ผู้เสียหายร้อง ถูกบริษัทดังขายคอร์สออนไลน์สุดล้ำ หลังจากเข้าเรียนมีข้อเสนอสารพัด สุดท้ายทำเสียเงินหลายแสนบาท
วันที่ 10 ต.ค. 67 คุณหมวย ผู้ร้องทุกข์ ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า ตนรู้จักธุรกิจนี้ในช่วงโรคโควิด-19 ระบาด เห็นคอร์สเรียนขายของออนไลน์แล้วสนใจ ทางทีมงานขอบริษัทดังกล่าวโทรมาติดต่อบ่อยจนใจอ่อน ตั้งใจอยากจะเรียนเพื่อนำความรู้มาต่อยอดธุรกิจของตัวเอง
ระหว่างที่เรียนมีคนเข้ามาพูดโน้มน้าวให้นำสินค้าของบริษัทไปขาย โดยเปิดบิลเป็นลำดับขั้นราคา 2,500 บาท จนถึง 250,000 บาท ด้วยความร้อนวิชาจึงตัดสินใจซื้อสินค้ามาขาย นอกจากนี้ยังมีการนำรายชื่อผู้สนใจมาเสนอขาย ซึ่งทางผู้ที่เป็นบอสมักจะยืนยันเสมอว่าธุรกิจนี้ไม่ใช่แชร์ลูกโซ่ สุดท้ายเสียเงินไปหลายแสนบาท
คุณแพร ผู้ร้องทุกข์ เล่าว่า ตนเห็นโฆษณาว่ามีการสอนขายของออนไลน์ ตัดสินใจเข้าไปเรียนเพื่อนำความรู้มาปรับใช้กับธุรกิจของตัวเอง เพื่อขยายตลาดไปในระบบออนไลน์ เมื่อถึงเวลาเรียนมีครูเข้ามาสอน ระหว่างพักมีคนเข้ามาแนะนำขายคอร์สเรียนเพิ่ม ตัดสินใจซื้อเนื่องจากเรียนคอร์สแรกแล้วสามารถทำได้จริง ระหว่างที่เรียนมีดาราที่รู้จักเข้ามาแนะนำเสนอขายข้อมูลของบุคคลอื่น ตนรู้สึกว่าไม่ถูกต้องจึงปฏิเสธไปว่าไม่ว่าง แต่อีกฝ่ายมักจะถามว่าจะจ่ายเงินแบบไหนดี สุดท้ายเสียเงินไปกว่า 50,000 บาท ตนนำสินค้ามาทดลองใช้แต่ไม่เห็นผล จึงตัดสินใจไม่นำมาขายต่อ
คุณแอน ผู้ร้องทุกข์ เล่าว่า ตนรู้จักธุรกิจนี้ผ่านออนไลน์เช่นกัน ตัดสินใจเข้าเรียนคอร์สออนไลน์ผ่านทีมงานที่เรียกตัวเองว่าครูพี่เลี้ยง อยากจะนำความรู้มาต่อยอดขายเสื้อผ้าออนไลน์ หลังจากที่เรียนเห็นว่าผู้สอนทำหน้าที่ได้ดี ดูมีความน่าเชื่อถือเนื่องจากมีพิธีกรชื่อดังมาร่วมด้วย และผู้สอนได้แนะนำสินค้าให้ซื้อไปขายต่อเช่นกัน ตนเจอสถานการณ์แบบเดียวกับทั้งสองคน ทำเสียเงินไปหลายแสนบาท แม่ทีมของตนพยายามหาวิธีระบายสินค้า แม่มีคนที่ระดับสูงกว่ามาบอกว่าให้ทำตามแนวทางเดิมคือให้คนมาเปิดบิลเยอะ ๆ
ทนายกุ้ง อำนวยพร มณีวรรณ์ ทีมทนายคลายทุกข์ เผยว่ามีผู้เสียหายอีกจำนวนมาก ที่ถูกบริษัทดังกล่าวหลอกเงิน สูญเสียทั้งบ้านทั้งรถเสียทั้งสุขภาพจิต จากข้อมูลของผู้เสียหายวิเคราะห์ว่าธุรกิจนี้ไม่ใช่การขายตรง แต่มีลักษณะคล้ายกับแชร์ลูกโซ่มากกว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนซึ่งอาจมีความผิดหลายข้อหา พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ผู้เสียหายคนอื่นไปแจ้งความได้ที่สถานีตำรวจใกล้บ้านได้เลย
ทนายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม วิเคราะห์ว่ากรณีนี้อาจจะเป็นแชร์ลูกโซ่รูปแบบใหม่ ที่อาศัยความน่าเชื่อถือของดาราพิธีกร อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยตรวจสอบธุรกิจดังกล่าว ก่อนที่จะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศไปมากกว่านี้ การตรวจสอบจะต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเข้าไปตรวจสอบว่ามีสินค้าจริงหรือไม่ การดำเนินคดีกับดาราที่เกี่ยวข้อง จะต้องตรวจสอบเส้นทางการเงินว่าได้มาโดยวิธีใดบ้าง
ทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต ทนายความ กล่าวว่า ต้องแยกระหว่างแชร์ลูกโซ่กับขายตรงให้ออก การขายตรงจะต้องทำให้สินค้าถึงมือผู้บริโภคมากที่สุด แต่ถ้าเข้าไปแล้วพบว่าเป็นธุรกิจที่มุ่งเน้นการหาลูกข่ายมากกว่าการขายสินค้า ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นแชร์ลูกโซ่ เคยเกิดกรณีลักษณะนี้หลายครั้ง ส่วนใหญ่จะใช้จิตวิทยาหมู่ที่มีหน้าม้ามาช่วยกระตุ้นให้เสียเงินมากขึ้น การตรวจสอบดาราที่มีส่วนมีหลายแบบทั้งเป็นแค่พรีเซ็นเตอร์ ผู้ได้รับส่วนแบ่งนอกจากค่าตัว ผู้ที่มีบทบาทในบริษัท ซึ่งจะมีความผิดที่แตกต่างกัน
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 17.30-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม