ยายถูกอดีตผู้ใหญ่บ้าน สร้างบ้านทับทางสาธารณะ ที่อยู่ข้างที่ดินของตัวเอง ทำที่ดินผืนดังกล่าวกลายเป็นที่ดินตาบอด แถมมีคนบอกให้นำที่ของตัวเองไปเป็นทางสาธารณะแทน
วันที่ 1 ต.ค. 67 คุณแม่อุ่น ผู้ร้องทุกข์ ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า ตนได้รับที่ดินมรดก 14 ไร่ มาจากพ่อเมื่อปี 2518 จนกระทั่งปี 2530 มีการสร้างถนนสาธารณะผ่านที่ดินผืนดังกล่าว
จากนั้นมีอดีตผู้ใหญ่บ้านมาสร้างบ้านอยู่ใกล้ ๆ แล้วมีบ้านอีกหลายหลังมารุกทางสาธารณประโยชน์ที่อยู่ด้านข้างที่ดินของตน ทำให้ที่ดินผืนนี้กลายเป็นที่ดินตาบอด ตนพยายามติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ได้รับคำตอบว่าหนังสือมอบอำนาจไม่ครบถ้วน
คุณ นิรันดร์ เกแง้ว ผู้ร่วมก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เล่าต่อว่า ได้สอบถามชาวบ้านในพื้นที่ พบว่ามีทางเข้าออกสาธารณะจริง แต่ถูกรุกที่ตั้งแต่ปี 2541 โดยอดีตผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่ง แล้วหลอกเงินยายดอกไม้ 30,000 บาท อ้างว่าจะช่วยเปิดทางอำนวยความสะดวกให้ ยายดอกไม้ต้องต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมมาตลอด เนื่องจากเหตุการณ์นี้ทำให้ที่ดินผืนดังกล่าวกลายเป็นที่ดินตาบอดเข้าออกไม่ได้ นอกจากนี้ยังมีคนมาบอกยายดอกไม้ว่าให้นำที่ดินของตัวเองไปเป็นทางสาธารณะแทน
คุณอุ๋ม หลานสาวของยายดอกไม้ เล่าว่า มีเจ้าหน้าที่มารังวัดที่ดินผืนดังกล่าว ที่คุณยายดอกไม้อ้างว่ามีการรุกถนนสาธารณะ แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีการบุกรุกจริงหรือไม่ พร้อมยืนยันว่าเคยเห็นทางสาธารณะที่คุุณยายอ้างถึงเช่นกัน โดยถนนดังกล่าวพาดผ่านเลยที่ดินผืนนี้ไป ขณะนี้อยู่ในระหว่างการรวบรวมเอกสารเพื่อดำเนินการหาข้อเท็จจริงต่อไป
คุณ ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อัยการอาวุโสสำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า กรณีนี้สามารถใช้ระวางแผนที่ผืนใหญ่มาช่วยแก้ปัญหา ว่าข้างที่ดินผืนดังกล่าวมีทางสาธารณะจริงหรือไม่ ส่วนการรังวัดเขตที่ดินก็สามารถทำได้ไม่ยาก เมื่อวัดแล้วจะทราบทันทีว่าถนนสาธารณะหายไปไหน ถ้าหากบ้านหลังดังกล่าวมาสร้างทับถนนสาธารณะก็จะมีความผิดทางกฎหมาย และอาจเข้าข่ายร่วมกันทุจริต จากการมาสร้างบ้านทับถนนแล้วเบี่ยงเส้นทางถนนมาที่บ้านตัวเองแทน ซึ่งสามารถแจ้งความดำเนินคดีได้
คุณ สุพจน์ ไชยคำ นายกเทศมนตรีตำบลโคกกกม่วง ชี้แจงว่า เมื่อปี 2530 ได้มีการตัดถนนผ่านที่ดินผืนดังกล่าวจริง หลังจากนั้นได้มีคนมาปลูกบ้านในบริเวณนี้ระยะทางรวม 400 เมตร แต่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้รับความเดือดร้อนเพราะไม่ค่อยมีคนใช้เส้นทางนี้แล้ว มีเพียงครอบครัวของยายดอกไม้ที่เดือดร้อน แต่ยังสามารถเดินทางเข้าออกผ่านเส้นทางที่เหลือได้ ตนพร้อมช่วยเหลือดำเนินการหาข้อเท็จจริงต่อไป
พันจ่าโท คนึง พลูพิพิธ นายอำเภอโพนทอง กล่าวว่า หลังจากได้ลงพื้นที่แล้วพบว่าการรังวัดยังไม่สามารถทำได้ เนื่องจากติดปัญหาเรื่องหนังสือมอบอำนาจ เนื่องจากยายดอกไม้โอนที่ดินให้ลูกชายที่ทำงานอยู่ต่างประเทศ ซึ่งสามารถพิสูจน์ได้ว่าบ้านหลังดังกล่าว มาสร้างทับทางสาธารณะจริงหรือไม่
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 17.30-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม