“ตัวละครลับ” เปิดโปงเส้นเงิน “บอสพอล” จ่ายส่วย “เทวดา” หมื่นล้าน คุ้มภัยกันผี !

ยิ่งขุดยิ่งเจอ ! ตัวละครลับ เปิดโปงดิไอคอน เผยเส้นทางการเงินโยงใยกับหลายฝ่าย ยืนยันมีการจ่ายส่วยให้เทวดากว่าหมื่นล้านบาท 

 

วันที่ 15 ต.ค. 67 คุณจ๋า (นามสมมติ) ผู้ร้องทุกข์ ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า ตนเป็นแฟนคลับของคุณกันต์ กันตถาวร ตนเห็นโฆษณาคอร์สขายของออนไลน์ รู้สึกสนใจอยากได้ความรู้มาขายของ เข้าไปเรียนได้ 2-3 วัน มีการมาแนะนำสินค้าของดิไอคอนให้ซื้อไปขาย

 

 

ตอนแรกตนไม่กล้าเสี่ยงลงทุน แต่เห็นว่ามีเพื่อนซื้อสินค้าอยู่เช่นกัน จึงตัดสินใจลงทุน 300,000 บาท เปิดบิลนำสินค้ามาขาย เมื่อนำสินค้ามาขายจริงกลับไม่สามารถขายได้ ทำให้รู้สึกเครียดจนเกือบตัดสินใจจบชีวิตของตัวเอง

 

 

ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เผยว่าตนไปแจ้งความบอสทั้ง 6 คน ในหลายข้อหา ที่นำความเป็นดาราคนมีชื่อเสียงมาหลอกลวงประชาชน พร้อมกับขอความร่วมมือทนายดังหลายคน มาช่วยกันดูแลผู้เสียหายจนกว่าคดีนี้จะสิ้นสุด ยืนยันว่าทนายทุกคนที่ออกมาทำคดีนี้ไม่มีใครรู้จักกับบอสพอลเป็นการส่วนตัว พร้อมเผยว่าบอสพอลเคยโทรมาพูดคุยเรื่องการเยียวยาผู้เสียหาย หลังจากเป็นข่าวได้ไปตรวจสอบทรัพย์สินของบอสแต่ละคน พบนาฬิกาหรูหลายสิบเรือน มูลค่ารวมกว่าร้อยล้านบาท

 

 

คุณ เอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เล่าว่า ตนมีข้อมูลจากคลิปเสียงจริง เนื่องจากได้รับข้อมูลมาตั้งแต่ก่อนที่คลิปเสียงจะหลุดออกมา โดยเทวดาจะชอบเครื่องเซ่นเป็น USDT มูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านบาท แต่จะต้องให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป อยากจะสื่อสารไปถึงเทวดาว่าอย่างลงมาเล่นกับเรื่องนี้ ถ้ายังไม่หยุดจะเปิดเผยชื่อเทวดาทั้งหมด พร้อมแนะนำให้บอสพอลรีบจัดการเยียวยาผู้เสียหายเบื้องต้นก่อนเพื่อผลัดหนักเป็นเบา

 

 

โค้ชหนุ่ม จักรพงษ์ เมษพันธุ์ เจ้าของเฟซบุ๊ก Money Coach อธิบายว่า USDT เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าผูกกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ได้รับความนิยมเพราะมีความปลอดภัยสูง ตรวจสอบการโอนได้ยากไม่เหมือนกับการโอนเงินทั่วไป วิเคราะห์รายได้ของคนที่หาเงินไปซื้อนาฬิกาหรู โดยแต่ละเรือนมีราคาหลายล้านบาท ผู้ที่จะสามารถซื้อของแบบนี้ได้แบบทันทีจะต้องมีเงินหลักร้อยล้านบาท 

 

 

ส่วนธุรกิจของดิไอคอนมีความก้ำกึ่งระหว่างขายตรงกับนายหน้า เพราะมีทั้งการหาสมาชิกพร้อมกับสอนการตลาดออนไลนืไปด้วย แต่ข้อสังเกตคือมีการเติมสต๊อกสินค้ามากจนผิดปกติ คุณเอกภพกล่าวเสริมว่า การดำเนินธุรกิจของดิไอคอนไม่ได้เน้นการขายสินค้า เป็นเพียงการจ่ายเงินแล้วหาสมาชิกหรือผู้สนใจมาซื้อของ ซึ่งเป็นการซื้อสินค้าแต่ไม่ได้สินค้า อาจมีความผิดข้อหาฉ้อโกง

 

 

คุณปาล์ม (นามสมมติ) หนึ่งในทีมหลังบ้านบริษัทบอสพอล และ คุณเบส (นามสมมติ) ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการตลาดเครือข่าย เผยว่า ตอนแรกเป็นการทำธุรกิจปกติตอนแรกเป็นค้าปลีก แต่มีคนมาร้องเรียนจึงเปลี่ยนเป็นธุรกิจการค้าแบบตรง เนื่องจากการดำเนินธุรกิจที่ไม่ถูกต้องจึงจำเป็นต้องใช้บริการของเทวดา โดยจะต้องมีเครื่องเซ่นเป็นเงินสกุล USDT โดยไปแลกกับทุนจีนสีเทา นอกจากนี้ยังมีการตกแต่งข้อมูลก่อนที่จะมาเสนอกับตำรวจ โดยมีการลดจำนวนสมาชิกลงจาก 6 แสนคน เหลือเพียง 3 แสนคน ซึ่งกระบวนการนี้จะต้องจ่ายเงินเซ่นเทวดารวมกว่าหมื่นล้านบาท โดยมีกุนซือ ธ. เป็นผู้อยู่เบื้องหลังคอยช่วยเหลือให้คำปรึกษาแก่ดิไอคอน ซึ่งจะช่วยให้บริษัทไม่มีความผิดข้อหาหนัก ๆ นอกจากนี้ยังเผยว่าอาจมีใครบางคนอยู่เบื้องหลังที่ใหญ่กว่าบอสพอล

 

ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 17.30-18.00 น.  ทางช่อง 7HD กด 35