ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวานนี้ (8 ต.ค.) มีมติเห็นชอบแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง กระทรวงมหาดไทย 25 นาย โดยให้ นายโชตินรินทร์ เกิดสม พ้นจากตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทยและให้มาดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำให้มีชาวบ้านบางส่วนไม่พอใจนำป้ายผ้าไปแขวนประท้วงผู้ว่าฯ คนใหม่
ป้ายปริศนาโผล่ต้าน ผู้ว่าฯ คนใหม่
ป้ายผ้าปริศนาต่อต้านการแต่งตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาคนใหม่ ถูกนำไปแขวนไว้ตามใต้ป้ายบอกทาง ศาลาริมถนนหลายสาย และบนสะพานลอย ในพื้นที่อำเภอเมืองสงขลา อำเภอสิงหนคร อำเภอสทิงพระ และอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ข้อความภายในป้าย เช่น สงขลาไม่ใช่ที่ทดลองของผู้ว่าฯ อยู่ชุมพรชาวบ้านเอือมระอา สงขลาไม่เอาโชตินรินทร์ ภาพถ่ายป้ายปริศนาดังกล่าว ถูกแชร์ผ่านโลกออนไลน์ และวิพากษ์วิจารณ์ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาคนใหม่ ชาวจังหวัดสงขลาเห็นว่าผู้ที่มาดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา จะมาทำหน้าที่ ได้ 1-2 ปี เพื่อรอเกษียณอายุราชการเท่านั้น ทำให้จังหวัดขาดการพัฒนาพื้นที่
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา ตรวจสอบจุดที่มีการติดป้ายผ้ามีทั้งหมด 18 จุด ในอำเภอสิงหนคร ซึ่งทางการจังหวัดสงขลาได้ให้เจ้าหน้าที่ปลดป้ายผ้าดังกล่าวออกแล้ว แต่ยังมีบางจุดที่ยังมีป้ายผ้าหลงเหลือติดอยู่ ส่วนอำเภอสิงหนครได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาคนที่มาติดป้ายผ้าต่อต้านดังกล่าวแล้ว ส่วนสาเหตุที่มีการติดป้ายผ้าต่อต้านผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาคนใหม่ตามจุดต่าง ๆ นั้น ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาคนก่อน ๆ ในการแก้ไขปัญหาทะเลสาบสงขลา รวมทั้งการย้ายผู้ว่าฯ ที่ไม่ใช่คนสงขลา มาแก้ปัญหาในพื้นที่
จตุพร ซัด ณัฐวุฒิ ทรยศ-ตระบัดสัตย์ซ้ำสอง
ข้ามไปดูเรื่องของคู่หูที่เคยเป็นแกนนำ นปช. แต่ตอนนี้ทั้ง นายจตุพร พรหมพันธุ์ และ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กลับยืนอยู่คนละข้าง หลังจากที่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แต่งตั้ง นายณัฐวุฒิ นายณัฐวุฒิ เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี โดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์เมื่อคืนวันที่ 8 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมาว่า การตั้งนายณัฐวุฒิ เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ว่า คงไม่สามารถทำให้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รอดพ้นจากวิบากกรรมการเมืองได้
คาดว่าการแต่งตั้ง นายณัฐวุฒิ หวังให้มาเผชิญหน้ากับการชุมนุมบนถนน การที่ นายณัฐวุฒิ มารับตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯ เท่ากับเสียคำพูดสองขยัก ครั้งแรกถ้าไปร่วมกับรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน ตามคำชวนก็จะตระบัตสัตย์ครั้งเดียว แต่วันนั้นทำตัวหล่อขอเป็นคนยืนส่ง คนจึงสดุดีจุดยืน แต่วันนี้กลับไปร่วมขบวนการกลืนน้ำลายข้ามขั้ว จึงเป็นคนโกหกสองขยัก ตระบัดสัตย์ ทรยศต่อความไว้เนื้อเชื่อใจของประชาชน ยืนยันว่ไม่ได้อิจฉา นายณัฐวุฒิ เพราะหันหลังให้เพื่อไทย แยกทางกับ นายทักษิณ เบ็ดเสร็จเด็ดขาด จะไปอิจฉาทำไม นอกจากสมเพชเวทนา
จตุพร จี้ ณัฐวุฒิ แจงปมเงินบริจาค 42 ล้านบาท
นายจตุพร ยังกล่าวว่า เมื่อครั้งเป็นแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นายณัฐวุฒิ มีหน้าที่ดูแลเงินบริจาคม็อบปี 2552-2553 จึงควรออกมาอธิบายข้อเท็จจริงประเด็นที่ว่า มีใครอมเงิน 42 ล้านบาท หรือไม่ โดย ตน กับ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธาน นปช. ไม่ได้ดูแลเรื่องเงิน แต่ตลอดช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ถูกยัดข้อหาทุกวัน จึงหวังให้ นายณัฐวุฒิ คนดูแลเงินได้ชี้แจง ซึ่งเรื่องอมเงินบริจาคเป็นคนเลวที่สุด ยืนยันว่า ไม่ได้ใส่ร้ายอะไรใคร หากเห็นว่าไม่ใช่ ให้ออกมาเถียง พร้อมเรียกร้องให้ นายณัฐวุฒิ ออกมาแถลง
สำหรับ นายจตุพร และ นายณัฐวุฒิ ทั้งคู่เคยร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กันมานานตั้งแต่อยู่กับพรรคไทยรักไทย เรื่อยมาจนถึงพรรคเพื่อไทย จนปี 2549 หลังรัฐประหารทั้งคู่ขึ้นมาเป็นแกนนำต่อต้านการรัฐประหาร หรือ กลุ่ม นปช. ซึ่งช่วงปี 2555 นายณัฐวุฒิ ได้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก่อนที่ในปี 2561-2562 ทั้งคู่จะแยกย้ายออกจากพรรคเพื่อไทย โดย นายณัฐวุฒิ ย้ายไปอยู่กับพรรคไทยรักษาชาติ ส่วน นายจตุพร ย้ายไปอยู่กับพรรคเพื่อชาติ ก่อนที่ปี 65 นายณัฐวุฒิ จะย้ายกลับมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย เป็นรอบที่ 2 ในตำแหน่งผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย แต่หลังจากพรรคเพื่อไทยนำพรรคร่วมไทยสร้างชาติเข้าร่วมรัฐบาล นายณัฐวุฒิก็ประกาศยุติบทบาท ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย จนสุดท้ายเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม นางสาวแพทองธาร แต่งตั้งให้ นายณัฐวุฒิ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ส่วน นายจตุพร หลังจากออกจากเรือนจำเมื่อปี 64 ปัจจุบันออกมาตั้งคณะหลอมรวมประชาชน วิพากษ์วิจารณ์ตัดขาดความสัมพันธ์กับ นายทักษิณ ชินวัตร
สมคิด มอง ณัฐวุฒิ เหมาะไกล่เกลี่ยม็อบ
ด้านนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ยอมรับว่า กรณีที่นายกรัฐมนตรี แต่งตั้งนายณัฐวุฒิ เข้ามาเป็นที่ปรึกษาของนายกฯ อาจจะให้มาช่วยประสานไกล่เกลี่ยกับกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย เพราะนายณัฐวุฒิ เป็นม็อบเก่า ถือเป็นมือโปรในเรื่องนี้ ก็ต้องให้ดูแล ไปคุยกับม็อบ แต่ยังไม่ได้คุยกันว่า นายณัฐวุฒิ จะมาช่วยตน ดูแลม็อบหรือไม่ ต้องรอให้นายกฯ กลับมาจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวก่อน
สมคิด เมิน ไพบูลย์ขู่แฉจุดจบรัฐบาลพรุ่งนี้
ส่วนกรณีที่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ออกมาเปิดเผยว่า วันพรุ่งนี้ (10 ต.ค.) จะเป็นจุดเริ่มต้นและนำไปสู่จุดจบของพรรคแกนนำรัฐบาลนั้น นายสมคิด เชื้อคง ระบุว่า พรรคเพื่อไทยไม่มีความกังวล อีกทั้งยังรู้สึกขำกับการให้ข้อมูลว่า จะเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีและยุบพรรคเพื่อไทย ข่าวดังกล่าวทำให้ประชาชนเกิดความสับสน มองว่าไม่มีเหตุใดที่จะทำให้เกิดเรื่องในวันพรุ่งนี้ (10 ต.ค.)
สามารถ เชื่อเป็นไปได้ เปลี่ยนตัวนายกฯ
ขณะที่ นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ยืนยันว่า การแถลงข่าววันพรุ่งนี้จะเป็นเหตุที่จะสะเทือนการเมืองแน่นอน ไม่มีมวยล้มต้มคนดูแน่นอน แต่จะบอกว่า นี่แค่ Episode 1 ถ้าพรรคเพื่อไทยจะขำอะไรก็ตั้งรับให้ดี ส่วนเรื่องนายกฯคนละครึ่ง ไม่มีหรอก มีแต่เปลี่ยนนายกฯ ในมุมของตน เชื่อว่าการเปลี่ยนนายกฯ มีความเป็นไปได้
แล้วรู้สึกว่า ลุงป้อม ช่วงนี้ แข็งแรงผิดปกติ ส่วนกรณีที่ พลเอก ประวิตร จะมาประชุม หรือไม่มาถือว่าเป็นสิทธิ์ แต่หากผิดข้อบังคับ ก็ต้องถูกดำเนินการตามระเบียบ ถ้าอยากเห็นลุงป้อมในสภา ก็ต้องเลือกท่านเป็นนายกฯ เพราะหากเป็นนายกฯ ก็ต้องมาสภาฯ อยู่แล้ว
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35