“ทนายตั้ม” แจ้งความ ! บอสบริษัทดัง อ้างพบกระทำผิด-หลอกให้ร่วมลงทุน | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

4,044 ครั้ง

11 ต.ค. 2567

แชร์ข่าวไปที่

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ นำหลักฐานเข้าแจ้งความกับผู้บริหารบริษัทดัง อ้างว่าพบพฤติการณ์กระทำความผิดและหลอกให้ร่วมลงทุน ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของบริษัท

ทนายตั้ม แจ้งความ 6 บอส บริษัทดัง

นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เข้าแจ้งความกับ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้ดำเนินคดีกับเจ้าของบริษัทดังและผู้บริหาร รวมทั้งหมด 6 คน ในความผิดฐาน พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และเข้าข่ายความผิด มูลฐานการฟอกเงิน

นายษิทรา เปิดเผยว่า มีผู้เสียหาย 4 คน มาร้องเรียนว่าได้รับผลกระทบจากการลงทุนของบริษัทแห่งนี้ อ้างว่าผู้เสียหายทั้ง 4 คน ได้เข้าพบกับเจ้าของบริษัทภายในห้องระดับวีไอพี เพื่อรับประทานอาหาร และถูกโน้มน้าวให้ร่วมลงทุน ระหว่างนั่งโต๊ะร่วมทานอาหาร เจ้าของบริษัทพยายามนำของแบรนด์เนมมาโชว์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ จนสุดท้ายมีผู้เสียหาย 3 คน หลงเชื่อ และเสียเงินไปคนละ 250,000 บาท ผ่านมา 1 ปี ไม่มีผู้เสียหายคนใดได้รับสินค้าไปจำหน่าย

สคบ.เปรียบเทียบความแตกต่าง ขายตรง-แชร์ลูกโซ่

นอกจากนี้ ทาง สคบ. ยังได้เปรียบเทียบลักษณะธุรกิจขายตรง กับแชร์ลูกโซ่ อย่างชัดเจน โดยธุรกิจขายตรง สังเกตค่าธรรมเนียมสมัครสมาชิก จะชี้แจงรายละเอียดได้และแผนดำเนินธุรกิจชัดเจน ส่วนแชร์ลูกโซ่ ค่าทำเนียมจะสูงและอาจถูกชักชวนให้ซื้อสินค้าไว้เยอะ ๆ ความแตกต่างของคุณภาพสินค้า ถ้าเป็นธุรกิจขายตรง ราคาและคุณภาพจะเป็นไปตามมาตรฐาน

ส่วน แชร์ลูกโซ่ คุณภาพจะมีทั้งดีและไม่ดี การจ่ายค่าตอบแทน ธุรกิจขายตรง รายได้และตำแหน่งมาจากยอดขายสินค้า ส่วนแชร์ลูกโซ่ รายได้หลักมาจากการหาสมาชิกร่วมลงทุน ไม่ได้มาจากการขายสินค้า วิธีการดำเนินธุรกิจ ของธุรกิจขายตรง จะมีตัวแทนขายตรง หรือ ผู้จำหน่ายสินค้าเพื่อสร้างรายได้ แต่แชร์ลูกโซ่ จะเน้นการหาสมาชิกร่วมเครือข่ายมากกว่าการขายสินค้า

เคยส่งหนังสือตรวจสอบบริษัทดัง 3 หน่วยงาน

ก่อนหน้านี้ สคบ. เคยส่งหนังสือให้ 3 หน่วยงานตรวจสอบบริษัทดังกล่าว ตั้งแต่ปี 2561 หลังพบมีข้อสงสัย เรื่องการดำเนินธุรกิจ โดยหลักฐานดังกล่าว รายการเจาะลึกทั่วไทย ทางช่อง 9 อสมท. นำมาเปิดเผย ซึ่งขณะนั้นระดับผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภค ด้านธุรกิจขายตรงสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ได้ทำหนังสือถึงเลขาฯ สคบ. ในขณะนั้น เพื่อรายงานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการทำงานเพื่อให้ตรวจสอบการทำธุรกิจของบริษัทดังกล่าวเข้าข่ายการทำธุรกิจขายตรง สคบ. ปี 2522 หรือไม่ และเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่หรือไม่ เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชน และมีการตรวจสอบพบว่า มีการทำธุรกิจแบบผิดปกติ

ผลตรวจผลิตภัณฑ์ ไม่มี อย. 1 รายการ

ในส่วนผลิตภัณฑ์จากบริษัทที่เป็นข่าว ซึ่งมีการนำเสนอผ่านเว็บไซต์ของบริษัท จำนวน 14 ผลิตภัณฑ์ ล่าสุด นายแพทย์ สุรโชค ต่างวิวัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ของธุรกิจดังกล่าว ได้ขอจดแจ้งเลขทะเบียน อย. อย่างถูกต้อง แต่ก่อนหน้านี้ประมาณเดือนกันยายนที่ผ่านมา เคยมีประเด็นเรื่องของการโฆษณาเกินจริง จึงว่ากล่าวตักเตือนไปแล้ว จากนั้นบริษัทก็แก้ไขถูกต้อง

ซึ่งหลังจากนี้ หากมีผู้ร้องเรียนมาอีก อย. ก็พร้อมตรวจสอบและให้ความช่วยเหลืออย่างเต็ม ส่วนที่มีการออกมาแชร์ผลตรวจสอบเลข อย.ผลิตภัณฑ์ จากธุรกิจใหญ่ ผ่านเว็บไซต์ของบริษัท จำนวน 14 ผลิตภัณฑ์ เป็นยาสีฟัน 1 รายการ, ผลิตภัณฑ์สุขภาพ 13 รายการ, เป็นเครื่องสำอาง 3 รายการ, ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอีก 10 รายการ ในจำนวนนี้ ตรวจเจอ 1 รายการ ที่ไม่พบการแสดงในระบบของ อย. คือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ชนิดเม็ดฟู วิตามินรวม 10 ชนิด ซึ่งก่อนหน้านี้ อย. เคยออกมาเดือนเกี่ยวกับการโฆษณาของผลิดภัณฑ์ ตัวนี้แล้วด้วย

ตัวแทนหอบสินค้า ยืนยันขายได้จริง

ขายได้จริง ตัวแทนหอบสินค้ายืนยัน ใช้แล้วเห็นผลจึงรับมาขายเป็นอาชีพเสริม มั่นใจบริษัทไม่หลอกลวงและไม่มีการชักชวนให้ร่วมลงทุน

นางดา อายุ 50 ปี ตัวแทนระดับดีลเลอร์ ได้เดินทางเข้ามารับสินค้าภายในบริษัทดังกล่าว บริเวณถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร โดยรับกาแฟ และคอลลาเจน มูลค่ารวม 7,500 บาท เพื่อนำไปจำหน่าย

นางดา เผยว่า ตนรู้จักได้ เพราะลองใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัท และรู้สึกว่าได้ผลกับร่างกาย จึงอยากจะรับมาขายต่อ และได้ติดต่อมาที่บริษัท จากนั้นก็เข้ามาเป็นตัวแทนระดับดีลเลอร์ เปิดบิลอยู่ที่ 2,500 บาท เป็นตัวแทนมาได้ประมาณหนึ่งปีแล้ว ทำเป็นอาชีพเสริม โดยมีอาชีพหลักเป็น พนักงานบริษัทเอกชน

ส่วนกรณีของการลงคอร์ส อบรมต่าง ๆ นั้นทางตนเองไม่ได้ลงคอร์ส เข้าร่วมอบรม แต่อย่างใด ซึ่งทางบริษัทมีคอร์สเปิดให้ลงเรียน แต่ไม่ได้บังคับให้ทุกคนต้องลงเรียน สำหรับสินค้าที่ตนเองรับไปขาย ก็ขายได้ตลอด ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นเพื่อนและคนรู้จัก โดยวิธีการขายคือจะให้ลูกค้าสั่งพรีออเดอร์มาก่อน จากนั้นตนจะเข้ามารับสินค้าที่บริษัท เพื่อนำสินค้าไปส่งให้กับลูกค้า ไม่มีการสต๊อกของไว้กับตัว

โดยบริษัทจะมีรูปแบบในการขายสินค้า 2 อย่างคือ ลูกค้าสามารถมารับของไปขายต่อได้เองทันที หรือ สามารถฝากของไว้ที่บริษัท เมื่อมีคนสั่งก็ค่อยเข้ามารับสินค้าภายในบริษัท เพื่อเป็นการป้องกันสินค้าที่จะหมดอายุด้วยเช่นกัน

ส่วนประเด็นเรื่องตัวแทน รับสินค้าไปจำหน่ายแล้วใกล้หมดอายุนั้น สาเหตุมาจากนำไปฝากไว้กับทางบริษัท เพื่อให้ทางบริษัทนำไปจำหน่าย และหวังแบ่งเปอร์เซ็นต์จากยอดขาย หรือ อีกส่วนคือไม่มีเวลาเบิกสินค้าออกมาจำหน่าย จนเป็นต้นเหตุให้สินค้าใกล้หมดอายุ แต่สำหรับตนนั้นเดินทางมาซื้อผลิตภัณฑ์ด้วยตนเอง และขอยืนยันว่าเป็นสินค้าใหม่ มีอายุมากกว่า 2 ปี ถึงจะหมดอายุ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า คิดเห็นอย่างไรกับกรณีที่เป็นข่าว ว่าบริษัทหลอกให้ลงทุนและฉ้อโกงประชาชน นางดา ระบุว่า ตนมองว่าขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ในส่วนของตัวเองยืนยันว่าขายสินค้าได้ และสร้างกำไรให้กับตนเอง เดือนละเกือบ 10,000-20,000 บาท โดยมีแม่ทีมที่ช่วยกันในการขายสินค้า แต่ก็มีบางกลุ่มที่นำเงินมาลงทุน แต่ไม่ขายจึงทำให้ไม่เกิดรายได้

ส่วนตัวยังไม่เคยเจอกับ บอสพอล แต่เคยเจอกับ บอสแซม ซึ่ง บอสแซม จะมาสอนวิธีการใช้ และขายสินค้า แต่ไม่เคยมาชวนให้ร่วมลงทุน ส่วนเหตุผลที่เรียก บอสแซม ว่า บอส เป็นเพราะตนให้ความเคารพและนับถือ หลังจากเกิดกระแสข่าว ขอยืนยันว่าตนเองยังมั่นใจในตัวสินค้า และบริษัทลูกค้าก็ยังสั่งสินค้าเหมือนเดิม

ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35