ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ไม่รอด แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์ ตำรวจ ปคบ.บุกจับคาบ้านพัก ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงและข้อหา พ.ร.บ.คอม ถ้ายังจำกันได้เรื่องนี้เริ่มมาจากผู้ใช้โซเชียลรายหนึ่ง นำดอกกุหลาบทองคำและจี้ไอ้ไข่ทองคำ ที่ซื้อมาจากร้านแม่ตั๊ก หวังจะนำมาขาย แต่ปรากฏว่า ทางร้านไม่รับซื้อ
รวบแล้ว แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์ บุกจับคาบ้าน
ผู้ใช้โซเชียลรายหนึ่ง โพสต์คลิป ซื้อดอกกุหลาบทองคำและจี้ไอ้ไข่ทองคำ มาจากร้านขายทองออนไลน์ชื่อดัง หวังจะนำมาขายแต่เมื่อไปถึงร้านทอง ปรากฏว่าทางร้านไม่รับซื้อ เนื่องจากทองไม่มียี่ห้อ ไม่ได้เปอร์เซ็นต์และไม่มีใบรับรอง ก่อนที่จะมีผู้เสียหายหลายรายออกมาแฉต่อ ๆ กัน
จากนั้นไม่นาน นางสาวกรกนก สุวรรณบุตร แม่ตั๊ก และ นายกานต์พล เรืองอร่าม ป๋าเบียร์ ก็ออกมา เปิดตัวยอมรับว่าเป็นเจ้าของทอง พร้อมยอมรับผิดชอบ แต่ยืนยันว่าไม่ใช่ทองปลอม และถ้าจะเอาทองมาคืน ต้องเอาของแถมมาด้วย ถึงจะได้เงินครบตามที่ซื้อ แต่ผลปรากฏว่า บางรายก็ไม่ได้ราคาเต็มจำนวน ก่อนพากันปาทองใส่หน้าร้าน
นอกจากนี้ยังไปแจ้งความในข้อหาฉ้อโกงประชาชน ขณะเดียวกันมีการ เรียกร้องตรวจสอบเส้นทางการเงิน โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น สรรพากร ปปง. รวมไปถึง ตำรวจ บก.ปคบ. ได้เข้ามาตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ด้วย
สคบ. ส่งหนังสือเรียกครั้ง 2 แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์
จนกระทั่งล่าสุดวันนี้ เวลา 10.30 น. ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. เดินทางไปยังบ้านของแม่ตั๊กป๋าเบียร์ ย่านรามอินทรา กรุงเทพฯ เพื่อส่งหนังสือเรียกครั้งที่ 2 หลังจากส่งหนังสือ เรียกครั้งแรกไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา แต่กลับให้ตัวแทนโทรมาเลื่อนนัด โดยระบุเหตุผล อ้างว่าต้องจัดการคืนสินค้าและคืนเงินให้ผู้เสียหายเรียบร้อยก่อน ส่วนการส่งหนังสือเรียกครั้งนี้ให้ไป พบในวันที่ 4 ตุลาคม หากไม่ไปตามหนังสือเรียกก็จะมีโทษ จำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 20,000 บาท
นาทีบุกจับ แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์ คาบ้านพัก
แต่ปรากฏว่าไม่นาน (11.00 น.) พันตำรวจโท วิศรุต บางน้ำเค็ม สารวัตรสอบสวน กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ได้นำหมายค้นศาลอาญามีนบุรี เข้าตรวจค้นบ้านแม่ตั๊กและป๋าเบียร์
โดยเจ้าหน้าที่ได้ตะโกนผ่านรั้วบ้าน เพื่อแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ พร้อมชูบัตรประจำตัวของตัวเอง เพื่อขอเข้าตรวจค้น ก่อนที่ทนายความส่วนตัวของแม่ตั๊กจะออกมารับหมาย ก่อนมีการอ่านหมายต่อหน้าทนายความ พร้อมกล่าวว่า วันนี้ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้เข้าตรวจค้นในบ้าน และเก็บเอกสารหลักฐานในคดี
ตำรวจยึดปืน 4 กระบอก - ตู้เซฟ
จากนั้น ทนายความ ได้เปิดประตูรั้วอัตโนมัติให้เฉพาะเจ้าหน้าที่ชุดทำงานประมาณ 15 นาย เข้าตรวจค้น ซึ่งหลังจากที่ตำรวจเข้าไปก็ได้มีการแสดงความบริสุทธิ์ใจต่อหน้าทนายความ ว่าไม่ได้มีการพกพาอาวุธปืนเข้าไปภายในบ้าน
ภายหลังตรวจค้น เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดของกลางเป็นปืนยาว 4 กระบอก บรรจุอยู่ในกระเป๋า ซึ่งจะต้องนำไปตรวจสอบว่ามีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ นอกจากนี้ยังพบตู้เซฟ 1 ตู้ ได้ยึดไปตรวจสอบเช่นเดียวกัน
ก่อนคุมตัวทั้งคู่มาที่อาคารกองบังคับการปราบปราม ขณะที่แม่ตั๊กลงจากรถ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบว่าจะให้การอย่างไร แต่เธอปฏิเสธที่จะตอบคำถามต่อสื่อมวลชน เพียงยืนยันว่า ไม่เครียด
ส่วน ป๋าเบียร์ สามีของแม่ตั๊ก บอกว่า เดี๋ยวผมมาชี้แจงให้เดี๋ยวให้การกับเจ้าหน้าที่เสร็จจะมาชี้แจง ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าผู้เสียหายจะยังคืนทองได้เหมือนเดิมหรือไม่ คุณเบียร์ บอกว่า เหมือนเดิม ๆ จากนั้นทั้งคู่ถูกคุมเข้าห้องสอบสวน และอยู่ระหว่างสอบปากคำ
หมายจับ แม่ตั๊ก - ป๋าเบียร์ โดน 4 ข้อหา
เบื้องต้นถูกแจ้ง 4 ข้อหา 1. ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, 2. ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูล คอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะ เกิดความเสียหายแก่ประชาชน, 3. ร่วมกันโฆษณาโดยใช้ข้อความที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค, 4. ร่วมกันเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ ปริมาณ หรือ สาระสำคัญประการอื่นอันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ ไม่ว่าจะเป็นของตนเองหรือผู้อื่นโฆษณาหรือใช้ฉลากที่มีข้อความอันเป็นเท็จ หรือข้อควรรู้อยู่แล้วว่าอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้
แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์ ปฏิเสธทุกข้อหา ฝากขังพรุ่งนี้ !
ด้าน พลตำรวจตรี วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการ คุ้มครองผู้บริโภค เปิดเผยว่า วันนี้ตำรวจได้ขอศาลอนุมัติ หมายจับ 3 หมาย และหมายค้นอีก 2 จุด จนสามารถจับกุมผู้ถูกกล่าวหาไว้ได้ เบื้องต้นทั้งคู่ยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและไม่ขอให้การใด ๆ
อย่างไรก็ตาม คดีนี้เป็นคดีที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน แม้ว่าขณะนี้จะมีผู้เสียหายมาร้องทุกข์ 2 คน แต่ก็มีผู้เสียหายจำนวนมากที่ยังไม่ได้มาร้องทุกข์กับตำรวจ ดังนั้นพนักงานสอบสวนจะคัดค้านการประกันตัว และคาดว่าจะฝากขังต่อศาลอาญาในวันพรุ่งนี้ ส่วนการประกันตัวให้เป็นดุลพินิจของศาล
ส่วนพยานหลักฐานที่ตรวจยึดได้จากบ้านของแม่ตั๊ก ทั้งตู้เซฟและปืน 4 กระบอก ตรวจสอบเบื้องต้นเป็นอาวุธปืนที่มีทะเบียน โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถได้เก็บรวบรวมหลักฐานเอกสารได้ พอสมควร แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
ขณะเดียวกัน สามารถตรวจยึดทองได้บางส่วน ส่วนทรัพย์สินอื่น ๆ เช่น รถหรูหลายคัน ที่มีกระแสข่าวว่าถูกขนย้ายไปแล้วนั้น ยืนยันว่าทางตำรวจได้มีการเฝ้าสังเกตการณ์ ติดตามทรัพย์ตั้งแต่ก่อนที่หมายจับจะออกอยู่แล้ว ตลอดจนมีการเฝ้าระวังตามแนวชายแดน ซึ่งเบื้องต้น ยังไม่พบว่า มีการยักย้ายถ่ายเทรถหรูออกนอกประเทศ
ทั้งนี้จะรายงานคดีไปยัง ปปง. เพื่อให้ดำเนินการสืบเส้นทางการเงินและทรัพย์สินที่ได้มาจากการ กระทำความผิด เนื่องจากคดีนี้เป็นมูลฐานความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน
หลังจากนี้ตำรวจยังอยู่ระหว่างขยายผลบัญชีแถว 2 และ 3 รวมถึง บุคคลที่มาร่วมรีวิว เพื่อออกหมายเรียกมาสอบปากคำว่า มีส่วนรู้เห็นหรือไม่
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นการไลฟ์รีวิวร่วมกับเข้าข่ายความผิดร่วมกันโฆษณาโดยใช้ข้อความที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ยันตำรวจสนิท แม่ตั๊ก ช่วยวิ่งคดีไม่ได้
ส่วนที่ปรากฎภาพตำรวจสนิทสนมกับแม่ตั๊ก ยืนยันว่า ผู้บังคับบัญชาสั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว หากคนไหนมีส่วนเกี่ยวข้องก็ให้ดำเนินการทั้งทางวินัยและทางอาญา และยืนยันภาพดังกล่าวไม่ กระทบต่อการดำเนินคดี เพราะผู้บัญขาการตำรวจสอบสวนการสั่งการให้ดำเนินคดี ไปตามพยานหลักฐาน และให้เกิดความเป็นธรรม
นำกำลังบุกค้นร้านทอง แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์
ยังไม่จบเพียงเท่านั้น วันนี้เจ้าหน้าที่ ปคบ.อีกชุด ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นห้างทองเคทูเอ็น ถนนหทัยราษฏร์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม. โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาตรวจสอบนานกว่า 3 ชั่วโมง ก่อนนำกล่องพัสดุขนาดใหญ่ 3 ลังออกจากร้าน ท่ามกลางบรรยากาศประชาชนมาคืนทองจำนวนมาก
โดยเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า ได้เข้าเก็บรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดี ทั้งทองคำและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม ยืนยัน ว่ายังไม่มีการอายัดเงินหรือทองคำภายในร้านใด ๆ
ส่วนการตรวจสอบทองครั้งนี้ เป็นเพียงการนำทองที่เกี่ยวข้องในคดีไปตรวจสอบเพิ่มเติมตามขั้นตอน เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดีเท่านั้น โดยทางร้านยังคงเปิดให้บริการตามปกติลูกค้ายังสามารถนำทองมาขายคืน ได้เช่นเดิม
ลูกค้าบินตรงจากกัมพูชา หวังขายทองคืน
ขณะเดียวกัน ทีมข่าวได้ไปพูดคุยกับ นางสาววิใลวรรณ ศรีประสงค์ อายุ 37 ปี พร้อมเพื่อนอีก 2 คน บอกว่า บินตรงมาจากประเทศกัมพูชาเพื่อนำทองมาขายคืน โดยเสียค่าเดินทางขาเดียวกว่า 5,000 บาท ตั้งใจจะนำปี่เซียะที่ซื้อมาในราคา 33,000 บาทมาขายคืน ซึ่งตั้งแต่ซื้อไปรู้สึกว่าปี่เซียะมีความเปราะบางมาก
ในตอนนั้นได้ติดต่อทางร้านเพื่อขายคืน แต่ทางร้านตีราคารับซื้อคืนให้เพียง 10,000 บาท ซึ่งทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจ แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ จนกระทั่งมาวันนี้ที่เป็นข่าวจึงรีบมา แต่ไม่สามารถรับคิวได้ทัน โดยทางร้านปฏิเสธและให้เดินทางมาอีกครั้งในวันถัดไป ส่วนผลการตรวจทองคำ ถึงความบริสุทธิ์ จะออกผลภายในสัปดาห์นี้
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35