หัวร้อน ! เขวี้ยงทองคืน “แม่ตั๊ก” ลั่นปล่อยเป็นเวรกรรม | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

152 ครั้ง

25 ก.ย. 2567

แชร์ข่าวไปที่

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - พี่น้องประชาชนยังคงเดินทางไปคืนทองที่ร้าน แม่ตั๊ก เป็นวันที่ 2 จนทางร้านเพิ่มให้ถึง 300 คิว บางคนหัวร้อน เขวี้ยงทองหน้าร้าน ลั่น ใครอยากได้ เอาไปเลย เสียเวลารอ

เขวี้ยงทองคืน แม่ตั๊ก ลั่นปล่อยเป็นเวรกรรม

ใครจะเอา ก็เอาไปเลย เป็นคำพูดของ นายสิทธิศักดิ์ อายุ 37 ปี หนึ่งในลูกค้าที่นำทองมาขายคืน เผยว่า เพื่อเดินทางมาจากย่านพระราม 4 ต่อคิวตั้งแต่เวลา 09.00 น. เพื่อนำทองของแม่ที่ซื้อเก็บไว้ตั้งแต่ปี 2564 ราคา 29,992 บาท แต่เมื่อรอคิวแล้ว ทราบมาว่าจะต้องนำปี่เซียะมาด้วยถึงจะได้เงินคืนเต็มจำนวน แต่ตนไม่ได้พกมาด้วย เนื่องจากแม่ตนจำไม่ได้ว่านำปี่เซียะไปไว้ที่ไหน จึงตัดสินใจโยนทิ้ง เพราะรอไปก็เสียเวลา ซึ่งตนยังไม่ได้เข้าไปพูดคุยกับทางพนักงานแต่อย่างใด แต่คาดว่าน่าจะไม่ได้เงินคืน

ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า อยากให้เจ้าของร้านทองดังกล่าวโดนลงโทษอะไรหรือไม่ นายสิทธิศักดิ์ ระบุว่า อยากให้โดนในเรื่องของฉ้อโกงประชาชน แต่ส่วนตัวยืนยันว่าจะไม่มีการฟ้องดำเนินคดีอะไรทั้งสิ้น ปล่อยให้เป็นเรื่องของเวรกรรม

ส่วนคนที่คืนทองและได้รับเงินก็มี อย่าง คุณวันดี บอกว่า เมื่อปี 2564 ซื้อทองมาในราคา 33,332 บาท วันนี้เดินทางมาขายคืน ได้เงินกลับมาทั้งหมด 33,012 บาท โดนหักไปนิดหน่อย เนื่องจากทองเม็ดเล็ก ๆ หายไป 2 อัน โดย พนักงานร้านก็ไม่กดราคา แถมยังคุยดีมากด้วย ตอนนี้ก็ไม่รู้สึกติดใจอะไรแล้ว

ลูกค้าแห่ขายทองคืน เพิ่มเป็น 300 คิว

ส่วนบรรยากาศที่หน้าร้าน ถนนหทัยราษฎร์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพหมหานคร ตั้งแต่ช่วงเช้า มีลูกค้าจากทั่วทุกสารทิศเดินทางมาเพื่อนําทองมาขายคืนเป็นวันที่ 2 หลังจากวานนี้ (24 ก.ย.) มีลูกค้าแห่หอบทองมาขายคืนจนคิวทะลุไปถึง 200 คิว ซึ่งในวันนี้ทางร้านจะขยายคิวเพิ่มเป็น 300 คิว และคาดว่าจะสามารถเคลียร์ลูกค้าได้แล้วเสร็จประมาณ 19.00 น. รวมถึงการจราจรที่หน้าร้าน เลนซ้ายสุด ก็ติดขัดเป็นระยะทางยาวประมาณ 500 เมตร

เปิดผลตรวจ ลูกปัดทองคำ - ปี่เซียะทองคำ

ขณะเดียวกันวันนี้ รายการของ คุณหนุ่ม กรรชัย ได้ส่งทองที่ลูกค้าซื้อจากร้านแม่ตั๊ก ไปตรวจสอบหาปริมาณทองคำและเปอร์เซ็นต์ทองคำ ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา โดยในวันนี้ผลตรวจสอบทองคำออกมาแล้ว พบว่า ลูกปัดในกำไลข้อมือปี่เซียะ เป็นทองคำ 71.58 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าเป็นทองไม่ถึง 18 เค ปริมาณทองน้อยมาก และไม่ใช่ทองคำ 99.99 เปอร์เซ็นต์ สร้อยทองที่เป็นของแถม ลูกค้าซื้อมา 31,999 บาท พบเป็นทองคำ 92.08 เปอร์เซ็นต์ ไม่ถึงตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ที่ต้องเป็นทองคำ 92.50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมีความผิดตามกฎหมาย

ส่วนปี่เซียะทองคำ ที่บอกไว้ 99.99 เปอร์เซ็นต์ ตรวจสอบพบเป็นทองคำ 99.83 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์

อ่วม ! เข้าข่าย ฉ้อโกง - พ.ร.บ.คอมฯ

ด้าน พลตำรวจตรี วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เผยว่า จากการตรวจสอบจากไลฟ์สดของร้านที่บอกว่าเป็นทองแท้ 99.99 แต่กลับไม่รับซื้อนั้น เข้าข่ายหลายฐานความผิด อาทิ เข้าข่ายฉ้อโกง, ขายสินค้าไม่มีคุณภาพ, ตั้งราคาเกินจริงและโฆษณาทำให้หลงเชื่อในเรื่องของคุณภาพและแหล่งที่มาตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค และอาจเข้าข่าย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ การนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ

พร้อมฝากประชาสัมพันธ์ว่า การซื้อทองอยากให้ซื้อจากหน้าร้านที่มีความน่าเชื่อถือ บอกราคาชัดเจน มีที่ตั้งชัดเจน ส่วนร้านออนไลน์ ก็ขอให้ใช้ดุลยพินิจให้มากขึ้นในการที่จะซื้อ

วิเคราะห์ ท้าวเวสสุวรรณ หน้าร้านทองถูกปิดตา

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่หลายคนตั้งข้อสังเกตและสงสัย หลังปรากฏภาพ ท้าวเวสสุวรรณ มีผ้าแดง ปิดตา ตั้งอยู่หน้าร้านทองของแม่ตั๊ก

ล่าสุด หมอปลาบอกกับทีมข่าวว่า ถ้ามองในแง่ดี ถือว่าท้าวสุวรรณองค์นี้ยังไม่มีการเบิกเนตร ยังไม่มีการบวงสรวง แต่จริง ๆ แล้ว ท้าวเวสสุวรรณองค์นี้ น่าจะเบิกเนตรและอยู่มานานแล้ว การเอาผ้าแดงมาปิดตา เป็นไปได้ว่าไม่อยากให้ท่านเห็นว่ากำลังทำในสิ่งที่ไม่ดี

ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังผู้จัดการร้านทอง ให้คำตอบว่า สาเหตุที่ต้องปิดตารูปปั้นท้าวเวสสุวรรณ เนื่องจากยังไม่ได้ทำพิธีเบิกเนตรตามความเชื่อ จึงต้องใช้ผ้าสีแดงปิดตาไว้ก่อน

ทั้งนี้ บริเวณหน้าร้านทอง ยังมีรูปปั้นปี่เซียะและสิงโตทองตั้งอยู่ด้วย รวมทั้งรูปปั้นไอ้ไข่ โดยรูปปั้นทั้งหมดเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อ

ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35