทะเบียนรถยนต์ของผู้ก่อเหตุ พบว่า เป็นทะเบียนปลอม เชื่อว่าขณะนี้ผู้ต้องหายังคงอยู่ในประเทศไทย แต่การติดตามมีความยากลำบาก เพราะเนื่องจากผู้ต้องหาได้ทำการแยกย้ายรถออกไปคนละคันและหลบหนี
ทีมข่าวเย็นประเด็นร้อน ได้ข้อมูลจากคนใกล้ชิดผู้เสียหายว่า หนึ่งในผู้เสียหายเคยมีภรรยา เป็นคนจีนด้วยกัน ต่อมาได้เลิกรากันประมาณ 5-6 เดือนแล้ว ฝ่ายชายได้ให้เงินฝ่ายหญิงไปจำนวนหนึ่ง ต่อมาฝ่ายหญิงไปมีสามีใหม่ เป็นชาวเมียนมา ซึ่งน่าจะเป็นทหารรับจ้างที่พูดจีนได้ โดยผู้เสียหายสงสัยว่าอดีตภรรยา จะเป็นคนนกต่อให้คนร้ายเข้ามาปล้น เพราะว่าวันเกิดเหตุ อดีตภรรยาได้ติดต่อมาว่าจะขอแลกเงิน ซึ่งผู้เสียหายบอกว่าจะเอาไปให้ที่คอนโดฯ แต่ฝ่ายหญิงบอกว่าจะเข้ามาเอาที่บริษัท จากนั้น ฝ่ายชายจึงเดินทางมาถึงออฟฟิศไม่นาน ก็ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์บุกปล้นทันที โดยในคนร้ายทั้ง 5 คน เป็นคนจีน 2 คน และคนเมียนมา 3 คน
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35