ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ทุกคนยังปฏิเสธข้อหา ! โดย ทนายบอสพอล เตรียมหลักทรัพย์ ยื่นประกันตัว 18 ผู้ต้องหาดิไอคอน เผย คำพูด บอสพอล ฝากให้ดูแลครอบครัวโดยเฉพาะแม่
บอสพอล ฝากดูแลแม่ ถือว่าเปลี่ยนที่นอน
เมื่อเวลา 05.30 น. ตำรวจได้เบิกตัว ผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับ บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ทั้ง 18 คน จากอาคารประชาอารักษ์ มาสอบปากคำเพิ่มเติมที่อาคารพิทักษ์สันติ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
โดย นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล หรือ บอสพอล เผยว่าหลังทั้งหมดถูกจับกุม ตำรวจก็แยกสอบปากคำ ซึ่งในส่วนของบอสพอล ยังคงให้ปากคำเหมือนเดิมที่เคยให้สัมภาษณ์ในรายการทางโทรทัศน์ว่า รูปแบบการประกอบธุรกิจ ไม่ใช่แชร์ลูกโซ่
เบื้องต้น ได้เตรียมหลักทรัพย์ที่จะขอยื่นประกันตัวในชั้นศาล แต่รายละเอียดว่าจะเป็นจำนวนเท่าไหร่นั้น ไม่สามารถตอบได้ เนื่องจากทีมทนายความอีกทีมอยู่ระหว่างดำเนินการ ส่วนเหตุผลที่จะเสนอต่อศาลเพื่อขอยื่นประกันตัวนั้น คือ จะมีการรายงานตัวทุก ๆ 5 วัน รวมถึงทุกคนไม่มีเจตนาหลบหนี ส่วนเงินของบอสพอลที่จะนำมาประกันตัว ก็ได้ทำการยืมเพื่อน ๆ ไปแล้ว
แต่ทั้งนี้ หากไม่ได้รับการประกันตัวในชั้นศาล ก็ไม่รู้สึกกังวล เพราะมองว่าเป็นการเปลี่ยนที่นอน แต่บอสพอลได้ฝากให้ดูแลครอบครัวโดยเฉพาะแม่ ในขณะที่ตัวเองยังอยู่ระหว่างถูกคุมขัง
วินาที บอสพอล อมยิ้ม ปฏิเสธตอบสื่อ
ย้อนไปดู เมื่อวานนี้ (16 ต.ค.) ตำรวจสอบสวนกลาง สามารถควบคุมตัว ผู้ต้องหาในคดี The iCon Group ได้ทั้งหมด 18 คน ภายในวันเดียว
เริ่มจากเวลา 16.00 น. ตำรวจสอบสวนกลาง ได้นำหมายจับไปแสดงต่อบอสพอล ขณะเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. โดยระหว่างที่คุมตัว ออกมาผู้สื่อข่าวพยายามที่จะพูดคุย แต่บอสพอลก็ไม่ได้ตอบอะไรสื่อ ก่อนคุมตัวไปหาหลักฐานเพิ่มเติ่มที่ บริษัทดิไอคอน
จนกระทั่ง เวลา 21.34 น. เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พอมาถึง บอสพอล ก็ยังคงไม่ตอบคำถามใด ๆ กับสื่อ เพียงแต่อมยิ้มให้กับสื่อ เหมือนกับว่า ไม่มีความกังวล
ไทมไลน์ ! วันเดียวรวบครบ 18 บอส
(18.00 น.) ส่วน 2 คนแรกที่มาถึงกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง คือ บอสสวยและบอสป็อบ
(18.15 น.) ต่อมาเป็น บอสแซม เจ้าตัว ได้สวมหมวกแก๊ปและใส่หน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า ก่อนจะเดินเข้าไปภายในอาคารอย่างรวดเร็ว ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใด ๆ
(18.27 น.) ตามด้วย บอสวิน
(18.34 น.) และ บอสมิน พีชญา โดยวินาทีที่ บอสมิน มาถึงเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวเข้ามาด้านหลังของอาคาร ก่อนเดินเข้าสู่ห้องสอบสวนทันที โดยไม่ได้มีสื่อไปรุมล้อมเหมือนกับคนอื่น ๆ และดูผ่อนคลายไม่ได้มีความกดดันแต่อย่างใด
(18.42 น.) ต่อมา เป็น บอสเอก หรือ ที่แอบอ้างตัวเป็น หมอ
(18.55 น.) บอสจอย และ บอสอ็อฟ
(19.08 น.) บอสแล็ป
จากนั้น เวลาประมาณ 19.28 น. บอสกันต์ มาพร้อมทนายความโดยรถส่วนตัว ซึ่งการคุมตัวมาครั้งนี้ เจ้าตัวได้ติดต่อขอมอบตัวในสถานที่แห่งหนึ่ง จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปแสดงหมายจับแจ้งข้อหา ก่อนคุมตัวมายังที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ทันทีที่มาถึง กันต์ มีสีหน้าเคร่งเครียด และได้ยกมือไหว้สื่อมวลชนก่อนจะก้มหน้าเดิน โดยไม่ให้สัมภาษณ์ใด ๆ
และช่วงเวลา 20.00 น. บอสปัน และ บอสทอมมี่ ก็ถูกคุมตัวมา
ตามด้วย (20.58 น.) บอสอูมมี่
และช่วงเวลา 22.00 น. ก็ตามมาด้วย บอสโอม บอสแม่หญิง, บอสปีเตอร์ ก่อนปิดท้ายเวลาประมาณเที่ยงคืน บอสโซดา ครบทั้ง 18 คน ทุกคนไม่มีใครให้สัมภาษณ์กับสื่อ
18 บอส ต้องนอนพื้น ยันไม่มีห้องวีไอพี
ภายหลังคุมตัวมา ตำรวจสอบสวนกลาง ก็ได้ทำการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมด พร้อมคัดค้านประกันตัวในชั้นสอบสวน และนำตัวไปยังห้องคุมขังของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
โดยเจ้าหน้าที่ยืนยัน ไม่มีห้องขังวีไอพี มีเพียงการแยกห้องขังชายและห้องขังหญิง แต่ละห้องมีการจำกัดจำนวนผู้ต้องหา และ สำหรับภายในห้องขัง จะไม่มีเตียง ไม่มีที่นอน ต้องนอนบนพื้น ซึ่งใครเคยเห็นห้องขังในทีวี คือ เป็นแบบนั้นเลย จับมาชุดไหนก็ชุดนั้น ไม่มีให้เปลี่ยนชุด
ซึ่งก็สอดคล้องกับภาพ เมื่อเวลา 05.30 น. ที่ ตำรวจได้คุมตัว 18 ผู้ต้องหา ออกจากห้องขัง มาสอบปากคำ ผู้ต้องหาทั้งหมดยังคงใส่เสื้อผ้าชุดเดิม
ขณะเดียวกัน ทางเพจตำรวจสอบสวนกลาง ยังได้มีการโพสต์ภาพ ห้องควบคุมผู้ต้องหา ธี่พัก ขบวนการแชร์ลูกโซ่ จับจริง ขังจริง พร้อมระบุ แชร์ลูกโซ่ คือ การหลอกให้หลงเชื่อเข้าร่วมลงทุนในธุรกิจ ที่อ้างว่ามีผลกำไรที่ดีมากโดยเสนอผลตอบแทนที่สูงลิ่วในเวลาอันสั้นเป็นการจูงใจ โดยมักใช้คำว่า ลงทุนง่าย ผลตอบแทนสูง ใช้เวลาไม่นาน หากชวนคนอื่นได้ก็จะมีโบนัสเพิ่ม ยิ่งหลอกล่อให้คนมาร่วมลงทุนเยอะขึ้น เพราะหวังที่จะรวยได้แบบรวดเร็ว
ยันไม่ทำงานซ้ำซ้อน ดีเอสไอ รับทำเป็นคดีพิเศษ
ส่วนด้านคดีความ พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าว่า การขยายผลความผิดและเครือข่ายผู้ต้องหา เป็นเรื่องที่ตำรวจชุดสืบสวนและสอบสวนจะต้อง ดำเนินการต่อตามขั้นตอน รวมไปถึงการเก็บรวบรวมพฤติการณ์การกระทำความผิด เส้นทางการเงินของตัวผู้ต้องหา แต่ทั้งหมดนี้ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับตัวผู้ต้องหาว่าจะให้ความร่วมมือต่อการสืบสวนของตำรวจมากน้อยเพียงใด แต่ถึงแม้จะไม่มีการให้การที่เป็นประโยชน์ ตำรวจก็จะต้องทำงานต่อให้ได้
ส่วนการที่จะส่งต่อคดีนี้ให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐกล่าวว่า ตำรวจได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับดีเอสไอ เพื่อพิจารณาเงื่อนไขของคดี จำนวนผู้เสียหาย จำนวนทรัพย์สิน ฐานความผิด เพื่อให้การส่งมอบเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ไม่อยากให้สังคมมองว่าเกิดการแย่งงานระหว่างหน่วยงาน เพราะแต่ละหน่วยงานต่างมีหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องในการดูแลที่แตกต่างกัน ยอมรับว่า รู้สึกดีที่แต่ละองค์กรที่มีหน้าที่ได้เข้ามาช่วยกันพิจารณา
ตั้งกรรมการสอบ ตร.ไลฟ์โคช ขายสินค้า
ส่วนกรณีที่ในสื่อโซเชียลส่งต่อภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจใส่เครื่องแบบและให้ข้อมูลความรู้ในเชิงเป็นโคชของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการสอบสวนแล้ว จากนี้จะต้องพิสูจน์ทราบว่าตำรวจคนดังกล่าวมีสถานะเป็นโคช, พรีเซนเตอร์ หรือเกี่ยวพันอะไรกับบริษัทดังกล่าวหรือไม่ และจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดอะไรหรือไม่ หากพบว่ากระทำผิดจริง จะต้องมีการลงโทษทั้งทางวินัยและอาญา เนื่องจากเป็นข้าราชการตำรวจรวมทั้งจะต้องถามว่าตัวของตำรวจรายนี้เอาเวลาที่ไหนไปทำแบบนี้กระทบต่อเวลาราชการ เบียดบังเวลาในการทำงานให้ พี่น้องประชาชนหรือไม่
ทนายตั้ม เผย หมายจับล็อต 2 มากกว่า 100 คน
ขณะเดียวกัน นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เปิดเผยผ่านทาง รายการสนามข่าวออนไลน์ ว่า หลังจากที่ตำรวจดำเนินการจับกุมแก๊งบิกบอสเซ็ตแรก ทั้ง 18 คนแล้ว หลังจากนี้เชื่อว่าตำรวจ อาจจะมีการรวบรวมหลักฐาน ขอศาลออกหมายจับเพิ่มเติมในส่วนของบรรดาทีมแม่ข่าย ดังนั้นบรรดาแม่ข่ายจะเป็นใครก็แล้วแต่ อยากจะมาเป็นพยานให้รีบเข้าพบเจ้าพนักงาน ตำรวจ เพื่อให้ข้อมูลที่สำคัญ หากข้อมูลดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี อาจถูกกันไว้เป็นพยานได้
ส่วนหมายจับล็อต 2 ที่เกี่ยวข้องกับบรรดาแม่ข่าย ที่อาจจะต้องถูกดำเนินคดี หรือถูกออกหมายจับหลังจากนี้ คาดว่าน่าจะมากกว่า 100 คน ซึ่งหากมีผู้ต้องหาเยอะขนาดนี้ อาจจะเป็นคดีแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ที่มีผู้ต้องหาหลักร้อยคน และผู้ต้องมีมีบุคคลที่มีชื่อเสียง ร่วมในการก่อเหตุด้วย
ทนายตั้ม ยังฝากบอกอีกว่า หากใครที่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นแม่ข่าย มีการชักชวนให้ผู้เสียหายมาร่วมลงทุน แนะนำว่าอย่าหลบหนี เพราะหนีไปได้ไม่นาน เพราะขนาดระดับบิกบอสยังไม่กล้าที่จะหลบหนี เพราะท้ายที่สุดก็ต้องถูกออกหมายจับ ต้องถูกจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายอยู่ดี
เจอวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิด
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า พบ วัตถุต้องสงสัยในกระเป๋า วางอยู่หน้าสำนักงานของดิไอคอนกรุ๊ป ซอยรามอินทรา 9 ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน ตำรวจจึงไปตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย บรรจุอยู่ในกล่องพลาสติกสีดำ เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ยางรถยนต์ 2 เส้น ครอบวัตถุต้องสงสัยและกันพื้นที่ ก่อนเข้าเก็บกู้ พบเป็นแท่งกระดาษสีน้ำตาล ยาวประมาณ 10 นิ้ว จำนวน 3 แท่ง พันด้วยสายไฟ พร้อมแยกชิ้นส่วนประกอบ ก่อนพบว่า ไม่ใช่วัตถุระเบิดหรือเป็นระเบิดปลอม
ด้าน พันตำรวจเอก อนันต์ วรสาตร์ ผกก.สน.บางเขน เผยว่า วัตถุต้องสงสัยนี้ มีคนนำมาวางไว้ที่ หน้าสำนักงาน 3 วันแล้ว ส่วนจะเป็นการสร้างสร้างสถานการณ์หรือไม่ ก็ต้องไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35